ps 708 pongson 4 feb 2011 line 1 (1)

33
คคคคคคคคคคคคค PS 708 คคคคคคคคคคคคค คคคคคค Organization and Management คค.คคคคคคคคค คคคคคคคคคคค คคคคคค 4 คคคคคคคคคค 2554 คคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค คคคคคคค คคค คคคคคคคคคคคคคคคคคคคค คคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค คคคคคคคค ค คคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค (คคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค คคคคคคคคคคค คคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค คคคคคคค) คคคคคคคคคคคคคคคคคคคค คคคคคคคคค คคคคคคค คคคคคคคคคคคคคคคคค คคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค คคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค คคคคคคคคคคค คคคคคคคคคค คคคคคคคคคคคคค คคคคคคคค คคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค คคคคคคคคค คคคคคคคคคคคคคคคคคค คคคคคคค คคคคคคคคคคคคคคคคคคค คคคคคคคคคคคคคคคคคค คคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค คคคคคคค คคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค คคคคคคคคคคคคคคคคคคค 1

Upload: prapun-waoram

Post on 29-Jul-2015

39 views

Category:

Documents


1 download

TRANSCRIPT

Page 1: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

คำ��บรรย�ยวิ�ช� PS 708 องคำ ก�รและก�รจั�ดก�รOrganization and Management

รศ.พงศ สั�ณห์ ศร�สัมทร�พย วิ�นท�� 4 ก�มภ�พ�นธ์ 2554

คำวิ�มห์ม�ยขององคำ ก�รและก�รบร�ห์�รองคำ ก�ร คื�อ หน่�วยของการบร�หารงาน่ เน่�น่โคืรงสร�าง

ของคืวามส�มพั�น่ธ์�ระหว�างส�วน่ต่�าง ๆ แต่�ละส�วน่ต่�างม�หน่�าที่�!เฉพัาะ (เม�!อพั#ดถึ&งองคื�การให�น่&กถึ&งต่(าแหน่�ง อ�ต่ราก(าล�ง แต่�ละแผน่กเก�!ยวพั�น่ก�น่อย�างไร)

คำวิ�มห์ม�ยของก�รบร�ห์�รก�รบร�ห์�ร ห์ม�ยถึ$ง คืวามพัยายามร�วมก�น่ของมน่+ษย�

ใน่การจะที่(างาน่ให�บรรล+ว�ต่ถึ+ประสงคื�ที่�!ก(าหน่ดอย�างม�ประส�ที่ธ์�ภาพั ประส�ที่ธ์�ผล และก�อให�เก�ดคืวามพัอใจ

การบร�หารจะเก�ดข&0น่ได�ต่�องเก�ดข&0น่ใน่องคื�การ ถึ�าเปร�ยบก�บมน่+ษย� องคื�การเปร�ยบเสม�อน่ร�างกาย การบร�หารเหม�อน่จ�ต่ว�ญาณของมน่+ษย�ต่�องไปด�วยก�น่ ด�งน่�0น่องคื�การจะต่�องม�การบร�หารที่�!ด�เพั�!อให�บรรล+เป3าหมายให�ได�

เพัราะฉะน่�0น่ใน่คืวามหมายเบ�0องต่�น่ เง�!อน่ไขของที่�0งองคื�การและการบร�หารเป4น่เง�!อน่ไขที่�!คืล�ายก�น่ คื�อ ต่�องม�ว�ต่ถึ+ประสงคื� ม�คืน่อย�างน่�อยสองคืน่ข&0น่ไป ม�การที่(างาน่ร�วมก�น่ ม�ร#ปแบบของคืวามส�มพั�น่ธ์�ภายใน่เก�ดข&0น่ และใน่การบร�หารงาน่จ(าเป4น่ต่�องม�ที่ร�พัยากรที่�!ต่�องใช้�ใน่การบร�หารงาน่ คื�อ 4’M ได�แก� Man ,Material ,Money

1

Page 2: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

,Management ซึ่&!งเป4น่ต่�วว�ดฐาน่คืวามส(าเร8จใน่การบร�หารงาน่

ประสั�ทธ์�ภ�พและประสั�ทธ์�ผลในก�รบร�ห์�ร1.ประส�ที่ธ์�ภาพัการบร�หาร = ผลงาน่ (ส�น่คื�า

และบร�การ)

ต่�น่ที่+น่ (คืวามพัยายาม) ใน่ระยะเวลาหน่&!ง

ประส�ที่ธ์�ภาพัใน่การบร�หาร (Efficiency) หมายถึ&ง อ�ต่ราส�วน่ระหว�างผลงาน่ที่�!ที่(าได� เที่�ยบก�บต่�น่ที่+น่ที่�!ใช้�ใน่ระยะเวลาหน่&!ง ๆ

ต่�น่ที่+น่สามารถึน่(าไปใช้�ใน่การจ�ดหาที่ร�พัยากร เช้�น่ คื�าจ�าง คื�าจ�ดหาเคืร�!องม�อเคืร�!องใช้� คื�าพั�ฒน่าอบรมหาคืวามร# �ใน่การจ�ดการ งบประมาณที่�0งหมดที่�!ใช้� น่(าไปเที่�ยบก�บผลงาน่หร�อผลผล�ต่ ก8จะเป4น่ประส�ที่ธ์�ภาพั

เช้�น่ การร�บปร�ญญาบ�ต่รคื�อผลผล�ต่ แต่�กว�าจะที่(าให�เก�ดผลผล�ต่น่�0น่ต่�องเส�ยต่�น่ที่+น่ต่�อหน่�วยก�!บาที่ จะเป4น่ประส�ที่ธ์�ภาพั เช้�น่ น่�กศึ&กษาใน่โคืรงการเคืร�อข�ายจะม�ต่�น่ที่+น่ต่�อหน่�วยแต่กต่�างก�บน่�กศึ&กษาที่�!อย#�บางน่า/สอน่สด

การเพั�!มประส�ที่ธ์�ภาพั เช้�น่ กรณ�ส�วน่ราช้การพัยายามลดอ�ต่ราก(าล�งคืน่ก8ถึ�อเป4น่ประส�ที่ธ์�ภาพัเช้�น่ก�น่ ,การเพั�!มผลผล�ต่ ,การลดต่�น่ที่+น่ต่�าง ๆ

ใน่การบร�หารงาน่ที่�!ด� เน่�!องจากที่ร�พัยากรม�จ(าก�ด ผ#�บร�หารจ&งม�หน่�าที่�!หาที่างที่�!จะที่(าให�การบร�หารน่�0น่เป4น่ไปต่ามหล�กประส�ที่ธ์�ภาพัที่�0งภาคืร�ฐและภาคืเอกช้น่

2

Page 3: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

ประส�ที่ธ์�ภาพัเป4น่ mean คื�อ ที่(าอย�างไรให�ลดต่�น่ที่+น่ ใช้�ที่ร�พัยากรน่�อย ๆ ส#ญเส�ยน่�อย ก8จะที่(าให�ประส�ที่ธ์�ภาพัส#ง (high Efficiency) เช้�น่ ประหย�ดพัล�งงาน่ใน่การผล�ต่ส�น่คื�าต่�าง ๆ รวมที่�0งผ#�ปฏิ�บ�ต่�งาน่คืวรจะพัยายามที่�!จะลดการใช้�ที่ร�พัยากรบางประเภที่ให�ต่(!า

2.ประส�ที่ธ์�ผล = ผลงาน่ที่�!ที่(าได�ผลงาน่ที่�!ต่� 0งใจไว�ใน่ช้�วงเวลาหน่&!งๆ

ประส�ที่ธ์�ผลใน่การบร�หาร (Effectiveness) หมายถึ&ง อ�ต่ราส�วน่ผลงาน่ที่�!ที่(าได�เม�!อเปร�ยบเที่�ยบเป3าหมายที่�!ก(าหน่ดไว�

*ประส�ที่ธ์�ผลม+�งส#�การบรรล+เป3าหมาย(ends) เช้�น่ มหาว�ที่ยาล�ยต่�0งเป3าหมายว�าจะผล�ต่มหาบ�ณฑิ�ต่ก�!รายเพั�!อเข�าร�บพัระราช้ที่าน่ปร�ญญาบ�ต่ร

ห์น(�ท��ในก�รบร�ห์�รง�น คำ)อ จ�ดสรรที่ร�พัยากรให�ก�บหน่�วยงาน่เพั�!อให�เก�ดผลผล�ต่ต่ามเป3าหมายที่�!ก(าหน่ดด�วยต่�น่ที่+น่ที่�!ต่(!า

ที่ร�พัยากรที่�0ง 4 ต่�วจะถึ#กป3อน่ให�เข�าส#�ระบบของการบร�หารงาน่ ซึ่&!งหน่�วยใน่การบร�หารงาน่ก8คื�อองคื�การ ซึ่&!งจะที่(าหน่�าที่�!ใน่การเปล�!ยน่แปลงที่ร�พัยากรที่างการบร�หารให�เป4น่ส�น่คื�า (Goods) และบร�การ (Services) ด�งร#ป

4 ‘M องคื�การ Goods & Services

คำวิ�มแตกต+�งของคำ��วิ+� Management ก�บ Administration

-Management : การจ�ดการ ม�กจะใช้�ก�บผ#�บร�หารใน่องคื�การระด�บล�าง เช้�น่ ผ#�จ�ดการ (ด#แลภารก�จเฉพัาะ

3

Page 4: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

ด�าน่/เฉพัาะที่าง) เน่�น่เที่คืน่�คืเฉพัาะ ไม�ม�คืวามผ#กพั�น่ก�บองคื�การ หากที่(าภารก�จไม�ส(าเร8จจะจะเปล�!ยน่ผ#�จ�ดการได�

Management Science : ว�ที่ยาการจ�ดการ หมายถึ&ง ศึาสต่ร�ที่�!ว�าด�วยการน่(าเที่คืโน่โลย�สม�ยใหม�เข�ามาประย+กต่�ใช้�ใน่การบร�หารงาน่ เช้�น่ น่(าเที่คืโน่โลย�สารสน่เที่ศึมาประย+กต่�ใช้�จ&งที่(าให�เก�ด E – Government เช้�น่ การจ�ายเง�น่ภาษ�ที่�!บ�าน่ ,One stop service การจ�ายภาษ�รถึยน่ต่� โดยผ�าน่เที่คืโน่โลย�สารสน่เที่ศึที่�!เช้�!อมโยงฐาน่ข�อม#ลเข�าด�วยก�น่

-Administration : การบร�หาร ม�กจะใช้�ใน่ระด�บมหภาคื (ระด�บน่โยบาย) หร�อใช้�ก�บผ#�บร�หารระด�บส#งใน่องคื�การ ซึ่&!งม�หน่�าที่�!ก(าหน่ดน่โยบายขององคื�การ จะผ#กพั�น่ก�บน่โยบาย

Administration Science หมายถึ&ง ศึาสต่ร�ที่างการบร�หาร เป4น่การมองการบร�หารใน่ภาพัรวม บางคืร�0งต่�0งเป4น่คืณะบร�หารศึาสต่ร� แบ�งเป4น่สาขาบร�หารธ์+รก�จ ,สาขาบร�หารร�ฐก�จ เป4น่การแยกการบร�หารออกจากการเม�อง

Administration Science เป4น่การเร�ยน่ว�ช้าการการวางแผน่ ,การจ�ดองคื�การ ,การบร�หารงาน่บ+คืคืล ,การจ�ดที่(างบประมาณ ,การประสาน่งาน่และการคืวบคื+ม

การบร�หารเป4น่ที่�0ง Science & Art of Administration

การบร�หารจะเป4น่ที่�0งศึาสต่ร�และศึ�ลปะ ว�ช้าการบร�หารใน่บางย+คืม�กจะจ�ดหล�กส#ต่รส(าหร�บผ#�ที่�!ได�ร�บการส�งเสร�มให�เป4น่ผ#�บร�หาร มองว�าน่�กบร�หารต่�องม�หน่�าที่�! 7 ประการ เร�ยกว�า

4

Page 5: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

POSDCORB เช้�น่ หล�กส#ต่รส(าหร�บผ#�บร�หารระด�บกลาง/ระด�บส#ง ,หล�กส#ต่ร MBA (ผ#�ที่�!ม�คืวามร# �จ&งส�งไปเร�ยน่ใน่ระด�บปร�ญญาโที่) เช้�น่ การบร�หารด�าน่การศึ&กษา ,การบร�หารด�าน่สาธ์ารณส+ข

ประเภทขององคำ ก�ร (หน่�า 11 –ที่�ายบที่)

1. พ�จั�รณ�จั�กโคำรงสัร(�งและคำวิ�มสั�มพ�นธ์ ภ�ยใน องคื�การม� 2 ประเภที่ คื�อ

(1) องคื�การที่�!เป4น่ที่างการ (Formal

Organization) คื�อองคื�การที่�!ม�กฎเกณฑิ�มาก โคืรงสร�างช้�ดเจน่ คืงต่�วมาก ระบ+ต่(าแหน่�งหน่�าที่�!ช้�ดเจน่ เปล�!ยน่แปลงได�ยาก เช้�น่ องคื�การของภาคืร�ฐใน่ระด�บกรมต่�าง ๆ,ราช้การส�วน่ที่�องถึ�!น่ ,ร�ฐว�สาหก�จ จะม�กฎหมายจ�ดต่�0ง องคื�การเช้�น่น่�0จะม�คืวามเป4น่ที่างการส#ง

(2) องคื�การที่�!ไม�เป4น่ที่างการ (Informal

Organization) คื�อองคื�การที่�!ม�โคืรงสร�างหลวม ย�ดหย+�น่ง�าย ไม�ระบ+ต่(าแหน่�งแน่�น่อน่ เปล�!ยน่แปลงได�ง�าย ม�กเป4น่องคื�การเฉพัาะก�จ ไม�ม�กฎหมายรองร�บ เช้�น่ เก�ดไฟไหม� ที่+กคืน่ใน่ห�องน่�0มาช้�วยก�น่ด�บไฟ พัอไฟด�บก8สลายต่�ว ,การจ�ดก�จกรรมงาน่สงกราน่ต่� ม�คืณะกรรมการที่(าหน่�าที่�!ต่�าง ๆ แต่�เม�!อส�0น่ส+ดว�น่สงกราน่ต่�ก8สลายต่�ว ล�กษณะขององคื�การเช้�น่น่�0คืวามเป4น่ที่างการต่(!า

การว�ดคืวามเป4น่ที่างการ สามารถึว�ดได�โดยด#ว�าองคื�การน่�0น่ม�ข�อก(าหน่ดให�สมาช้�กม�ข�อปฏิ�บ�ต่�มากเพั�ยงใด เช้�น่ ม�คื#�ม�อใน่การที่(างาน่ ,ม�การบ�งคื�บให�ที่(างาน่ต่ามคื#�ม�อก8จะม�คืวามเป4น่ที่างการมาก เช้�น่ งาน่ของธ์น่าคืารจะม�คืวามเป4น่ที่างการส#ง

5

Page 6: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

กว�างาน่การสอน่ใน่มหาว�ที่ยาล�ย ใน่ที่างกล�บก�น่ถึ�าม�อ�สระส#งก8จะม�คืวามเป4น่ที่างการน่�อยกว�า

องคื�การขน่าดใหญ�ม�กม�องคื�การที่�!ไม�เป4น่ที่างการแที่รกซึ่�อน่อย#�ภายใน่ เพั�!อที่�!จะบ(าบ�ดคืวามต่�องการของส�งคืม องคื�การว�ดขน่าดด�วย..

-จ(าน่วน่สมาช้�ก เช้�น่ องคื�การขน่าด 10 คืน่ ,องคื�การขน่าด 1,000 คืน่ ฯลฯ

-งบประมาณต่�อป@ เพัราะเง�น่เป4น่ต่�วบอกระด�บการจ�ดสรรที่ร�พัยากรขององคื�การ

*ย+คืคืลาสส�กไม�ต่�องการให�ม�องคื�การที่�!ไม�เป4น่ที่างการ

แต่�มาใน่ย+คืหล�งคืลาสส�กกล�บมองว�า การรวมกล+�มก�น่ของสมาช้�กใน่องคื�การม�ประโยช้น่�หลายอย�าง

คำวิ�มจั��เป.นห์ร)อประโยชน ขององคำ ก�รท��ไม+เป.นท�งก�ร ได(แก+

(1) ต่อบสน่องคืวามต่�องการของส�งคืม(2) สร�างคืวามร# �ส&กที่�!ด�ที่�!ได�เป4น่เจ�าของของคืน่ใน่

องคื�การ(3) คื�น่หาบ+คืคืลที่�!ม�พัฤต่�กรรมคืล�ายต่น่เอง(4) เป4น่ที่�!ระบายคืวามร# �ส&ก(5) เป4น่โอกาสใน่การแสดงอ�ที่ธ์�พัล(6) เป4น่โอกาสใน่การแสดงออกที่างว�ฒน่ธ์รรมประเพัณ�(6) ช้�วยหาข�าวสารและการต่�ดต่�อผ�าน่ช้�องที่างต่�าง ๆ

เช้�น่ ผ�าน่สโมสร/ช้มรม2. พ�จั�รณ�จั�กก��เน�ดขององคำ ก�ร

6

Page 7: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

1. องคื�การที่�!เพั�!งเก�ด (Primary Organization)

คื�อองคื�การที่�!คืน่ใน่องคื�การเป4น่ร+ �น่แรก เป4น่ว�ยที่(างาน่ จ&งม�พั�น่ธ์ะผ#กพั�น่ก�บองคื�การส#ง เข�ามาโดยม�ว�ต่ถึ+ประสงคื�ร�วมก�น่ เข�าใจว�ต่ถึ+ประสงคื�ขององคื�การ เช้�น่ อบต่. แต่�เม�!อองคื�การน่�0ม�อาย+ประมาณ 40 ป@ก8จะเร�!มเปล�!ยน่ถึ�ายไปเป4น่องคื�การที่�!เก�ดข&0น่น่าน่แล�ว

2. องคื�การที่�!เก�ดมาน่าน่แล�ว (Secondary

Organization) คื�อองคื�การที่�!คืน่ร+ �น่แรกเกษ�ยณไปหมดแล�ว ม�คืน่ร+ �น่ใหม�เข�ามาที่(างาน่แที่น่ คืน่จะผ#กพั�น่ก�บงาน่และภาระหน่�าที่�!เฉพัาะด�าน่ ไม�สน่ใจว�ต่ถึ+ประสงคื�ขององคื�การ เข�ามาโดยม�ส�ญญาที่�!จะต่�องที่(างาน่ให�องคื�การ

องคื�การที่�!เก�ดมาน่าน่แล�วจะม�อาย+ประมาณ 40 ป@ข&0น่ไป คืวามสามารถึใน่การเปล�!ยน่ถึ�ายม�คืวามส(าคื�ญ หากคืวามเช้�!ยวช้าญได�ถึ�ายโอน่ให�คืน่ร+ �น่หล�งหลายช้�!วอาย+คืน่ องคื�การน่�0น่ก8จะกลายเป4น่สถึาบ�น่ เช้�น่ ระบบราช้การเก�ดข&0น่ใน่สม�ยร�ช้กาลที่�! 5 ม�กฎหมายรองร�บ ม�พั.ร.บ.หลายฉบ�บเข�ามาเก�!ยวข�อง หน่�วยงาน่จ&งต่�องที่(างาน่ต่ามที่�!กฎหมายก(าหน่ด ม�การร�0อปร�บระบบหลายคืร�0ง จน่กลายเป4น่สถึาบ�น่ของส�งคืม

องคื�การม�เก�ด เต่�บโต่ เส�!อม เม�!อเส�!อมก8ต่�องพั�ฒน่าองคื�การไม�ให�ล�มหายต่ายจากไป ซึ่&!งระบบราช้การของไที่ยผ�าน่การพั�ฒน่ามาอย�างต่�อเน่�!อง เด�มการพั�ฒน่าระบบราช้การเป4น่หน่�าที่�!ของ ก.พั. ภายหล�งได�ให� ก.พั.ร. ด#แล

ด�งน่�0น่องคื�การที่�!เก�ดข&0น่น่าน่แล�วจะมองใน่แง�ของการพั�ฒน่าการใน่แต่�ละย+คืแต่�ละสม�ย ม�การเปล�!ยน่แปลงใน่แต่�ละสม�ย เช้�น่

7

Page 8: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

-สม�ยจอมพัลสฤษฎ�Bเก�ดการปฏิ�ร#ปใหญ�ใน่หน่�วยงาน่กลางของระบบราช้การ เช้�น่ ส(าน่�กงาน่ ก.พั. ซึ่&!งเป4น่แม�งาน่ที่�!ด#แลเร�!องก(าล�งคืน่ ,สภาพั�ฒน่�ฯด#และเร�!องแผน่พั�ฒน่าฯมหาภาคื ,ส(าน่�กงบประมาณด#แลเร�!องแผน่การใช้�จ�ายเง�น่ ,ส(าน่�กงาน่ต่รวจเง�น่แผ�น่ด�น่ , ,ส(าน่�กน่าน่กร�ฐมน่ต่ร�

-ป@ 2545 การปฏิ�ร#ประบบราช้การคืร�0งใหญ� ที่(าให�กระที่รวงของไที่ยเพั�!มเป4น่ 20 กระที่รวง รวมที่�0งม�การแก�ไขกฎหมายปกคืรองบางอย�าง เช้�น่ ที่+กส�วน่ราช้การม�หน่�าที่�!ต่�องที่ะน่+บ(าร+งว�ฒน่ธ์รรมต่ามเกณฑิ�ของร�ฐธ์รรมน่#ญ และต่�องม�หน่�าที่�!ที่(างาน่ต่ามน่โยบายของร�ฐ

3. พ�จั�รณ�จั�กวิ�ตถึ�ประสังคำ ขององคำ ก�ร ม� 2

ประเภที่ ได�แก�1. องคื�การที่�!แสวงหาก(าไร (Profit Organization)

ก(าไรเป4น่ต่�วต่�ดส�น่คืวามสามารถึใน่การที่(างาน่ องคื�การประเภที่น่�0จ&งแข�งก�น่หาก(าไร แต่�ก8ต่�องคื(าน่&งถึ&งประโยช้น่�สาธ์ารณะด�วย เช้�น่ องคื�การธ์+รก�จ ,องคื�การของภาคืร�ฐ เช้�น่ ร�ฐเป4น่เจ�าของธ์น่าคืาร ,ร�ฐว�สาหก�จ เช้�น่ การบ�น่ไที่ย ,ปต่ที่.

ฯลฯ

2. องคื�การที่�!ไม�แสวงหาก(าไร (Non Profit

Organization) องคื�การภาคืร�ฐส�วน่ใหญ�จะไม�แสวงหาก(าไร จ&งไม�ว�ดคืวามส(าเร8จด�วยผลก(าไร เพัราะองคื�การเหล�าน่�0ไม�เป4น่องคื�การที่�!พั�จารณาจากการขายส�น่คื�าและบร�การ เช้�น่

โรงพั�ก เป4น่การบร�การที่�!ใช้�เง�น่จากภาษ�อากร ต่�วช้�0ว�ดของโรงพั�ก คื�อ เขต่พั�0น่ที่�!ร �บผ�ดช้อบปลอดอาช้ญากรรม บ�าน่เร�อน่ไม�ต่�องล�อมร�0ว ,ร�บผ�ดช้อบจราจรใน่ช้+มช้น่

8

Page 9: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

4. พ�จั�รณ�จั�กนโยบ�ยของร�ฐต�ม พ.ร.บ.งบประม�ณ ม� 4 ประเภที่ ได�แก�

1. องคื�การด�าน่การศึ&กษา เช้�น่ โรงเร�ยน่ มหาว�ที่ยาล�ย2. องคื�การด�าน่สาธ์ารณส+ข ส+ขภาพัอน่าม�ย เช้�น่ โรง

พัยาบาล สถึาน่�อน่าม�ย3. องคื�การด�าน่คืวามม�!น่คืงและร�กษาคืวามสงบภายใน่

เช้�น่ กองที่�พั โรงพั�ก 4. องคื�การบร�การส�งคืม5.การเกษต่ร6.การบร�หารส�งคืม7.การป3องก�น่ประเที่ศึการเปร�ยบเที่�ยบจะต่�องเปร�ยบเที่�ยบระหว�างองคื�การที่�!

จ�ดสรรที่ร�พัยากรประเภที่เด�ยวก�น่ เช้�น่ มหาว�ที่ยาล�ยเที่�ยบก�บมหาว�ที่ยาล�ย ไม�สามารถึน่(าไปเที่�ยบก�บโรงพัยาบาลได� เพัราม�ต่�วช้�0ว�ดที่�!แต่กต่�างก�น่

5. พ�จั�ณ�จั�กคำวิ�มเป.นเจั(�ของ ม� 2 ประเภที่ ได�แก�1. ร�ฐเป4น่เจ�าของ คื�อองคื�การที่�!ประช้าช้น่ที่�0งประเที่ศึ

เป4น่เจ�าของร�วมก�น่ ที่(าให�ผ#�ที่�!เป4น่เจ�าของมาบร�หารเองไม�ได� จ&งม�การส�งต่�วแที่น่เป4น่ผ#�ด#แลแที่น่ ม�กฎกต่�กาเพั�!อคื+�มคืรองผลประโยช้น่�ของประช้าช้น่โดยรวม ไม�ให�คืน่กล+�มใดกล+�มหน่&!งเข�าไปแสวงหาประโยช้น่�ให�ต่น่เอง การเปล�!ยน่แปลงหร�อยกเล�กจะต่�องผ�าน่กระบวน่การน่�ต่�บ�ญญ�ต่� หร�อให�กฎหมายก(าหน่ด เช้�น่ การรถึไฟฯ

2. เอกช้น่เป4น่เจ�าของ

9

Page 10: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

ต�วิช�1วิ�ดคำวิ�มสั��เร2จัขององคำ ก�ร ประกอบด(วิย 5 E

1. ประส�ที่ธ์�ภาพั (Efficiency)

2.ประส�ที่ธ์�ผล (Effectiveness)

3.คืวามเสมอภาคื (Equality) เช้�น่ การให�บร�การล#กคื�าของหน่�วยงาน่คืน่ที่+กเพัศึที่+กว�ยเสมอภาคืก�น่

4.คืวามย+ต่�ธ์รรม (Equity) ผ#�บร�โภคืต่�องม�การคื+�มคืรองคื+ณภาพัของส�น่คื�า เช้�น่ ใน่ระบบการศึ&กษาจะม�ระบบประก�น่คื+ณภาพัด�วยการที่�!ร �ฐม�การร�บรองคื+ณภาพัโดยหน่�วยงาน่กลางต่�าง ๆ ผ#�ให�บร�การต่�องให�บร�การที่�!มาต่รฐาน่และย+ต่�ธ์รรม เช้�น่ อาจารย�สอน่ ๆก8เล�กสอน่ไปโดยปร�ยาย จะเห8น่ว�าไม�ย+ต่�ธ์รรม อ+ต่ส�าห�มาเร�ยน่ไกล

5.ส�!งแวดล�อม (Ecology) หมายคืวามว�า ส�!งที่�!อย#�ภายใน่และภายน่อกของหน่�วยงาน่สาธ์ารณะ ม�อ�ที่ธ์�พัลต่�อการที่(างาน่ และการบร�หารต่�องคื(าน่&งถึ&งด+ลยภาพัของส�!งแวดล�อมเสมอ ส�!งแวดล�อมจ&งม�คืวามส(าคื�ญต่�อการบร�หารงาน่อย�างย�!ง การบร�หารงาน่ที่�!ด�จะต่�องที่(าให�ส�!งแวดล�อมได�ร�บการอน่+ร�กษ�ให�ถึ&งคืน่ร+ �น่ต่�อไป ไม�ใช้�บร�หารแล�วที่(าให�ส�!งแวดล�อมเส�ย ส�งผลให�เก�ดภาวะโลกร�อน่ ส�!งแวดล�อมเป4น่โลกาภ�ว�ต่น่� กระที่บกระเที่�อน่ก�น่ที่�0งโลก น่อกจากน่�0ใน่แง�ของการให�บร�หารใน่หน่�วยงาน่ เราได�น่(าที่ร�พัยากรมาจากส�!งแวดล�อมเพั�!อมาผล�ต่ส�น่คื�าและบร�การ แล�วป3อน่กล�บคื�น่ส�!งแวดล�อม

ป@น่�0กรมแรงงาน่ได�ประมาณการว�าจะม�อ�ต่ราการว�างงาน่ส#งประมาณ 90 % ปCจจ+บ�น่คืน่จบสาขาใดมาก8สามารถึจะไปที่(างาน่ไม�ต่รงสาขาก8ได�ต่ามคืวามสม�คืรใจ เพัราะเป4น่ส�ที่ธ์�

10

Page 11: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

เสร�ภาพัที่�!ผ#�จบเล�อก ต่�างจากใน่อด�ต่สม�ย ร.5 ม�โรงเร�ยน่ฝึEกห�ดข�าราช้การ หร�อเร�ยน่จบร�ฐศึาสต่ร�มาจะต่�องเป4น่ข�าราช้การอย�างเด�ยว

ธ์รรม�ภ�บ�ล (Good Governance)

องคื�การสหประช้าช้าต่�ได�เสน่อเกณฑิ�ให�องคื�การที่�!วโลกย&ดหล�กการจ�ดการบ�าน่เม�องที่�!ด�ร�วมก�น่ ฝึร�!งเร�ยกว�า Good

Governance เราเร�ยกว�าธ์รรมร�ฐหร�อธ์รรมาภ�บาล โดยประย+กต่�เอาหล�กการของ UN มาใช้�

Wikipedia Encyclopedia ได�สร+ปองคื�ประกอบของ Good Governance ไว� 8 ประการ ได�แก�

1. Participation (การม�ส�วน่ร�วม) คื�อ-เปFดโอกาสให�เข�ามาม�ส�วน่ร�วมอย�างเสมอภาคืระหว�าง

ช้ายและหญ�ง -อาจเข�ามาม�ส�วน่ร�วมโดยต่รง โดยต่�วแที่น่ หร�อโดย

สถึาบ�น่ที่างการเม�อง เน่�น่การกระจายอ(าน่าจ -ต่�องให�ผ#�ที่�!ม�ส�วน่เก�!ยวข�องม�เสร�ภาพัใน่การแสดงออก

และเข�าร�วมที่�0งโดยต่น่เองและใน่กระบวน่การประช้าส�งคืม และการฟCงเส�ยงประช้าช้น่ที่�!ได�ผลกระที่บ เช้�น่ ม�เวที่�สาธ์ารณะ ,ม�ระบบคืณะกรรมการต่�าง ๆ เช้�น่ กต่�กาการศึ&กษาต่ามเกณฑิ�ของสมศึ.

2. Rule of Law (หล�กกฎหมาย)

-หน่�วยงาน่สาธ์ารณะที่+กประเภที่จะม�กฎหมายรองร�บ และได�ร�บการคื+�มคืรองภายใต่�กฎหมายเด�ยวก�น่

-ระบบย+ต่�ธ์รรมต่�องเป4น่อ�สระ ไม�ถึ#กแที่รกแซึ่ง -ต่�องย&ดหล�กจร�ยธ์รรม

11

Page 12: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

3. Transparency (โปร�งใส)

-การต่�ดส�น่ปCญหาต่�าง ๆใน่ระบบราช้การต่�องเป4น่ไปต่ามหล�กการปกคืรอง

-ประช้าช้น่ผ#�ม�ส�วน่ได�เส�ยสามารถึเข�าถึ&งและต่รวจสอบข�าวสารที่�!เก�!ยวข�องก�บต่น่เองได� และปCจจ+บ�น่ได�ม� พั.ร.บ.ข�อม#ลข�าวสารมาคื+�มคืรองประช้าช้น่

4. Responsibility (คืวามร�บผ�ดช้อบ)

-หน่�วยงาน่ของร�ฐต่�องบร�หารจ�ดการโดยย&ดหล�กคืวามร�บผ�ดช้อบที่�0งต่�อล#กคื�าและเคืร�อข�ายที่�!เก�!ยวข�อง โดยม�ก(าหน่ดระยะเวลาที่�!ช้�ดเจน่ (หล�กคืวามร�บผ�ดช้อบเป4น่ส�วน่หน่&!งของหล�กคืวามย+ต่�ธ์รรม เพัราะเม�!อให�บร�การแล�วจะต่�องม�พั�น่ธ์ะผ#กพั�น่และคืวามร�บผ�ดช้อบ)

5. Consensus Orientation (การยอมร�บร�วมก�น่)

-การที่(างาน่ใน่หน่�วยงาน่ภาคืร�ฐจะต่�องพัยายามให�เก�ดการยอมร�บร�วมก�น่ แต่�ต่�องฟCงเส�ยงคืน่ส�วน่น่�อยด�วย พัร�อมที่�0งเจรจาต่�อรองหาที่างให�ยอมร�บร�วมก�น่เพั�!อประโยช้น่�ส#งส+ดของช้+มช้น่ มองผลระยะยาวและมองหล�กแห�งคืวามด�เป4น่หล�ก เพั�!อให�เก�ดคืวามสมาน่ฉ�น่ที่�

-ให�คืวามส(าคื�ญต่�อการพั�ฒน่าที่�!ย� !งย�น่ 6. Equity and Inclusiveness (หล�กคืวาม

ย+ต่�ธ์รรม)

-หล�กการที่�!ที่(าให�ประช้าช้น่ร# �ส&กว�าเป4น่ส�วน่หน่&!งของช้+มช้น่ และม�โอกาสใน่การพั�ฒน่าไปส#�การม�ช้�ว�ต่ที่�!ด� เช้�น่ การให�บร�การของภาคืร�ฐจะต่�องย&ดประช้าช้น่เป4น่หล�ก ที่(าให�ประช้าช้น่ม�โอกาสเข�าถึ&งช้�ว�ต่ที่�!ด�

12

Page 13: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

7. Effectiveness and Efficiency (ประส�ที่ธ์�ผลและประส�ที่ธ์�ภาพั)

-ใช้�ที่ร�พัยากรอย�างประหย�ด(ต่�น่ที่+น่ต่(!า) คื(าน่&งถึ&งส�!งแวดล�อม และเป4น่ไปต่ามแผน่ที่�!ก(าหน่ด(ประส�ที่ธ์�ผล)

8. Accountability (คืวามร�บผ�ดช้อบต่�อประช้าช้น่)

-ร�ฐ ธ์+รก�จเอกช้น่ และภาคืประช้าส�งคืมต่�องร�บผ�ดช้อบหร�อม�พั�น่ธ์ะผ#กพั�น่ต่�อประช้าช้น่ที่�!ได�ร�บผลกระที่บจากการต่�ดส�น่ใจของสถึาบ�น่เหล�าน่�0น่

พัระราช้ก�จจาว�าด�วยการจ�ดการบ�าน่เม�องที่�!ด� ได�ก(าหน่ดหล�กเกณฑิ�ที่�!จะให�หน่�วยงาน่ภาคืร�ฐเป4น่หน่�วยที่�!ด� โดย กพัร.

จะให�โบน่�สแก�หน่�วยงาน่ที่�!ที่(าได�ต่ามเกณฑิ� ม�องคื�การย+คืใหม�หลายประเภที่ที่�!ถึ#กจ�ดต่�0งข&0น่มา เพั�!อประเม�น่และว�ดคืวามส(าเร8จขององคื�กร เช้�น่ ส(าน่�กงาน่การอ+ดมศึ&กษาและส(าน่�กมาต่รฐาน่การศึ&กษา (สมศึ.) ที่(าหน่�าที่�!ประเม�น่คื+ณภาพัของสถึาบ�น่การศึ&กษา

หล�กเกณฑิ�เหล�าน่�0ที่+กส�วน่ราช้การใน่โลกน่�0พั&งใช้�หล�กร�วมก�น่ใน่บที่บาที่หน่�าที่�!ของภาคืร�ฐ รวมที่�0งภาคืเอกช้น่แม�ว�าจะม+�งผลก(าไรแต่�ก8ม�คืวามร�บผ�ดช้อบต่�อหน่�าที่�!และต่�อสาธ์ารณะร�วมก�น่ ด�งน่�0น่ต่�วช้�0ว�ดคืวามส(าเร8จต่�าง ๆต่�องด#ว�าคื+ณสมบ�ต่�ที่� 0ง 8 ด�าน่เหล�าน่�0ต่�องได�ร�บการด#แลใน่หน่�วยงาน่หน่&!ง ๆ

-ISO คื�อ การร�บรองมาต่รฐาน่คื+ณภาพัหน่�วยงาน่ที่�!ด�ของต่�างประเที่ศึ

-PSO คื�อ การร�บรองมาต่รฐาน่คื+ณภาพัโดยส(าน่�กงาน่ ก.พั. (กระแสเม�!อ 10 ป@ที่�!ผ�าน่มา (หน่�า 33))

-JSO คื�อ การร�บรองมาต่รฐาน่คื+ณภาพัโดยศึาล

13

Page 14: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

........เน)1อห์�ก�รบรรย�ยของอ�จั�รย แต+ละท+�นท��บรรย�ย

วิ�ช� PS 708

1.อาจารย�พังส�ณฑิ� เน่�น่เน่�0อหาการบรรยายเก�!ยวก�บแน่วคื�ดที่ฤษฎ� กล+�มน่�กว�ช้าการต่�าง ๆ และโคืรงสร�างขององคื�การ

2.อาจารย�ส+วรรณ� เน่�น่เน่�0อหาการบรรยายเก�!ยวก�บพัฤต่�กรรมองคื�การและการพั�ฒน่าองคื�การ

3.อาจารย�ปFยน่+ช้ .......ส�!งแวดล�อมต่ามแน่วคื�ดของบาร�ต่�น่และเช้สเต่อร� แบ�ง

ออกเป4น่ 2 ระด�บ คื�อ (หน่�า 24 -25)

1.ส�!งแวดล�อมภายน่อก คื�อ เศึรษฐก�จ ส�งคืม เที่คืโน่โลย� หมายถึ&ง ปCจจ�ยใน่ส�งคืมที่�!แต่�ละส�งคืมจะม�ปCจจ�ยเหล�าน่�0แต่กต่�างก�น่ก8จะม�ผลกระที่บต่�อหน่�วยงาน่ที่�!แต่กต่�างก�น่ บางประเที่ศึม�ปCญหาส�งคืมมาก บางประเที่ศึม�ปCญหาที่างส�งคืมน่�อย บางประเที่ศึม�ปCญหาด�าน่ส+ขภาพั อน่าม�ย ด�าน่การศึ&กษามาก ก8จะใช้�ต่�น่ที่+น่มากใน่การด#แลส�!งเหล�าน่�0น่ ,บางประเที่ศึที่�ปCญหาเศึรษฐก�จ บางประเที่ศึม�ระด�บการพั�ฒน่าที่�!ด�หร�อด�อยพั�ฒน่า เช้�น่ ประเที่ศึที่�!ม�เที่คืโน่โลย�ด� หมายถึ&ง โคืรงสร�างระบบการส�!อสารของส�งคืมด� ,ระบบคืมน่าคืมด�

2.ส�!งแวดล�อมที่างการเม�องหร�อส�!งแวดล�อมเฉพัาะของส�งคืมหน่&!ง ๆ เป4น่เหต่+ให�น่โยบายของแต่�ละส�งคืมน่�0น่แต่กต่�างก�น่ ส�วน่ราช้การต่�าง ๆเป4น่ผ#�น่(าน่โยบายของร�ฐไปปฏิ�บ�ต่�

ส�!งที่�!เป4น่อ+ปสรรคืต่�อการที่(างาน่หร�อการก(าหน่ดน่โยบายที่�!ด� ได�แก�

14

Page 15: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

1.พัลเม�อง คืวามต่�องการของพัลเม�อง2.กล+�มผลประระโยช้น่�ต่�าง ๆใน่ส�งคืม เช้�น่ กล+�มส�งคืม

เกษต่ร กล+�มส�งคืมอ+ต่สาหกรรม กล+�มส�งคืมพัาณ�ช้ยกรรม ,กล+�มผลประโยช้น่�อ�!น่ ๆ ซึ่&!งเราจะต่�องประสาน่กล+�มผลประโยช้น่�ต่�าง ๆเข�าด�วยก�น่ให�ได�

3.หน่�วยงกลางที่�!ที่(าคืวามเข�าใจระหว�างประช้าช้น่ก�บภาคืร�ฐ คื�อ ส�!อมวลช้น่ ต่�องเป4น่ผ#�ที่�!ให�ข�อเที่8จจร�งต่�าง ๆให�ที่+กฝึGายเข�าใจต่รงก�น่

4.ฝึGายน่�ต่�บ�ญญ�ต่� หมายถึ&ง หน่�วยที่�!ที่(าหน่�าที่�!ออกกฎหมาย แก�ไขกฎหมาย และก(าก�บต่รวจสอบการที่(างาน่ของร�ฐบาล

5.ฝึGายบร�หาร ได�แก� ส�วน่ที่�!มาจากฝึGายการเม�องที่�!หม+น่เว�ยน่ก�น่ที่+ก ๆ 4 ป@ ,ฝึGายที่�!อย#�ประจ(า เช้�น่ อธ์�บด� ,ปล�ด เป4น่ผ#�ที่�!เต่�บโต่ต่ามเส�น่ที่างของผ#�ปฏิ�บ�ต่�งาน่ใน่องคื�การแต่�ละประเภที่และเป4น่ผ#�บร�หารส#งส+ด ซึ่&!งจะม�บที่บาที่ใน่การก(าหน่ดน่โยบาย

6.ฝึGายย+ต่�ธ์รรม ได�แก� ต่(ารวจ อ�ยการ ศึาล องคื�กรอ�สระต่�าง ๆ

คำวิ�มจัร�งม� 2 ระด�บ คำ)อ1. คืวามจร�งเฉพัาะ (Fact) คืวามจร�งใน่ย+คืหน่&!งสม�ย

หน่&!ง เช้�น่ ย+คืแมกซึ่� เวเบอร� ไม�ม�โที่รเลขและคือมพั�วเต่อร� การบร�หารโดยใช้�คื#�ม�อจ&งเหมาะสม หล�กเอกภาพัใน่การบ�งคื�บบ�ญช้าเป4น่ส�!งจ(าเป4น่ แต่�ปCจจ+บ�น่มน่+ษย�ที่(างาน่ได�หลากหลาย เพัราะมองว�าต่�องใช้�ที่ร�พัยากรที่�!ม�อย#�ให�คื+�มคื�า คืน่หน่&!งๆต่�อง

15

Page 16: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

ที่(าหน่�าที่�!ได�หลายหน่�าที่�! ที่ฤษฎ�ที่างการบร�หารจ&งเป4น่คืวามจร�งใน่ย+คืหน่&!ง พัอเวลาเปล�!ยน่ก8จะกลายเป4น่ที่ฤษฎ�โบราณ

2. คืวามจร�งสากล (Truth) คื�อคืวามจร�งที่�!ไม�เปล�!ยน่แปลง เช้�น่ โลกม�ส�ณฐาน่กลมและหม+น่รอบต่�วเอง พัระอาที่�ต่ย�ข&0น่ที่างที่�ศึต่ะว�น่ออก ต่กที่างที่�ศึต่ะว�น่ต่ก

วิ�ธ์�ก�รทดสัอบสัมม�ต�ฐ�น (Hypothesis) ม�ด�งน่�01. การที่ดลอง (Experimentation) เช้�น่ การที่ด

ลองที่�!ฮอว�ธ์อร�น่ได�แบ�งคืน่งาน่ออกเป4น่สองกล+�มคื�อ กล+�มที่ดลองและกล+�มคืวบคื+ม แล�วที่(าการเปร�ยบเที่�ยบ

2. การว�จ�ยสน่าม (Field Study) ส�งเกต่ส�!งที่�!เก�ดข&0น่แล�วจดบ�น่ที่&ก เช้�น่ ต่�องการว�จ�ยปล�ดอบต่.แห�งหน่&!งว�าบร�หารอย�างไรก8ลงไปน่�!งเฝึ3าปล�ดระยะหน่&!งให�คืรบฤด#กาล ก8จะสามารถึอธ์�บายปรากฏิการณ�น่�0น่ได� เม�!อเกษ�ยณได�เข�ยน่เป4น่หน่�งส�อให�คืน่ร+ �น่หล�งน่(าไปใช้�ประโยช้น่� ,อยากร# �ว�าน่ายกฯบร�หารราช้การอย�างไร ก8เด�น่ต่ามน่ายกฯ เช้�น่ อาจารย�ปณ�ธ์ารเด�น่ต่ามหล�งน่ายกฯเป4น่ประจ(าก8สามารถึเข�ยน่ต่(าราได�

3. การว�จ�ยส(ารวจ (Survey Research) คื�อ การน่(าที่ฤษฎ�ที่�!ม�อย#�ไปพั�ส#จน่�คืน่ที่�!เก�!ยวข�องว�าเป4น่จร�งอย#�หร�อไม� อาจใช้�แบบสอบถึามแบบและม�โคืรงสร�าง ,หร�อเป4น่การศึ&กษาจากต่(าราที่�!ผ#�อ�!น่เข�ยน่ไว�ก8ได�

แนวิท�งก�รศ$กษ�องคำ ก�รและก�รบร�ห์�ร1. Closed System Perspective (ก�ร

ศ$กษ�โดยใช(แนวิท�งระบบป4ด)

น�กวิ�ช�ก�รท��อย5+ในกล�+มน�1 ได(แก+

16

Page 17: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

1. Classical Organization Theory น�กทฤษฎี�องคำ ก�รกล�+มคำล�สัสั�ก แบ�งย�อยเป4น่…

(1) Scientific Management การจ�ดการแบบว�ที่ยาศึาสต่ร� เช้�!อหล�ก One Best Way สน่ใจการบร�หารระด�บการคืวบคื+มงาน่ คืน่คืวบคื+มงาน่ระด�บล�าง ผ#�บร�หารจ&งม�หน่�าที่�!ก(าหน่ดคื#�ม�อใน่การที่(างาน่ (น่(าโดยเฟรดเดอร�กส� เที่เลอร�)

(2) Principle of Administration น่�กที่ฤษฎ�หล�กการบร�หาร สน่ใจภาพัรวมของต่�วองคื�การ เช้�น่ น่�กบร�หารคืวรม�หน่�าที่�!อะไรบ�าง ,องคื�การที่�!ด�คืวรจ�ดโคืรงสร�างอย�างไร (แมกซึ่� เวเบอร�ต่�องการเสน่อว�าหน่�วยงาน่ขน่าดใหญ�หร�อองคื�การใน่อ+ดมคืต่�คืวรจ�ดองคื�การอย�างไร)

กล+�มคืลาสส�กใน่ระยะยาวได�พั�ฒน่าไปส#�การบร�หารเช้�งปร�มาณ (Quantitative Science)

2. Quantitative Science ก�รบร�ห์�รเช�งปร�ม�ณ แยกออกเป4น่ 2 กล+�มคื�อ

(1) Management Science ว�ที่ยาการจ�ดการ เป4น่ศึาสต่ร�ที่�!น่(าเที่คืน่�คืสม�ยใหม�มาใช้� เช้�น่ น่(าเคืร�!องจ�กรมาที่(างาน่แที่น่มน่+ษย�โดยใส�ระบบสารสน่เที่ศึเข�าไป การบร�หารสารสน่เที่ศึบางคืร�0งเร�ยกว�า MIS การใช้�ฐาน่ข�อม#ลร�วมก�น่ที่(าให�เก�ดระบบเคืร�อข�ายข&0น่ เช้�น่ ระบบขน่ส�ง

(2) Operational Research การว�จ�ยด(าเน่�น่งาน่ คื�อ การน่(าเอาต่�วแบบที่างคืณ�ต่ศึาสต่ร�มาใช้�ประโยช้น่�ใน่การบร�หารงาน่ เช้�น่ การศึ&กษาคืวามเป4น่ไปได�ของแผน่,การ

17

Page 18: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

ต่�ดต่ามประเม�น่คืวามส(าเร8จ ,การสร�างต่�วแบบ/ต่�วช้�0ว�ดต่�าง ๆ

เช้�น่ KPI ,การต่�ดต่ามต่รวจสอบคืวามส(าเร8จต่�าง ๆ จ+ดอ�อน่ของระบบปFด คื�อ ให�คืวามส(าคื�ญของคืวามเป4น่

มน่+ษย�น่�อย ม+�งย(0าเคืร�!องจ�กรและเที่คืโน่โลย� ต่�องพั&!งพัาเที่คืโน่โลย� ไม�ย�ดหย+�น่ใน่ภาวะว�กฤต่� เช้�น่ น่(0าที่�วมเคืร�!องด�บ ,ระบบส�ญญาณล�ม ฯลฯ และถึ�าใช้�เที่คืน่�คืเช้�งปร�มาณมาก ๆพับว�าเคืร�!องจ�กแย�งแรงงาน่มน่+ษย� ใช้�คืน่น่�อยลงเร�!อย ๆส�งผลให�มน่+ษย�ไม�ม�งาน่ที่(า

2. Open System Perspective (ก�รศ$กษ�โดยใช(แนวิท�งระบบเป4ด)

1. Neoclassical Organization Theory น่�กที่ฤษฎ�กล+�มน่�โอคืลาสส�ก อย#�ใน่ช้�วงระยะเวลาป@ 1930 -

1960 บางคืร�0งเร�ยกน่�กที่ฤษฎ�ใน่กล+�มน่�0ว�าน่�กมน่+ษยส�มพั�น่ธ์� (มน่+ษยน่�ยม) กล+�มน่�0จะสน่ใจศึ&กษา..

-ปCจเจกบ+คืคืล (Individual) ใน่องคื�การ ศึ&กษาคื+ณสมบ�ต่�ของปCจเจกบ+คืคืล เช้�น่ต่(าแหน่�งหน่�าที่�!การงาน่ส�มพั�น่ธ์�ก�บบ+คืล�กภาพั ที่�ศึน่คืต่� หากเล�อกคืน่ที่�!ม�บ+คืล�กภาพัไม�เหมาะสมก�บต่(าแหน่�งก8จะไม�สามารถึที่(างาน่ได� เช้�น่ อยากเป4น่แพัที่ย�ถึ�าไม�อยากร�กษาผ#�อ�!น่ก8ไม�ร# �จะเป4น่ที่(าไม ,อยากเป4น่ก�ปต่�น่เร�อต่�องม�ภาวะผ#�น่(า หากเร�อม�ปCญหาจะต่�องอย#�บน่เร�อเป4น่คืน่ส+ดที่�าย

-พัฤต่�กรรมของกล+�ม (Groups Behavior) เช้�!อว�ากล+�มม�บที่บาที่ต่�อสมาช้�ก เป4น่คื+ณสมบ�ต่�ใน่เช้�งพัฤต่�กรรม ถึ�าอย#�ใน่กล+�มขย�น่ก8จะขย�น่ต่ามก�น่ เป4น่ว�ฒน่ธ์รรมขององคื�กรที่�!ประพัฤต่�ปฎ�บ�ต่�เป4น่แบบอย�างก�น่มาของกล+�ม ม�การลอก

18

Page 19: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

เล�ยน่แบบแล�วที่(าให�เก�ดว�ฒน่ธ์รรมข&0น่มา ซึ่&!งว�ฒน่ธ์รรมขององคื�การม�ที่� 0งด�และไม�ด�

2. A System Approach แน่วคื�ดเช้�งระบบ (บที่ที่�! 6) ให�คืวามส(าคื�ญที่�!ส�!งแวดล�อมและว�ธ์�การผล�ต่ องคื�การที่�!ม�ว�ธ์�การผล�ต่และเป3าหมายต่�างก�น่ ระบบโคืรงสร�างองคื�การก8จะแต่กต่�างก�น่ ที่ฤษฎ�น่�0ปฏิ�เสธ์ One Best Way แต่�จะน่(าไปส#�แน่วคื�ดการบร�หารต่ามสถึาน่การณ� (Situational or

Contingency Approach) หร�อการบร�หารเป4น่รายกรณ� และให�คืวามส(าคื�ญก�บผ#�ม�อ(าน่าจใน่องคื�การ (Action

Approach) เช้�!อว�าองคื�การจะเป4น่อย�างไรข&0น่อย#�ก�บคืวามต่�องการของผ#�ม�อ(าน่าจ

แน่วคื�ดเช้�งระบบที่(าให�เก�ดการศึ&กษาแบบแยกส�วน่ เช้�น่

การบร�หารการศึ&กษา การบร�หารกระบวน่การย+ต่�ธ์รรม การบร�หารสาธ์ารณส+ข เพัราะเช้�!อว�าว�ธ์�จ�ดสรรที่ร�พัยากรที่�!แต่กต่�างจะน่(ามาซึ่&!งรายละเอ�ยดของการที่(างาน่ที่�!ต่�างก�น่

...........ร�ยง�น PS 708

ห�วข�อ ประส�ที่ธ์�ภาพัขององคื�การ (Organization Effectiveness)

ที่(าต่ามร#ปแบบรายงาน่ที่�!สมบ#รณ� พั�มพั�คืวามยาวไม�ต่(!ากว�า 15 หน่�า – แต่�ไม�เก�น่ 25 หน่�า คื�น่จากหน่�งส�อไม�ต่(!ากว�า 3

เล�ม

อาจารย�ต่�องการให�น่�กศึ&กษาเข�ยน่ที่�!เป4น่ต่�วเองให�มาก อาจารย�จ&งให�น่�กศึ&กษาศึ&กษาองคื�การสาธ์ารณะมา 1 องคื�การ และให�ระบ+ถึ&ง …

19

Page 20: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

1.ช้�!อองคื�การ (ต่�องเป4น่องคื�การภาคืร�ฐ ห�ามเอาองคื�การเอกช้น่ และหน่�วยงาน่ของร�ฐที่�!ม+�งหว�งก(าไร เช้�น่ การบ�น่ไที่ย)

2.ภารก�จขององคื�การ3.หน่�วยงาน่ที่�!ร �บผ�ดช้อบภารก�จหล�ก 4.หน่�วยงาน่สน่�บสน่+น่ที่�0งหมดขององคื�การ5.แสดงแผน่ภ#ม�โคืรงการและอ�ต่ราก(าล�งขององคื�การ6.ระบ+กฎหมายและก(าก�บการด(าเน่�น่งาน่7.ระบ+เป3าหมายและพั�0น่ที่�!ใน่การให�บร�การ8.ระบ+ต่�วช้�0ว�ดคืวามส(าเร8จขององคื�การ (ด#ที่�!อะไรบ�าง)

9.ระบ+ปCญหาขององคื�การ(องคื�การม�ปCญหาใน่ที่�ศึน่ะของน่�กศึ&กษาเอง ม�น่�กว�ช้าการมองปCญหาน่�0ไว�หร�อไม�)

10.แน่วที่างใน่การพั�ฒน่าองคื�การ*-ข�อที่�! 1 -7 เน่�0อหาต่�องไม�เก�น่ 5 หน่�า ว�ต่ถึ+ประสงคื�

เพั�!อให�คืน่ต่รวจร# �ว�างาน่ของคื+ณคื�ออะไร (ม�ที่�!มาอย�างไร)

*-ข�อที่�! 8 -10 ไม�เก�น่ 15 หน่�า (และให�คืวามส(าคื�ญก�บข�อ 8 -10) ที่ฤษฎ�ต่�าง ๆที่�!เก�!ยวข�องและคืวามร# �ต่�าง ๆที่�!อย#�ใน่ต่(าราสามารถึน่(ามาใส�ใน่ข�อ 8 ,10 ได�

*บรรณาน่+กรม คื�อ การอ�างที่�!มาของข�อม#ลต่�วอย�าง : หน่�วยงาน่ที่�!หล�กและหน่�วยงาน่รองของ

มหาว�ที่ยาล�ยรามคื(าแหง -หน่�วยงาน่หล�ก เช้�น่ คืณะต่�าง ๆ-หน่�วยงาน่สน่�บสน่+น่ เช้�น่ ห�องสม+ด ,ส(าน่�กอ(าน่วยการ

เช้�น่ ฝึGายบ+คืลากร ,ฝึGายว�สด+

20

Page 21: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

ปกต่�องคื�การขน่าดใหญ�จะม�หน่�วยสน่�บสน่+น่ที่�!เป4น่มาต่รฐาน่เด�ยวก�น่หลายอย�างที่�!เหม�อน่ก�น่ เช้�น่ มหาว�ที่ยาล�ย โรงพัยาบาล ส(าน่�กงาน่ต่(ารวจ ซึ่&!งจะต่�องม�ฝึGายการเจ�าหน่�าที่�! ฝึGายพั�สด+ ฝึGายการเง�น่ ฝึGายวางแผน่ ฝึGายงบประมาณ เป4น่หน่�วยบร�หารจ�ดการที่�!วไป เร�ยกว�า ฝึGายสน่�บสน่+น่ ซึ่&!งหน่�วยงาน่เหล�าน่�0ไม�ม�หน่�าที่�!ให�การบร�การก�บล#กคื�าองคื�การใน่แง�การเปล�!ยน่แปลงภารก�จหล�ก .........

บทท�� 4

Scientific Management ก�รจั�ดก�รแบบวิ�ทย�ศ�สัตร

1) General Principles : กล+�มน่�กว�ช้าการใน่ย+คืคืลาสส�คื ประมาณคื.ศึ. 1900 -1930 น่(าโดยเฟรดเดอร�ร�กส� เที่เลอร� สน่ใจศึ&กษาการบร�หารองคื�การใน่ระด�บจ+ลภาคื (Micro Level) คื�อ ระด�บห�วหน่�างาน่/คืน่คื+มงาน่ พัยายามที่�!จะก(าหน่ดหล�กเกณฑิ�การที่(างาน่ใน่ระด�บคืวบคื+มงาน่เพั�!อให�เก�ดการที่(างาน่ที่�!ม�ประส�ที่ธ์�ภาพั

2)เฟรดเดอร�กส� เที่เลอร� (Frederick W. Taylor)

ได�ร�บการยกย�องให�เป4น่ บ�ดาแห�งการจ�ดการแห�ง“

ว�ที่ยาศึาสต่ร� ”

-ม�คืวามเช้�!อพั�0น่ฐาน่เก�!ยวก�บมน่+ษย� มองว�ามน่+ษย�ช้อบหน่�งาน่ ม�โอกาสเม�!อไหร�ก8จะหน่�งาน่เสมอ เม�!อมาอย#�ใน่องคื�การก8ย�งอาศึ�ยองคื�การเป4น่เคืร�!องม�อใน่การหน่�งาน่ น่�!คื�อธ์รรมช้าต่�ของมน่+ษย� เพัราะมน่+ษย�เช้�!อว�าจะที่(างาน่ให�น่�อยที่�!ส+ดเที่�าที่�!ไม�ผ�ดระเบ�ยบ

21

Page 22: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

-เสน่อระบบจ#งใจเป4น่คื�าต่อบแที่น่ต่�อช้�0น่ (Piece

of System) โดยก(าหน่ดว�าใคืรที่(างาน่ได�เก�น่กว�ามาต่รฐาน่ข�0น่ต่�น่ก8จะได�คื�าต่อบแที่น่อ�กอ�ต่ราหน่&!ง เร�ยกว�า โบน่�ส ม�การก(าหน่ดคื�าต่อบแที่น่เป4น่หลายอ�ต่รา เพั�!อจ#งใจให�คืน่ที่(างาน่เก�น่มาต่รฐาน่ข�0น่ต่�น่

-การก(าก�บหน่�าที่�! / การคืวบคื+มงาน่ เสน่อบที่บาที่หน่�าที่�!คืวบคื+มงาน่ไปหลาย ๆด�าน่ เช้�น่ Function

Foremen หมายถึ&ง บที่บาที่ของห�วหน่�างาน่ คื�อจะต่�องคืวบคื+มกฎ คื+มว�น่�ย ม�ผ#�เร�งร�ด ต่รวจสอบ แก�ปCญหา และจะต่�องคื+มเวลา 3 )แฟรงคำ และล�เล��ยน ก�ลเบอร ก ได�ศึ&กษาเร�!อง

Time & Motion System : เวลาและการเคืล�!อน่ไหว จ+ดเร�!มต่�น่เร�!มจากการที่�!ก�ลเบอร�กให�คืวามส(าคื�ญก�บการที่(าเส�น่ที่างเด�น่ของงาน่ ม�การว�เคืราะห�ว�าภารก�จที่�!ต่�องที่(า ที่(าอย�างไรใช้�เวลาน่�อยที่�!ส+ด ล#กคื�าสะดวกที่�!ส+ด

4) เฮนร�� แอลแกนท ได�เสน่อ Rule and

Procedure (Gantt Chant) คื�อ ต่�องการให�คืน่ที่(างาน่เป4น่ก�จว�ต่ร (routine) เช้�!อว�าหน่�วยงาน่จะต่�องม�การเข�า-ออกงาน่อย�างเป4น่ก�จว�ต่ร จะเปล�!ยน่แปลงไม�ได� เพั�!อให�ล#กคื�าเข�าใจเป4น่สากล แต่�ปCจจ+บ�น่แน่วคื�ดน่�0เร�!มเห8น่ว�าไม�ให�ประโยช้น่�ก�บล#กคื�าเที่�าที่�!คืวร เช้�น่ ธ์น่าคืารเปFดให�บร�การว�น่หย+ดราช้การ

ต่�วอย�าง Gantt Chant (หน่�า 217 ก(าหน่ดเป4น่ก�จกรรม ม�เส�น่ของก�จกรรม ลากต่ามคืาบเวลาที่�!จะที่(า บางก�จกรรมที่(าก�อน่ บางก�จกรรมต่�องที่(าต่�อเน่�!องก�น่ ก�จกรรมใดเสร8จก�อน่เสร8จหล�ง

22

Page 23: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

Gantt Chant เป4น่แผน่ปฏิ�บ�ต่�การใน่ย+คืแรก(ย+คืคืลาสส�ก)และใช้�มาจน่ถึ&งปCจจ+บ�น่ เป4น่การวางแผน่ก(าก�บการที่(างาน่ แกน่ที่�ต่�องการให�ผ#�ปฏิ�บ�ต่�งาน่ม�ว�น่�ยใน่การที่(างาน่จ&งเก�ดการวางแผน่เพั�!อปฏิ�บ�ต่�งาน่ข&0น่ และใช้�แผน่น่�0ไปก(าก�บ เช้�น่ เวลาผ�าน่ไป 2 เด�อน่แล�วงาน่เสร8จหร�อย�ง เป4น่ไปต่ามแผน่หร�อไม� ถึ�าย�งไม�เสร8จก8ต่�องที่บที่วน่ และปร�บใหม� Gantt

Chant ถึ�าพั�ฒน่าไปส#�ด�าน่ขวา เร�ยกว�า Load Chart คื�อ ด#ว�าพัน่�กงาน่ใคืรม�ภารก�จใดบ�างใน่ 1 เด�อน่หร�อหลาย ๆเด�อน่ ใคืรว�างงาน่ช้�วงไหน่ว�าง เป4น่การว�เคืราะห�ให�เห8น่ก�น่ล�วงหน่�าเพั�!อจะได�ร# �ว�าล#กน่�องต่�วเองที่(าอะไรอย#�บ�าง

Gantt Chant เป4น่ส�!งที่�!เก�ดข&0น่ใน่ภาคืธ์+รก�จ แต่�ม�น่�กว�ช้าการบางคืน่ได�น่(าไปใช้�ใน่ภาคืราช้การ ที่(าให�ราช้การเก�ดว�น่�ยใน่การที่(างาน่ ใน่ย+คืก�อน่สม�ยร�ช้กาลที่�! 5 ข�าราช้การที่(างาน่ต่ามใจเจ�าน่าย ต่ามใจข�าราช้การว�าจะบร�การอย�างไร แต่�การเก�ด Scientific Management ที่(าให�องคื�การน่�0น่ม�คืวามเป4น่ที่างการข&0น่มา ม�กฎเกณฑิ� ม�ว�น่�ย เช้�น่ การก(าหน่ดเวลาเข�า-ออกงาน่ ,การม�แผน่ต่�าง ๆที่�!หน่�วยงาน่ก(าหน่ด

กล�+มน�กทฤษฎี�ก�รบร�ห์�ร : Prince of Administration

-เป4น่การศึ&กษาองคื�การใน่ระด�บมหภาคื (Macro

Levels of Organization) มองภาพัรวมขององคื�การ

- เช้�!อโคืรงสร�างที่�!ด�เป4น่ก+ญแจส#�คืวามส(าเร8จขององคื�การ (Organization Structure is the key for

Proper Organization) แต่�ปCจจ+บ�น่ไม�คื�อยจร�งเพัราะ

23

Page 24: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

สามารถึลอกเล�ยน่แบบโคืรงสร�างองคื�การอ�!น่ ๆ หร�ออาจจ�างคืน่มาจ�ดโคืรงสร�างให�

-เก�ดหล�กขององคื�การ (Principle of

Organization) หร�ออาจจะเร�ยกว�า Formal

Organization Theory : ที่ฤษฎ�องคื�การที่�!เป4น่ที่างการ น่�กที่ฤษฎ�การบร�หารหลายที่�าน่ก8เห8น่พั�องต่�องก�น่ก�บแม8กซึ่� เวเบอร� จ&งที่(าให�ย+คืน่�0เป4น่ย+คืของการสร�างที่ฤษฎ�องคื�การที่�!เป4น่ที่างการ

-Function of Administration : หน่�าที่�!ของผ#�บร�หาร ได�แก� หล�กการบร�หาร POSDCORB ของฟาโย

-Concept of Line and Staff : แน่วคื�ดของงาน่หล�กและงาน่สน่�บสน่+น่ ใน่องคื�การเด�ยวก�น่แบ�งภารก�จออกได� 2 ด�าน่ คื�อ

(1) Line : งาน่หล�ก (ปฏิ�บ�ต่�การ) ) เช้�น่ อาจารย�

(2) Staff : งาน่สน่�บสน่+น่ เป4น่งาน่ที่�!ไม�ให�บร�การก�บล#กคื�าขององคื�การโดยต่รง แต่�เป4น่งาน่ช้�วยเหล�อให�ฝึGายงาน่หล�กที่(างาน่ม�ประส�ที่ธ์�ภาพัมากข&0น่ ใน่องคื�การแต่�ละประเภที่จะม�งาน่สน่�บสน่+น่หลายอย�างที่�!คืล�ายคืล&งก�น่ ได�แก� งาน่ธ์+รการต่�าง ๆ เช้�น่ งาน่บ+คืลาการ (งาน่การเจ�าหน่�าที่�!) ,งาน่การเง�น่ ,งาน่พั�สด+, งาน่ยาน่พัาหน่ะ ,งาน่น่โยบายและแผน่ ,งาน่งบประมาณ ,งาน่สารบรรณ,งาน่ประช้าส�มพั�น่ธ์� เป4น่ต่�น่

24

Page 25: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

ห์ล�กขององคำ ก�ร (Principles of

Organization) ห์ร)อ ทฤษฎี�องคำ ก�รท��เป.นท�งก�ร (Formal Organization Theory)

คำ�ณสัมบ�ต�ของโคำรงสัร(�งท��ด�จัะต(องม�คำ�ณสัมบ�ต�ด�งต+อไปน�1

-Division of Labor : การแบ�งงาน่ก�น่ที่(า (Division of Labor) ต่ามคืวามช้(าน่าญเฉพัาะด�าน่ (Specialization) การจ�ดแผน่กงาน่ใน่องคื�การคืวรจ�ดต่ามแผน่กงาน่โดยย&ดหล�กคืวามเช้�!ยวช้าญ/ช้(าน่าญเฉพัาะด�าน่ เช้�น่ น่�กบ�ญช้� ,น่�กกฎหมาย ,น่�กพั�สด+ เป4น่ต่�น่

-Span of Control : การก(าหน่ดช้�วงการบ�งคื�บบ�ญช้า ขน่าดของการคืวบคื+มที่�!เหมาะสม ต่�องม�สายบ�งคื�บบ�ญช้าที่�!ไม�ยาวเก�น่ไป (Level of Supervision)

-Unity of Command : หล�กเอกภาพัใน่การบ�งคื�บบ�ญช้า หมายคืวามว�า ที่+กคืน่ใน่องคื�การต่�องม�ผ#�บ�งคื�บบ�ญช้า/เจ�าน่ายเพั�ยงคืน่เด�ยว เพัราะถึ�าขาดเอกภาพัใน่การที่(างาน่จะเป4น่การเล�!ยงภาระหน่�าที่�! จ&งต่�องการให�ม�เจ�าน่ายเพั�ยงคืน่ ๆเด�ยวเพั�!อก(าก�บล#กน่�อง (แต่�ปCจจ+บ�น่ไม�คื�อยจร�งแล�ว องคื�การย+คืใหม�อาจจะม�ผ#�บ�งคื�บบ�ญช้าหลายคืน่ เพั�!อคืวามคืล�องต่�ว และใช้�ที่ร�พัยากรที่�!คื+�มคื�า)

-Chain of Command /Hierarchy (แม8ก เวเบอร�) / Scalar Principle (ฟาโย) : สายบ�งคื�บบ�ญช้า ใช้�สายบ�งคื�บบ�ญช้าเป4น่เคืร�!องม�อใน่การต่�ดต่�อส�!อสาร ,มอบหมายหน่�าที่�! ,ออกคื(าส�!ง ,ส�งรายงาน่

25

Page 26: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

ต่�วอย�างโคืรงสร�างองคื�การA

B C

D E F G H

จากภาพัจะเห8น่ว�าม�การจ�ดโคืรงสร�างที่�!ช้�ดเจน่ว�าและแสดงออกถึ&งส�!งต่�างๆคื�อ

1.ช้�วงการบ�งคื�บบ�ญช้า หมายถึ&งการบอกว�าใคืรข&0น่อย#�ก�บใคืร และคืน่แต่�ละคืน่ม�ล#กน่�องก�!คืน่ ต่ามภาพัจะเห8น่ว�า A ม�ล#กน่�อง 2 คืน่คื�อ B ,C ส�วน่ B ม�ล#กน่�อง 2 คืน่คื�อ D,E

ส�วน่ C ม�ล#กน่�อง 3 คืน่คื�อ F,G,H และน่าย D,E, F,G,H

เป4น่ห�วหน่�าใน่ระด�บล�างม�ล#กน่�องหน่�วยละ 5 คืน่ รวมองคื�การน่�0ม�ผ#�ปฏิ�บ�ต่�การ 25 คืน่ ม�ห�วหน่�า 8 คืน่ (อ�ต่ราส�วน่ 8 : 25)

ห�วหน่�าคืน่หน่&!งจะด#แลล#กน่�องก�!คืน่น่�!น่เอง2.สายบ�งคื�บบ�ญช้า หมายถึ&ง ม�คืวามส�มพั�น่ธ์�ใน่แน่วด�!ง

ระหว�างผ#�บ�งคื�บบ�ญช้าก�บล#กน่�อง (ต่�องมองจากล�างข&0น่ข�างบน่เสมอ) ที่(าให�ร# �ว�าใคืรเป4น่ล#กน่�องใคืร ใคืรข&0น่อย#�ก�บใคืร ใคืรอย#�เหน่�อกว�าหร�อต่(!ากว�าใน่ระด�บเด�ยวก�น่ จากภาพัสายบ�งคื�บบ�ญช้าม� 5 สายบ�งคื�บบ�ญช้า คื�อ

-สาย A B D

-สาย A,B,E

-สาย A,C,F

-สาย A,C,G

-สาย A,C,H

26

Page 27: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

3.ระด�บการบ�งคื�บบ�ญช้า (Level of Supervision)

จากภาพัจะม�ระด�บการบ�งคื�บบ�ญช้า 2 ระด�บคื�อระด�บ -ระด�บระหว�าง A ก�บ B และ C-ระด�บระหว�าง B และ C ก�บล#กน่�องล�กษณะก�รปฏิ�บ�ต�ง�นในองคำ ก�ร แบ+งต�มประเภท

ห์น+วิยง�น1.หน่�วยงาน่หล�ก (Line Agency) ได�แก�-ม�หน่�าที่�!ด#แลภารก�จหล�ก / ภารก�จรอง ต่�องให�บร�การ

กล+�มเป3าหมายขององคื�การ2.หน่�วยงาน่สน่�บสน่+น่ (Staff Agency)

-ที่(าหน่�าที่�!เป4น่หน่�วยที่�!ช้�วยเหล�อหน่�วยงาน่หล�ก หร�อที่(าหน่�าที่�!บร�หารจ�ดการให�หน่�วยงาน่หล�กที่(างาน่ไปได�

ต่�วอย�างหน่�วยงาน่สน่�บสน่+น่ -หน่�วยการเง�น่ ที่(าหน่�าที่�!ที่างการเง�น่ขององคื�การ -หน่�วยพั�สด+ ด#แลด�าน่เคืร�!องม�อเคืร�!องใช้�พั�สด+ภ�ณฑิ�

ต่�าง ๆ คืวบคื+มด#แลส�น่ที่ร�พัย�ขององคื�การ (ยาน่พัาหน่ะอาจแยกออกไปเป4น่หน่�วยยาน่พัาหน่ะ)

-หน่�วยน่โยบายและแผน่ เป4น่หน่�วยที่�!ต่�องคื�ดล�วงหน่�า เต่ร�ยมจ�ดที่(างบประมาณให�ก�บหน่�วยงาน่ จ�ดที่(าแผน่ระยะยาว แผน่แม�บที่ แผน่กลย+ที่ธ์� (การปฏิ�บ�ต่�โดยย&ดแผน่ใน่การปฏิ�บ�ต่�)

-หน่�วยอาคืารสถึาน่ที่�! -หน่�วยการเจ�าหน่�าที่�! (ฝึGายบ+คืคืล)

-หน่�วยงาน่ธ์+รการและงาน่สารบรรณ เช้�น่ งาน่ประช้+ม

27

Page 28: Ps 708 pongson 4  feb  2011 line 1 (1)

**********************************************

28