Transcript
Page 1: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 2: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 3: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 4: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 5: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 6: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 7: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 8: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 9: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 10: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 11: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 12: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 13: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 14: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 15: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 16: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 17: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 18: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 19: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 20: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 21: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 22: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 23: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 24: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 25: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 26: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 27: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 28: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 29: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 30: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 31: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 32: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013

Nike Mercurial Vapor iXย้อนกลับไปในปี 2002 ผู้คนนับล้านต่างตกตะลึงกับการเปิดตัวรองเท้าฟุตบอลสายสปีด รุ่นใหม่ ที่ ในขณะนั้นเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดรองเท้าฟุตบอลแห่งยุคเลยก็ว่าได้ ในเวลาต่อมาชื่อของ Nike Mercurial Vapor ได้ทำาให้ผู้คนต่างยืนยันกันเป็นเสียงเดียวว่า สุดยอด!! จากวันนั้นถึงวันนี้ เวลาล่วงเลยมากว่า 10 ปี รองเท้าคู่ดังกล่าวได้ทำาการจารึกประวัติศาสตร์ของตัวเอง ว่าเป็น รองเท้าสายสปีดที่เก่าแก่ และมีสไตล์มากที่สุดในโลก และวันนี้ Hattrick จะขอพาทุกท่านไปพบกับประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสุดยอดสตั๊ดสายสปีด... Nike Mercurial Vapor IX !!

HATTRICK FOOTBALL32

BOOTS REVIEWBY: BOOTWORM

Page 33: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013

สรุปแล้ว MV9 สำาหรับผมนั้นถึงจะดูเหมือนเป็นแค่ minor change แต่ก็สามารถสรา้งความตืน่ตาตืน่ใจใหก้บัผูเ้ลน่ฟตุบอลทัว่โลก ทัง้ในเรือ่งของสสีนัที่สดใสตามสไตล์ Mercurial Vapor และในเรื่องของรูปทรงที่โดดเด่น ขอแนะนำาวา่ผูท้ีร่กัในสไตลก์ารวิง่กระชาก และรกัในเรือ่งของความโดดเดน่ในสนาม ไม่ควรพลาด Nike Mercurial Vapor ไม่ว่าจะด้วยประการใดๆ ทั้งสิ้น เพราะนี่แหละคือ หนึ่งในสุดยอดรองเท้าแห่งปี 2013 เลยทีเดียว!

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ารองเท้าที่สวยและมีสไตล์

ขนาดนี้ พรีเซ็นเตอร์ก็คงจะหนีไม่พ้นเจ้าพ่อ

ความเร็วแห่งวงการลูกหนังอย่าง คริสเตียโน่

โรนัลโด้ ปีกตั วจี๊ ดของทีม เรอัล มาดริด

และ “เจ้าบอล” จักรพันธ์ พรใส จากทีมเอสซีจี

เมืองทองยูไนเต็ด นั่นเอง

แน่นอนว่าจุดเด่นของซีรี่ส์์นี้ที่ไนกี้ทำาได้อย่างดี

มาโดยตลอดคือ สีสันที่บาดตาบาดใจ และ

MV9 ก็ไม่ทำาให้เราผิดหวังอีกเช่นเคยกับการ

เปิดตัว 2 สีใหม่ที่โดนใจวัยรุ่นเสียเหลือเกิน ไม่

ว่าจะเป็นสี Fireberry (ม่วง-เขียว) และ Sunset

(ส้ม-เหลือง) นั้นต่างทำาออกมาได้อย่างลงตัว

ไม่มีที่ติเลยแม้แต่น้อย เรียกได้ว่าแค่เรื่องสีก็

กินขาดแล้ว และเมื่อดูรวมๆ จากภายนอก

แล้วผมคิดว่าไนกี้ได้จัดองค์ประกอบไม่ว่าจะ

เป็นเรื่องสีสันหรือรูปทรงออกมาได้เป็นอย่างดี

ในส่วนอัพเปอร์นั้นทางไนกี้ได้ทำาการเปลี่ยนให้

ซีรี่ส์นี้ใช้หนัง ACC เข้ามาแทนที่หนังเทจิน และ

ได้ทำาการเพิ่มรอยบุ๋มเล็กๆ เพื่อเพิ่มความนุ่ม

ในการจับบอลให้เหมาะสำาหรับทุกๆ สนามใน

ทุกๆ สภาพอากาศ โดยเมื่อมองดูแล้วรอยบุ๋ม

ดังกล่าวนั้นจะมีลักษณะคล้ายกับผิวของลูกบอล

ตัวท็อปของทางไนกี้นั่นเอง ทั้งนี้ในส่วนของพื้น

รองเท้านั้น ไนกี้ยังคงลักษณะชุดปุ่มที่ดีเยี่ยม

เอาไว้ดังเดิม แต่ได้ทำาการเพิ่มความแข็งแรงให้

กับไฟเบอร์กลาสทั้งแผ่น เรียกได้ว่าไม่เพียงแต่

เบาอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังมอบความแข็งแรงได้

มากกว่าเดิมอีกด้วย

ทั้งนี้ในส่วนของการสวมใส่นั้นบอกได้เลยว่า

ยังคงให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยของ MV ไว้อย่างดี

ความกระชับเท้านั้น เรียกได้ว่าทำาให้รู้สึกเหมือน

ไม่ได้สวมใส่อะไรเลย และยิ่งเมื่อบวกกับความ

เบาเข้าไปแล้วบอกได้เลยว่า “ต้องลองครับ”

การวิ่งนั้น MV9 ยังคงทำาได้ดีมากอย่างที่เคย

ลักษณะของหนังนั้นค่อนข้างนุ่ม ไม่แข็งกระด้าง

จนเกินไป ทำาให้ไม่ว่าจะเป็นการใส่ในครั้งแรก

หรือในครั้งต่อๆ ไป MV9 ไม่ได้กัดเจ็บเหมือน

อย่างที่เคย การจ่ายบอลนั้นก็ทำาได้ดี ความ

กระชับทำาให้การยิงนั้นทรงพลังขึ้นเป็นอย่างมาก

และเมื่อได้ลองสวมใส่ในสภาพสนามที่ค่อนข้าง

เปียก ตัวรองเท้าก็ยังคงประสทธิภาพที่ดีไว้เช่น

เคย ส่วนชุดปุ่มที่ไนกี้ได้ทำาการยกมาจาก MV8

นั้น บอกได้เลยว่า “วิ่งมันส์จริงๆ” 2 ปุ่มเล็กๆ

ด้านหลังนั้นสามารถเกาะยึดพื้นสนามได้เป็น

อย่างดี และรอยหยักเล็กๆ บริเวณหัวรองเท้านั้น

ยังช่วยในเรื่องของการคลึงบอล และการจิกพื้น

สนาม โดยรวมแล้ว MV9 นั้นทำามาให้เหมาะสม

กับผู้เล่นสไตล์กระชากไปยิงเช่นเคยครับ

coMForT หนังสังเคราะห์ของไนกี้นั้นมีลักษณะเด่นในเรื่องของ

ความนุ่มที่ใกล้เคียงหนังแท้ ทำาให้สัมผัสที่ได้รับนั้นนุ่มนวลมาก

liGHTNeSS หนักเพียง 180 กรัม ถือเป็นหนึ่งในรองเท้าฟุตบอลที่เบา

ที่สุดในโลก!

DuraBiliTYความคงทนของพื้นรองเท้านั้นมากขึ้นจากวัสดุไฟเบอร์กลาส แต่หนังของรองเท้านั้นค่อนข้างบางทำาให้ความแข็งแรงลดลง

poWer เป็นรองเท้าสายสปีดที่ยิงได้แรงพอสมควร

เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ

Value ที่สุดของนวัตกรรมที่โดดเด่น ได้มารวมอยู่ในสุดยอดรองเท้า

คู่นี้ ในราคาเพียง 7,690 บาท เท่านั้น!!

oVerall ด้วยสีสันท่ีสดใสและการออกแบบท่ีลงตัว คือเหตุผลสำาคัญท่ี

Nike Mercurial Vapor9 น้ัน ไม่ควรหลุดมือเหล่านักเตะในยุคน้ี

33For The Beauty Of The Game.

Page 34: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 35: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 36: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 37: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 38: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 39: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 40: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 41: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 42: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 43: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 44: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 45: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 46: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 47: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013
Page 48: Hattrick Magazine Vol 14 Mar2013

Top Related