art camp in garden

36
ค่ายศิลปะในสวน ค่ายศิลปะในสวน เรียนรู้ศิลปะ ...ในธรรมชาติ ... เรียนรู้ศิลปะ ...ในธรรมชาติ ... ไม่มีแอร์คอนดิชั่น มีแต่ดอกไม้หลากสี และสีเขียวของใบไม้

Upload: ppmantana-art-laemkom

Post on 10-Mar-2016

235 views

Category:

Documents


3 download

DESCRIPTION

Art-Laemkom

TRANSCRIPT

Page 1: Art Camp In Garden

ค่ายศิลปะในสวนค่ายศิลปะในสวนเรียนรู้ศิลปะ

...ในธรรมชาติ...เรียนรู้ศิลปะ

...ในธรรมชาติ...

ไม่มีแอร์คอนดิชั่น มีแต่ดอกไม้หลากสี และสีเขียวของใบไม้

Page 2: Art Camp In Garden

สวัสดีครับ คุณพ่อ คุณแม่ ท่านผู้ปกครอง และเด็กๆ

คงทราบกันแล้วว่า พิพิธภัณฑ์เด็กได้ปิดลงชั่วคราว ประมาณ ๑๔ เดือน เพื่อปรับปรุงรูปแบบใหม่ โรงเรียนศิลปะแหลมคมของเราจึงจําเป็นต้องย้ายที่เรียนมาที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เพื่อใกล้ชิดธรรมชาติยิ่งขึ้น ไม่มีแอร์คอนดิชั่น มีแต่ดอกไม้หลากส ีและสีเขียวของใบไม ้ที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ มีความปลอดภัยสูง มีพี่ รปภ. เดินตรวจตราตลอดเวลา ครูแหลมได้ติดต่อขออนุญาตหัวหน้าสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โทรนัดแนะกับครูนกได้เลยครับ ที่ ๐๘๑ - ๘๑๖ - ๘๗๘๔

ขอบพระคุณมากครับ ครูแหลม

Page 3: Art Camp In Garden

สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ

Page 4: Art Camp In Garden

บันทึกค่ายศิลปะ...ไปสวนผีเสื้อวันอังคารที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๑

วันที่ฟ้าเป็นใจให้พวกเราชาวศิลปะแหลมคมออกไปเที่ยวนอกบ้านได้อย่างมีความสุข วันนี้ครูแหลมพาเด็ก ๓๕ ซน (กว่าลิง) ไปเขียนรูปที่สวนผีเสื้อ ณ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) คุณครูนัดเด็กๆที่เจริญพาศน์ทั้ง ๑๓ คนเวลา ๗ โมงครึ่ง เด็กๆมากันตรงเวลามาก เตรียมอุปกรณ์อย่างครบครันตามที่คุณครูสั่งไว้ หมวก ชุดกันฝน กระติกน้ํา ไม่มีขาด ๘ โมงก็ออกเดินทางไปถึงที่สวนผีเสื้อประมาณ ๙ โมง เพื่อนจากพิพิธภัณฑ์เด็กอีก ๒๕ คนก็มารอกันอยู่แล้ว วันนี้ที่สวนรถไฟคนเยอะมากเพราะอากาศดีแต่เช้า ฝนไม่ตกเหมือนทุกๆวัน ทั้งคุณครูและเด็กๆต่างก็ช่วยกันภาวนาในใจว่า “ขออย่าให้ฝนตกเลย”

Page 5: Art Camp In Garden

เมื่อมากันครบครูแหลมก็พาเด็กๆเดินเข้าไปชมผีเสื้อด้านในและมีคุณป้าใจดีมาเป็นวิทยากรนําตัวหนอน ดักแด้ และผีเสื้อ มาให้เด็กๆดู เด็กๆเดินดูผีเสื้อภายในสวนอย่างตื่นเต้น ดูและจดจํารายละเอียดเพื่อนําไปเขียนไว้ในกระดาษเปล่าๆที่เตรียมไว้ ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงความมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น กระดาษสีขาวว่างเปล่ากลับกลายเป็นกระดาษที่มีสีสัน สวยสดงดงามเต็มไปด้วยธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตที่เด็กๆเห็น บวกกับจินตนาการของแต่ละคนเข้าไปอีกทําให้งานแต่ละชิ้นดูสวยในสไตล์ของตัวเองอย่างบอกใคร

Page 6: Art Camp In Garden

เมนูอาหารกลางวันวันนี้ คือพิซซ่าแสนอร่อยของป้าต่ายที่บรรดาเด็กรุ่นเก่าๆรอคอย และเด็กๆรุ่นใหม่อยากชิมตามคําบอกเล่า คุณครูเรียกเด็กๆรวมตัวกันที่ลานกว้างๆ เด็กนั่งเป็นแถว ๒ แถวหันหน้าเข้าหากัน ก่อนทานอาหารทุกครั้งเราต้องขอบคุณกันก่อน กว่าเด็กจะได้ทานพิซซ่ารอกันนานเลยเพราะผู้นํา นําเพื่อนๆขอบคุณไม่จบบ้าง นําแบบผิดๆถูกๆบ้าง คนแรกก็น้องนาย ตามด้วยน้องนิว น้องเถา ๓ คนผ่านไปก็ยังไม่มีใครนําขอบคุณได้จบอย่างครบถ้วนสมบูรณ์สักครั้งเดียว เด็กๆนั่งมองพิซซ่าที่อยู่ตรงหน้าตาละห้อย น้ําลายเริ่มไหลมากขึ้น มากขึ้น จนในที่สุดครูแหลมเรียกชื่อน้องอ้น ให้ยืนขึ้นและนําขอบคุณ และน้องอ้นก็ทําให้เพื่อนทานพิซซ่าได้ซะที พอครูแหลมพูดว่าเชิญทานได้เด็กๆก็หยิบพิซซ่าที่ตัวเองชอบทานกันอย่างเอร็ดอร่อย ครูแจงสั่งพิซซ่าไป ๔๐ กล่องเด็กทานเรียบไม่มีเหลือแม้แต่ชิ้นเดียว “เนี่ยพิซซ่าแม่ครูแหลมทํามา” เสียงเฟินเฟินบอกเพื่อนๆ ส่วนเพื่อนก็ “อือๆ...” เคี้ยวพิซซ่าแก้มตุ่ย ถ้าป้าต่ายรู้เข้าจะว่ายังไงเนี่ย เด็กๆคิดว่าป้าต่ายเป็นแม่ของครูแหลม แต่ที่จริงเป็นพี่ต่างหาก เด็กๆที่ทานเสร็จแล้วก็รีบไปทํางานต่อ ส่วนคนที่ทานเสร็จแล้วและทํางานเสร็จแล้วครูแหลมก็พาเด็กๆไปเช่าจักรยานมาปั่นรอเพื่อนๆที่ยังทํางานไม่เสร็จ เด็กๆที่เหลือต่างเร่งทํางานของตัวเองให้เสร็จเพื่อจะได้ไปปั่นจักรยานกับเพื่อนๆบ้าง

Page 7: Art Camp In Garden

ประมาณบ่าย ๒ โมงเด็กก็ทํางานกันเสร็จทุกคน และมีจักรยานเป็นของตัวเองทุกคน แกงค์จักรยานตัวจิ๋วทั้ง ๓๕ คน ๔ ล้อบ้าง ๒ ล้อบ้าง ทั้งขาแรง ขาอ่อน ต่างพากันปั่นจักรยานอย่างสนุกสนาน โดยมีครูและพี่เลี้ยงปั่นตามไปอย่างติด ๑ รอบของสวนรถไฟระยะทางประมาณ ๒.๘ กิโลเมตร เด็กๆปั่นกันรอบแล้วรอบเล่า ปั่นไปด้วยความสนุกสนานไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อยเลย (ไม่เหมือนตอนทํางาน) คนละ ๓ รอบ ๔ รอบ ๕ รอบ รวมๆแล้วก็เป็นสิบกิโลเมตรเลยทีเดียว บ่าย ๒ โมงครึ่ง คุณครูก็รวมพลพรรคนักปั่นที่สวนผีเสื้ออีกครั้ง และออกเดินทางพร้อมกันมุ่งหน้าสู่ร้านไอติม ภายในเวลาไม่ถึง ๑๕ นาทีเด็กก็มารวมตัวกันตามจุดนัดหมาย เมื่อจอดล้างไม้ล้างมือเสร็จก็ไปเข้าเลือกไอติมมานั่งทานกันอย่างเอร็ดอร่อยบนเนินเขาเล็กๆ

Page 8: Art Camp In Garden

นานจะรวมตัวกันได้ซะทีครูแป๋มก็เลยถึงโอกาสนี้ถ่ายรูปหมู่ซะเลย ถ่ายทั้งๆที่ยังทานไอติมกันอยู่นี่แหละเดี๋ยวทานเสร็จก็ไปซิ่งกันต่อกว่าจะรวมกันได้อีกทีมันนาน พอทานกันเสร็จทุกคนเด็กก็วิ่งไปที่พาหนะคู่ใจแล้วออกเดินทางต่อ ครูแหลมบอกเด็กๆว่า ให้อีก ๓ รอบสําหรับคนที่ไหว คนที่ไม่ไหวให้ปั่นเท่าที่ไหวแล้วไป

เจอกันที่สวนผีเสื้อ เด็กฟังแล้วก็ออกตัวโดยทันทีครูนัฐพยายามถ่ายรูปเด็กตอนปั่นจักรยานให้ครบทุกคนแต่ไม่ทันเลย (ไม่ว่ากันนะคะ) ส่วนคุณครูไม่ไปต่อแล้วขอไปพักเหนื่อยและดักรอเด็กที่สวนผีเสื้อดีกว่า นั่งได้ไม่เท่าไหร่เด็กๆก็เริ่มทยอยกลับมาที่ละคันสองคันเพราะฝนตั้งเคล้า ฟ้าเริ่มดําทะมึน เสียงร้องของฟ้าฮึมๆ เด็กๆกลับมาใช่ว่าจะกลัวฟ้ากลัวฝน แต่กลับมาเพราะมาเอาเสื้อกันฝนมี่เตรียมมาต่างหาก คุณครูทั้งหลายเห็นจึงรีบห้ามไม่ให้ออกไปแล้วเพราะท่าจะตกหนัก ส่วนคุณครูพี่เลี้ยงที่เหลือรีบสวมวิญญาณนักปั่นน่องเหล็กปั่นตามเด็กๆที่เหลือกลับมา พอเด็กๆมาได้จําหนึ่ง (มากพอสมควร) ครูนก ครูนิดครูแจงก็รีบนับ เช็คจํานวนเด็ก “ยังไม่ครบ” พี่เลี้ยงและคุณครูต่างพากันตามหาเด็กๆต่อ สักพักน้องนูนู กลับน้องเรียว วัย ๔ ขวบครึ่งน้องเล็กฝั่งพิพิธภัณฑ์เด็กก็ปั่นจักรยาน ๔ ล้อลุยฝนกลับมา น้องเรียวร้องไห้ใหญ่เลย แต่คนที่เล่าเหตุการณ์ก็คือน้องนูนู “ฟ้าร้องดังมากเลย เรียวไม่ยอมขี่กลับมา ร้องไห.้..ไม่ยอมขี่เลย” ปั่นมาเกือบจะถึงอยู่แล้วพอได้ยินเสียงฟ้าร้องเจ้าเรียวเค้าก็ไม่ยอมปั่นต่อ ยืนร้องไห้ท่ามกลางสายฝนเป็นสมมุติว่าตัวเองพระเอกมิวสิคตอนที่อกหัก เพื่อนรักนักปั่นอย่างเจ้านูนูก็พูดจาปลอบประโลมเพื่อนรักจนยอมปั่นต่อแล้วมาถึงยังจุดหมายอย่างปลอดภัยแต่เปียกนิดหน่อย (ถ้าเอาภาษานูนูมาเล่า พรุ่งนี้คุณครูก็ยังพิมพ์ไม่เสร็จ) เมื่อกลับมาแล้วอีก ๒ แต่ยังขาดอีก ๕ คุณครูและพี่เลี้ยงปั่นจักรยานท่ามกลางพายุฝนที่ไม่ได้รับเชิญตามหาเด็กๆที่เหลือต่อ พี่ตุ้ยพี่แก้มก็เอารถออกไปคันนึง ครูต้นก็คันนึง ครูแป๋มตามไป

Page 9: Art Camp In Garden

สมทบอีกคัน ปั่นไปหนึ่งรอบก็กลับมารวมตัวกันอีกทีเพราะหาไม่เจอ แต่พอมาถึงก็เจอเด็กที่หายไปเพิ่มมาอีก ๓ คน เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่าเด็ก ๓ คนนี้ติดฝนอยู่กลับครูแหลมนั่นเอง ครูแหลมเลยกลับไปเอารถตู้แล้วเอาเด็กๆมาส่ง แต่ก็ยังหายไปอีก ๒ คูณครูก็ตามหาต่อ ปั่นไปปั่นมาก็เจอครูต้น “เจอมั๊ย” ครูแป๋มตะโกนถาม “ไม่เจอเลย”ครูต้นตะโกนบอก ครูแป๋มเริ่มใจไม่ดีรีบปั่นไปหาต่อ แล้วกลับไปยังสวนผีเสื้ออีกรอบ “ไม่เจอเลย” ครูแป๋มพูดออกมาด้วยความกังวล คุณครูท่านอื่นๆยิ้มแล้วบอกว่า “เจอแล้ว ครูแหลมเอาไปส่งที่พิพิธภัณฑ์เด็กแล้ว” โธ.่..เจอแล้วก็ไม่มีใครบอกหลอกให้เราปั่นจักรยานเล่นน้ําฝนอยู่ได้ “พี่จะโทรบอกแป๋มแล้ว แต่โทรศัพท์แป๋มก็อยู่กับพี่” ครูนิดบอก สรุปคุณครูก็ต้องปั่นจักรยานฝ่าฝนอีกรอบเพื่อไปเอารถมารับเด็กกลุ่มที่เหลือกลับไปส่งที่พิพิธภัณฑ์เด็ก ปกติรถจีฟของคุณครูจุคนได้อย่างมากก็ ๖ รวมคนขับ แต่รอบนี้อัดเข้าไปได้ถึง ๙ แถมยังของอีกเต็มคันรถ เบียดกันไปดีกว่าเดินตากฝนกลับพิพิธภัณฑ์เด็ก ส่งเด็กๆเสร็จคุณครูก็กลับมารับเด็กๆเจริญพาศน์กลับโรงเรียนกัน ฝนตก...รถติด... กว่าจะมาถึงก็ ๕ โมงครึ่ง พอมาถึงโรงเรียน น้องเพชร น้องภูมิ น้องซัน ก็เดินตรงเข้าครัวสั่งข้าวเมนูไข่ป้าเขียวคนละจานก่อนกลับบ้าน คุณครูก็เอาด้วยเหมือนกัน หิวมากๆ สรุปวันนี้เด็กๆไปเที่ยวได้ทั้งสาระ และความสนุกไปพร้อมกัน ทุกคนกลับบ้านอย่างปลอดภัยทุกคน แต่เด็กทุกคนสงสัยว่า ครูแหลมให้เอาชุดกันฝนไปทําไม พอฝนตกก็ไม่ให้ใส่ชุดกันฝนปั่นจักรยาน

Page 10: Art Camp In Garden

วันนี้คุณครูแหลมพาเด็กๆ ๔๙ ซนออกไปเขียนรูปนอกสถานที่ค่ะ ที่ที่พวกเราจะไปในวันนี้ก็คือวัดบวร หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ และสวนสันติชัยปราการค่ะ เด็กจากโรงเรียนศิลปะแหลมคมทั้ง ๓ แห่ง (พิพิธภัณฑ์เด็กจตุจักร ๒๘ คน , เจริญพาศน์ ๑๘ คน, พระรามเก้า ๓ คน) มารวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียงที่วัดบวรในเวลา ๘ โมงครึ่ง จากนั้นเวลา ๑๐ โมงก็ไปชมงานศิลปะที่หอศิลป์ และไปเขียนรูปต่อกันที่สวนสวนสันติชัยปราการ

บันทึกค่ายศิลปะ ๔๙ ซนเข้าวัด ชมงานศิลป์ ชมสวนสันติไชยปราการวันอังคารที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๒

Page 11: Art Camp In Garden

ที่เจริญพาศน์เช้านี้คุณครูนัดเด็กมาพร้อมกันที่โรงเรียนก่อน ๗ โมง ๖ โมงครึ่งป้าเขียวเปิดประตูโรงเรียนสองสาวฝาแฝดปุ๊กกับเป๋ามาถึงเป็นคู่แรกเลยค่ะ บอกว่ามาถึงตั้งแต่ประตูโรงเรียนยังไม่เปิด และสมาชิกคนอื่นๆก็ตามกันมาติดๆ เด็กๆทุกคนตื่นเต้นกันมากที่จะได้ออกไปเขียนรูปนอกสถานที่ แต่คุณครูไม่รู้สึกตื่นเต้นเลยค่ะ หวาดหวั่นมากกว่า เอาลิงเข้าเมืองไปตั้ง ๑๘ ตัวไปเจอเพื่อนๆอีก ๓๑ ตัว ไม่อยากจะคิดเลยค่ะว่าจะวุ่นวายขนาดไหน 

“คุณครูค่ะแจ๊สเค้าละลาออกแล้วค่ะ” คุณแม่น้องแจ๊สบอกเมื่อมาส่งน้องแจ๊สในตอนเช้า “อ้าว...ทําไมล่ะคะ” ครูแป๋มถาม “ ก็แจ๊สตื่นไม่ไหวน่ะสิ มันเช้ามาก ตาแจ๊สไม่ยอมตื่นเลย” น้องแจ๊สบอก “งั้นก็ได้ แจ๊สกลับบ้านไปเลยคุณครูอนุญาติให้ลาออก” ครูแป๋มบอก “ไม่เอาดีกว่าครับ” แจ๊สบอกแล้วเดินเอากระเป๋าไปเก็บ พี่บัวกําลังนั่งทานข้าวเช้าอยู่แจ๊สเดินเข้าไปหาทันที “แจ๊สนี่ไงคุณแม่พี่บัว” ครูแป๋มชี้ให้น้องแจ๊สดู น้องแจ๊สเดินเข้าไปสะกิดคุณแม่พี่บัวแล้วบอกว่า “สวัสดีครับ...แจ๊สเป็นแฟนพี่บัวครับ” คุณแม่พี่บัวยิ้มชอบใจ “อ๋อ...คนนี้เองที่ชื่อแจ๊สแฟนพี่บัว” 

“ครูครับผมลืมเอากระติกน้ํามา” ตู๊นตูนบอก “๒๐ บาทนะตู๊นตูนสําหรับค่าปรับที่ลืมเอากระติกน้ํามา” ครูแป๋มบอก ตู๊นตูนทําหน้าตกใจแล้วรีบบอกครูแป๋มว่า “ไม่เป็นไรครับครูผมไม่กินน้ําก็ได้ครับ เวลาไปโรงเรียนผมก็ไม่ค่อยได้กินน้ําซักเท่าไหร่” ตู๊นตูนบอก “เป็นสิ...ไม่เป็นได้ยังไง อากาศร้อนขนาดนี้ไม่กินน้ําได้ไง” แล้วครูแป๋มก็ยื่นกระติกน้ําของครูแป๋มให้ตู๊นตูน “ไม่เอาก็ได้ครับ” ตู๊นตูนปฏิเสธ “ไม่เอาก็ ๒๐ เอาก็ ๒๐” ครูแป๋มบอก ตู๊นตูนรีบคว้ากระติกน้ําจากครูแป๋มไปทันที

๗ โมงครึ่งคุณครูรวมเด็กเช็คความเรียบร้อยแล้วไปขึ้นรถตู้เตรียมตัวออกเดินทาง วันนี้มีพี่โจ้มาช่วยถ่ายวีดีโอให้ด้วยค่ะ ครูแป๋มเบาแรงไปเยอะไม่งั้นต้องควบ ๓ ตําแหน่งเลยทั้งคุณครู ช่างภาพนิ่ง และ ช่างภาพวีดีโอ ขอบคุณพี่โจ้จริงๆ เมื่อขึ้นเหล่าลิงทะโมนก็คุยกันไม่หยุดตลอดทาง แค่ระยะทางจากโรงเรียนถึงวัดบวรประมาณ ๖ ก.ม. คุณครูยังฟังเด็กคุยจนปวดหูเลยค่ะ แล้วรุ่นที่ ๒ ต้องไปเขียนรูปกันที่ราชบุรีนั่งรถไกลๆเป็นชั่วโมงคุณครูคงลงรถมาแล้วหูหนวกไปเลยมั๊งคะ “เด็กๆเคยได้ยินคําว่าแปดหลอดมั๊ยคะ” ครูแป๋มถาม หลายๆคนทําหน้างงๆ แต่น้องอายบอกว่า “เคยค่ะ...แม่หนูชอบบอกว่าอย่าพูดเสียงดังแปดหลอด” น้องอายบอก “นั่นแหละค่ะคุณครูพยายามจะบอกพวกหนูๆแบบนั้น” เด็กเงียบลงได้แค่อึดใจเดียว ก็แปดหลอดกันเหมือนเดิม 

Page 12: Art Camp In Garden

และแล้วก็มาถึงวัดบวรตอน ๘ โมงครึ่งค่ะ ครูแหลมพานักเรียนจากพระรามเก้ามารออยู่แล้ว ครูแหลมพาเด็กๆที่มาแล้วไปนั่งรออยู่ในพระอุโบสถภายในพระอุโบสถ มีพระพุทธรูปสําคัญอยู่ 2 องค์ คือ พระประธานส่วนพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งคือ พระพุทธชินสีห์ สักพักเพื่อนๆจากพิพิธภัณฑ์เด็กก็มาถึง เมื่อเข้ามานั่งในอุโบสถเด็กดูสงบนิ่งมากๆค่ะ ครูแหลมนําเด็กๆสวดมนต์และกราบพระ แล้วครูแหลมก็เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติของวัติบวร เล่าถึงภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังฝีมือของขรัวอินโข่ง และเล่าเรื่องยักษ์เซี่ยวกาง นายทวารบาลให้เด็กๆฟัง 

ครูแหลมพาเด็กๆมาเข้าแถวรวมตัวกันด้านหน้าอุโบสถและพาเด็กไปดูยักษ์เซี่ยวกาง “ยักษ์เซี่ยวกังศักดิ์สิทธิ์มากนะครับ เด็กขอพรจากยักษ์เซี่ยวกางได้นะครับ” ครูแหลมบอกแล้วเรียกเด็กๆที่ระสิบคนเข้าไปดูยักษ์เซี่ยวกาง เมื่อเด็กๆเห็นก็รีบพนมมือแล้วขอพรกันทันที บางคนก็ขอให้เรียนหนังสือเก่งๆ เป็นเด็กดี เด็กๆสงสัยกันว่าทําไมที่ปากของเซี่ยวกางจึงมีสีดําติดอยู่ครูแหลมก็เลย

เล่าให้ฟังอีกว่า “สีดําๆที่ติดอยู่ที่ปากก็คือฝิ่น คนส่วนใหญ่ชอบมาขอหวยกับเซียวกาง เมื่อถูกหวยก็จะมาแก้บนด้วยการเอาฝิ่นมาป้ายที่ปาก เพราะว่าคนจีนสมัยก่อนชอบสูบฝิ่นก็เลยคิดว่าเซี่ยวกางคงชอบฝิ่นเหมือนกัน” 

Page 13: Art Camp In Garden

แล้วครูแหลมก็พาเด็กเดินไปที่เจดีย์ใหญ่ เป็นเจดีย์ทรงลังกาภายในประดิษฐานเจดีย์กะไหล่ทอง นาม "พระไพรีพินาศเจดีย์" ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว พระไพรีพินาศ เป็นพระพุทธรูปปางประทานพรสมัยศรีวิชัย ประดิษฐานอยู่ในเก๋งบนฐานทักษิณของเจดีย์ มีผู้นํามาถวายรัชกาลที่ 5 เมื่อทรงผนวชอยู่ เด็กๆเดินวนรอบเจดีย์ใหญ่ ๓ รอบเพื่อความเป็นสิริมงคล แล้วออกเดินทางต่อไปที่ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์

Page 14: Art Camp In Garden

๑๐ โมงพอดีที่คณครูและคณะเด็กลิงก็มาถึงยังหอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พี่ปลาและพี่บอยเจ้าหน้าที่ประจําหอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ เป็นคนนําเด็กๆเดินชมผลงานนิทรรศการ ศิลปะนิพนธ์ประจําปีการศึกษา 2551 ของนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายคณะจิตรกรรมฯ มหาวิทยาลัยศิลปากร พี่ๆแยกเด็กเป็น ๒ กลุ่มเพื่อนําชม “น้องๆคะเราจะขึ้นไปชมงานที่ชั้น ๕ กันก่อนเดี๋ยวเชิญน้องๆมาขึ้นลิฟท์ทางนี้เลยค่ะ” พี่เจ้าหน้าที่บอก “ครูแหลมสอนไม่ให้ขึ้นลิฟท์” เด็กๆบอกพร้อมๆกัน พี่เจ้าหน้าที่ก็เลยต้องพาเด็กๆเดินขึ้นบันไดไปจนถึงช้ัน ๕ ไปถึงก็หอบแฮ่กเลยค่ะ วันนี้เด็กๆโชคดีค่ะได้เจอพี่ๆศิลปินเจ้าของผลงานศิลปะมาแนะนําผลงานของตัวเองให้เด็กๆฟัง พี่อึ้งมากๆในความคิดของเด็กๆ และงานศิลปะของพวกพี่ก็ทําให้เด็กๆถึงกับอึ้งและสนุกได้เหมือนกัน อยู่ที่หอศิลป์คุณครูต้องจับตามองเด็กๆเป็นพิเศษค่ะ เพราะว่ากลัวเด็กๆจะซุกซนจนทํางานศิลปะนิพนธ์ของพี่ๆได้รับความเสียหาย แต่ก็ผ่านพ้นไปด้วยดีค่ะ

งานศิลปะแต่ละชิ้นถ่ายทอดอารมณ์และเรื่องราวได้ดีมากๆ พี่ๆศิลปินเก่งมากนะคะ สร้างผลมาจิตรกรรม ประติมากรรมที่สามารถกระทบใจเด็กๆได้ เด็กๆยืนมองผลงานที่เป็นงาน installation art หรือที่เรียกว่า ศิลปะการจัดวางชิ้นหนึ่งที่เป็นเสื้อผ้าสีสันสวยงามแขวนอยู่เต็มเพดาน “คิดถึงแม่จังเลย” เด็กคนหนึ่งูดเมื่อยืนมองอยู่นาน คุณครูไปอ่านดูที่ป้ายศิลปินบรรยายไว้ว่า งานชิ้นนี้ได้รับแรงบันดาลใจ

จากครอบครัวศิลปินพยายามจะสื่อให้ผู้ชมได้รู้ถึงความรู้สึกที่คิดถึงแม่จริงๆค่ะ

Page 15: Art Camp In Garden

ต่อมาเราได้พบกับพี่น้อยพี่ศิลปินอีกคนหนึ่ง พี่น้อยพาเด็กๆไปดูผลงานของตัวเองและบอกเล่าถึงวิธีทํางานและแรงบันดาลใน ในงานชิ้นนี้เด็กๆสนุกกับการหาสัตว์ต่างๆที่พี่น้อยได้ซ่อนไว้ในภาพเขียนของตัวเอง เยอะแยะเลยค่ะ พี่น้อยถึงกับยิ้มแก้มปริที่เห็นเด็กสนใจงานตัวเองมากๆ ต่อมาเราได้พบกับพี่เจอร์ค่ะ “พี่เจอร์ครับ ทําไมคนในรูปหน้าตาเหมือนพี่เจอร์เลยล่ะครับ” ตู๊นตูนถาม “ก็คนในรูปก็คือพี่เอร์นั่นแหละครับ” พี่เจอร์บอก “เด็กดูแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างครับ” ครูแหลมถาม “น่ากลัว...เศร้า...” เด็กๆตอบ พี่เจอร์อมยิ้มเล็กกับคําตอบที่ได้รับ “แต่ผมว่ามันเหมือนคนอดอยากนะครับ” ตู๊นตูนบอก พี่ศิลปินทุกคนถึงกับหัวเราะออกมาเพราะชอบใจในการวิจารณ์ภาพของตู๊นตูน

๑๑ โมงกว่าแล้วค่ะ ได้เวลาที่เด็กต้องเดินทางต่อแล้ว ครูแหลมเรียกรวมเด็กๆอีกครั้งที่ชั้นล่างเพื่อขอบคุณพี่ๆทุกๆคน จากนั้นเด็กๆ คุณครูและพี่ๆศิลปินก็ถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึกก่อนจากกันค่ะ

Page 16: Art Camp In Garden

๑๑ โมงครึ่งรถตู้ทั้ง ๓ คันก็จอดอยู่ที่สวนสันติชัยปราการ ป้าต่ายหิ้วพิซซ่ามารอเด็กๆอยู่แล้ว ครูแหลมให้ครูพี่เลี้ยงพาเด็กๆไปล้างมือแล้วมานั่งเป็นแถวเพื่อมาทานอาหารกลางวันกัน กินพิซซ่าหอมหวนเย้ายวนใจเด็กๆเหลือเกินค่ะ พอขอบคุณกันจบเด็กๆก็ลงมือกินพิซซ่ากันทันที วันนี้คุณครูสั่งพิซซ่ามา ๗๐ กล่องเด็กๆกินกันได้เต็มที่เลยค่ะ แต่ละคนกินไม่ต่ํากว่า ๓ ชิ้น พี่โตๆก็ประมาณ ๖-๘ ชิ้นเลยทีเดียวค่ะ 

Page 17: Art Camp In Garden

กินพิซซ่าเสร็จทุกคนก็เริ่มลงมือทํางานของตัวเองทันที ต่างคนต่างหยิบอุปกรณ์ของตัวเองแล้วไปหาที่นั่งร่มนั่งบ้าง นอนบ้างทํางานกัน ทําไปทํามาหลับไปบ้างก็มี ก็คุณพอใจนั่นแหละค่ะ ทํางานทีไรหลับทุกที หลับไปได้พักใหญ่ก็ตื่นมาทําต่อจนเสร็จ 

ทํางานเสร็จครูแจงก็พาเด็กๆไปกินไอติมกันอีก อากาศร้อนๆได้กินไอติมทุกคนก็สดชื่นขึ้นมาทันที คนที่ทํางานเสร็จวิ่งเล่นกันอย่างสุกสนาน

Page 18: Art Camp In Garden

บ่าย ๓ โมงกว่าๆเด็กๆก็เก็บสัมภาระของตัวเองเตรียมตัวเดินทางกลับโรงเรียนกันค่ะ ก่อนกลับครูแหลมพาเด็กๆไปดูต้นลําภูต้นสุดท้าย ที่มาของชื่อบางลําภูกันก่อนค่ะ แล้วเด็กๆก็เดินขึ้นรถตู้กลับกัน

บนรถตู้ของเด็กๆเจริญพาศน์ขากลับพี่เพียรยกมืออาสาเล่าเรื่องผีลิ้นชักให้เพื่อนๆฟัง แต่มุกแป๊กนิดหน่อยค่ะ ตู๊นตูนก็อาสาเหมือนกันเริ่มต้นได้สนุกสนานมากๆ เพื่อนฟังกัน

หัวเราะชอบใจ แต่รู้สึกว่าเรื่องจะยาวไปสักหน่อยค่ะ เพราะเล่าตั้งแต่ผ่านฟ้าจนถึงพาหุรัดเรื่องเล่าของตู๊นตูนก็ยังไม่จบซะที

พอมาถึงโรงเรียนเปิดประตูลงรถเข้าโรงเรียนกันมาได้ “คุณครูอย่าลืมอาหารว่างนะครับ” น้องแจ๊สบอก “อาหารว่างอะไรอีกล่ะ ไม่มีหรอกวันนี้” ครูแป๋มบอก “โธ.่..ก็แจ๊สหิวนี่” น้องแจ๊สบอก โชคดีเป็นของเด็กๆค่ะป้าเขียวเตรียมขนมปังทานม กับทาแยมไว้ให้เด็กๆแล้ว ทุกคนรีบไปล้างมือแล้วมาทาขนมปังกันต่อทันที 

Page 19: Art Camp In Garden

๗๔ ซนตลุยสวนสมเด็จย่าฯวันอังคารที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๒

วันนี้พวกเราชาวศิลปะแหลมคมทั้ง ๔ แห่งมีนัดไปเขียนรูปกันที่สวนสมเด็จย่าฯอุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เขตคลองสาน กรุงเทพฯ สร้างขึ้นตามกระแสพระราชดําริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่ พ.ศ. 2536 ที่จะให้อนุรักษ์อาคารเก่าซึ่งมีลักษณะและที่ตั้งใกล้คียง “บ้าน” ที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเคยประทับ จึงมีพระราช

ประสงค์ที่จะให้อนุรักษ์ไว้เป็นพิพิธภัณฑ์เทิดพระเกียรติ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพัฒนาพื้นที่เป็นสวนสารธารณะระดับชุมชน(ที่มา http://www.theprincessmothermemorialpark.org/)

Page 20: Art Camp In Garden

เช้าวันอังคารสดใสคุณครูนัดเด็กๆมาเจอกันที่โรงเรียนก่อน ๘ โมง เด็กๆทุกน่ารักมาพร้อมกันตรงเวลา ก่อนออกเดินทางครูนิดสอนเด็กไม่ให้ไปไหนกับคนแปลกหน้า เด็กตั้งใจและเข้าใจกันเป็นอย่างดี “เวลามีคนมาชวนเด็กให้ไปซื้อขนม เด็กๆไปได้มั๊ยคะ” ครูนิดถามเด็กๆ“ไม่ได้ครับ...ไม่ได้ค่ะ...” เด็กๆตอบ“นัฐ...เวลามีคนเอาลูกอมมาให้กิน กินได้มั๊ยครับ” ครูนิดถามณัฐเด็กชายตัวน้อยวัย ๓ ขวบ“ได้ครับ” ณัฐตอบแล้วยิ้มอย่างไร้เดียงสา งานนี้เรียกเสียงฮาได้จากพี่ๆและผู้ปกครอง แต่ครูแป๋มคิดในใจว่าณัฐจะรอดมั๊ยเนี่ย

๘ โมงครึ่งทุกคนก็ออกเดินทาง ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ถึงสวนสมเด็จย่าฯ เพราะว่าเจริญพาศน์อยู่ใกล้นิดเดียว

Page 21: Art Camp In Garden

ไปถึงที่สวนสมเด็จย่าฯ ครูแหลมก็พาเด็กจากสุขุมวิท๑๐๑/๑ มารออยู่แล้ว ครูต้นก็พาเด็กๆจากพระราม ๙ มาถึงแล้วเหมือนกัน คนไกลมาถึงก่อนใครเลย ไม่นานนักครูนกก็พาเด็กๆจากพิพิธภัณฑ์เด็กตามมาสมทบ รวมแล้ววันนี้ก็แค่...๗๔...ซน....เท่านั้นเอง....

เมื่อมาทุกคนมาพร้อมกันแล้วครูแหลมก็เล่านิทานแสนสนุกให้เด็กๆฟัง นิทานเรื่องยาวสนุกมาก เด็กๆตั้งใจฟังใจจดจ่อมองไปที่ครูแหลมตาไม่กระพริบ ครูแหลมเล่านิทานพร้อมท่าทางประกอบ เด็กๆสนุกทําท่าทําทางตามครูแหลม

Page 22: Art Camp In Garden

พอเล่านิทานจบก็ได้เวลาเข้าชมชุดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ห้องแรกที่เข้าไปชมเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชประวัติของสมเด็จย่าฯ วิทยาการเล่าเรื่องราวต่างๆให้เด็กๆฟังมากมาย 

ห้องที่ ๒ เป็นห้องที่บอกเล่าถึงพระราชกรณียกิจและพระราชจริยวัตร ในห้องจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์มากมายไว้ให้ชม

Page 23: Art Camp In Garden

ออกมาด้านนอกพี่วิทยากรพาเด็กๆไปชมบ้านจําลอง ซึ่งจําลองลักษณะของบ้านที่สมเด็จ

หลังจากได้ความรู้มามากมายแล้วเด็กๆก็เริ่มลงมือทํางานกันที ทุกคนเดินไปหยิบกระเป๋าและหาที่ร่มๆนั่งทํางานศิลปะ หัวข้อของวันนี้คือ “สวนสมเด็จย่าฯ” ทุกๆคนหาที่นั่งสบายๆให้ตัวเองแล้วลงมือทํางานทันที “ครูแหลมขอดูผลงานของทุกๆคนนะครับ” ครูแหลมบอก เด็กตั้งใจทํางานกันทันทีหลังจากสิ้นเสียงครูแหลม ใช้เวลาไม่นานบนกระดาษสีขาวกับความว่างเปล่าก็เริ่มมีลวดลายน่ารักที่สดใส จินตนาการที่สวยงามของเด็กๆเติมแต่งลงไป ใครวาดรูปเสร็จก่อนก็เดินเอาไปให้ครูแหลมตรวจทีละคน แล้วกลับมาแต่งแต้มสีกันต่อไป

Page 24: Art Camp In Garden

สายมากแล้วเจ้าตัวเล็กน้องณัฐเริ่มหิวนม ดื่มนมกล่องธรรมดาไม่ได้ต้องใส่ขวดนมด้วย หลังจากไปขออนุญาติครูแหลมเสร็จนัฐก็มาเติมพลังด้วยการดื่มนมก่อนทํางาน

ทํางานเสร็จก็เอางานไปให้ครูแหลมตรวจอีกครั้ง“ณัฐกี่ขวบแล้วครับ” ครูแหลมถาม“๒ ขวบ” ณัฐตอบ“แล้วเคย ๓ ขวบหรือเปล่า” ครูแหลมถาม“เคย” ณัฐตอบ“แล้วเคย ๕ ขวบหรือยัง” ครูแหลมถาม“เคยแล้ว” ณัฐตอบ“แล้วตอนนี้กี่ขวบ” ครูแหลมถามอีก“๒ ขวบครับ” ณัฐตอบ

ได้เวลาอาหารกลางวันเด็กๆบ่นหิวกันตั้งแต่ยังไม่ ๑๑ โมงแค่ได้ยินว่าวันนี้มีพิซซ่าป้าต่ายทุกคนก็เลียปากกับแพร็บๆ“เมื่อไหร่จะได้กินพิซซ่าสักที” เด็กๆบ่นกัน“ทุกคนวางมือ ไปล้างมือแล้วมานั่งให้เป็นแถว” ครูแหลมบอกเด็กๆ ป้าต่ายเอาพิซซ่ามาส่งให้เด็กๆแล้ว ไม่มากไม่มาย ๑๑๐ กล่อง 

Page 25: Art Camp In Garden

เด็กๆไปล้างมือแล้วมานั่งเป็นแถว ๒ แถวหันหน้าเข้าหากัน ครูแหลมให้ครูแจงเปิดกล่องพิซซ่าวางไว้ตรงหน้าเด็กๆ กลิ่นพิซซ่าหอมๆเริ่มทําให้เด็กๆน้ําลายไหล“เดี๋ยวคุณครูจะเล่าเรื่อง ให้น้ําลายไหลก่อน จะฟังมั๊ยเนี่ย” ครูถามความคิดเห็นเด็กๆ แต่ไม่มีใครตอบ“ใครทนไม่ไหวแล้วยกมือขึ้น” เด็กๆยกมือพร้อมกันสุดแขน มันทนไม่ไหวแล้วจริงๆ“ใครจะอาสามานําเพื่อๆขอบคุณ” ครูแหลมขออาสาสมัคร พี่เพียรยกมือ ณัฐก็ยกมือ“จะนําพี่ๆขอบคุณได้เหรอ” ครูแหลมถามณัฐ“ได้...” ณัฐตอบ“อ้าว...ทุกคนพนมมือ” พี่ๆทุกคนพนมมือเตรียมตัวกล่าวคําขอบคุรอย่างตั้งใจ“ว่าตามน้องณัฐ” ครูแหลมพูดจบก็ยื่นโทรโข่งไปที่ปากของณัฐ“เชิญหม่ําได้แล้วครับ” ณัฐพูด พี่ๆไม่มีใครพูดตามแต่หัวเราะกันทุกคน ฮ่าๆๆๆ ในที่สุดพี่เพียรก็ได้เป็นคนนําเพื่อนๆกล่าวขอบคุรอาหารกลางวันวันนี้ พอขอบคุณจบทุกคนก็ลงมือหยิบพิซซ่าทานกันทันที

พิซซ่าร้อนๆแสนอร่อยเด็กๆกินกันได้ไม่อั้นมีหลากหลายหน้าให้เลือกทุกๆคนกินพิซซ่าไปต่ํากว่า ๓ ชิ้น ขนาดธีญายังกินไป ๔ ชิ้นเลย ใครกินเสร็จแล้วก็ไปทํางานต่อ เจ้าของสถิติการกินพิซซ่า ๑๒ ชิ้นในวันนี้คือ พี่มิน กับ พี่เฟรม

Page 26: Art Camp In Garden

“ครูครับณัฐฉี่ใส่กางเกง” พี่ๆวิ่งมาบอกครูแป๋ม กางเกงเปียกหมดพี่อาร์ตซักกางเกงให้เรียบร้อย แล้วเอาตากแดดไว้ให้แห้ง ณัฐก็เลยไม่มีกางเกงใส่ แต่ไม่เป็นปัญหาเพราะเสื้อที่ใส่ก็ยาวจนแทบจะเป็นกระโปรงอยู่แล้ว ปกคลุมได้มิดชิดอยู่

ช่วงบ่ายๆเด็กๆก็เริ่มทะยอยทํางานกันเสร็จ จากสวนสาธารณะที่เงียบสงบก็กลายเป็นสวนสนุกของเหล่าจอมซน เด็กไปเล่นมอญซ่อนผ้ากัน วิ่งกันสนุกสนาน และเสียงดังกันมากๆ

Page 27: Art Camp In Garden

เด็กๆเจริญพาศน์เข้าแถวกันอีกครั้งเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับโรงเรียนกัน

บ่าย ๒ โมงครึ่งครูแหลมก็เรียกเด็กๆมารวม เก็บของให้เรียบร้อยเตรียมตัวเดินทางกลับ ก่อนกลับพวกถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกกันก่อนกลับ เพื่อๆจากพิพิธภัณฑ์เด็ก และพระราม ๙ กลับไปก่อนเพราะอยู่ไกล ส่วนชาวเจริญพาศน์ไม่เร่งรีบค่ะ เพราะอยู่ใกล้กว่าใครเพื่อนและยังต้องรอเพื่อนๆที่ยังทํางานไม่เสร็จอีก ๑ คน คือพี่มีนแชมป์พิซซ่า ๑๒ ชิ้นนั่นเอง พอมีนทํางานเสร็จครูแหลมก็พาเพื่อนสุขุมวิท ๑๐๑/๑ เดินทางกลับทันที 

Page 28: Art Camp In Garden

ส่วนพี่พอใจก็เดินจูงมือน้องคุยกันไปตลอดทาง ครูแป๋มเดินตามพยายามแอบฟังว่าสองสาวคุยอะไรกัน แต่ก็ฟังไม่รู้เรื่องเพราะธีญาพูดเป็นส่วนใหญ่ และที่สําคัญพูดไม่ชัด พอไปถึงรถครูแป๋มหันไปถามพอใจทันที“พอใจเมื่อกี้คุยอะไรกันกับธีญา” ครูแป๋มถาม“ไม่รู้ค่ะ” พอใจตอบ“อ้าวก็เห็นเดินคุยกันมา หัวเราะคิกคัก” ครูแป๋มบอก“ก็น้องพูดอะไรก็ไม่รู้ หนูฟังไม่รู้เรื่อง” พอใจบอก ในที่สุดก็ไม่มีใครรู้ว่าธีญาพูดอะไรตลอดทางที่เดิน

กลับมาถึงโรงเรียนเด็กตั้งวงกินพิซซ่าที่เหลือมาอีกครั้ง กินเสร้จก็ไปเล่น แล้วก็มาดูการ์ตูน มีความสุขกันจริงๆ 

Page 29: Art Camp In Garden

วันนี้คุณครูแหลมพาเด็กๆไปเที่ยววัดโพธิ์และไปเขียนรูปที่สวนสันติชัยปราการทริปนี้นอกจากเจ้าตัวแสบ ๔ ซน จากเจริญพาศน์แล้ว แล้วยังมีเพื่อนตัวแสบจากอีก ๑๑ ซน จากพิพิธภัณฑ์เด็กฯมาด้วย ถึงแม้เวลาอยู่ที่โรงเรียนจะซนเต็มที่แต่พอออกนอกสถานที่เด็กๆกลับน่ารักมาก ตั้งใจฟังในสิ่งที่ครูแหลมสอนและตั้งใจทํางานกันอย่างจริงจัง

บันทึกค่ายศิลปะ วัดโพธิ์ สวนสันติชัยปราการวันพฤหัสบดีที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๑

ประมาณ ๙ โมงรถตู้ทั้งจากเจริญพาศน์ จากพิพิธภัณฑ์เด็กฯ ก็มาเจอกันที่วัดโพธิ์ เมื่อรวมเด็กๆจากทั้งที่ได้แล้วครูแหลมก็พาเด็กๆเดินไปที่ ฤๅษีดัดตนซึ่งเป็นรูปปั้นของฤๅษีที่ทําท่าทางต่างๆเพื่อรักษาโรคปวดเมื่อย ครูแหลมอธิบายให้เด็กๆฟังว่า "ฤๅษีก็คือนักบวชที่อยู่ตามป่า เมื่อนั่งสมาธินานๆ ก็มีอาการปวดเมื่อยก็เลยทดลองขยับเขยื้อนร่างกาย เกร็งตัวดัดตน ทําให้เกิดท่าต่างๆ แล้วทําให้อาการเจ็บป่วย ปวดเมื่อยหายไปในที่สุด" เด็กตั้งใจฟังและสนมาก เมื่อครูแหลมพูดจบก็พากันทําท่าทําทางเลียนแบบฤๅษีกันใหญ่

Page 30: Art Camp In Garden

และที่วัดโพธิ์เด็กก็ได้รูจักต้นสาละ "ตนไม้ในพุทธประวัติ" ครูแหลมบอกกับเด็กๆว่า "ถ้าใครเป็นผู้มีบุญบารมี เมื่อเอามือรองไว้แล้วดอกสาละล่วงหล่นมาใส่มือแสดงว่าคนนั้นเป็นผู้มีบุญ แต่ก่อนเอามือไปรองต้องอธิฐานก่อนนะ" ว่าแล้วเด็กๆก็หลับตาปี๋ พนมมืออธิฐานขอพรกันใหญ่เลย แล้วก็ยืดแขนแบมือรองรับกลีบดอกสาละอยู่กันเป็นนานสองนานดอกสาละก็ไม่ล่วงมาซะที ชาวต่างชาติที่มาเที่ยวก็คงจะงงว่าเด็กๆทําอะไรกันต่างพากันมองด้วยความสงสัยและเก็บภาพเด็กกันใหญ่เลย และในที่สุดหลายคนก็เริ่มคิดได้ว่าเราคงไม่ใช่ผู้มีบุญเลิกดีกว่า ก็ยังคงเหลือแต่น้องซีซี กับ น้องรุ้งที่ยังไม่ย่อท้อ ครูแป๋มเดินเข้าไปบอกว่า "พอเถอะลูกเราจะไปกันแล้ว" แต่ซีซีก็บอกว่า "เดี๋ยวค่ะ ครูแป๋มเห็นมั๊ยคะว่ามันกําลังจะหล่น" ในที่สุดครูต้นก็บอกให้ซีซีหลับตาเพราะว่ามันจะทําให้กลีบดอกสาละล่วงแล้วขึ้น ซีซีก็เชื่อ แล้วครูต้นก็แอบเก็บกลีบดอกสาละที่ล่วงอยู่บนพื้นดินมาใส่ไว้ในมือซีซี เท่านั้นแหละ...ซีซีก็ลืมตาขึ้นมาด้วยความปิติอย่างยิ่ง โดยหารู้ไม่ว่านั่นคือฝีมือครูต้น

จากนั้นครูแหลมก็พาเด็กไปดูยักษ์ (ไม่ใช่ยักษ์ครูแป๋มนะคะ) แต่เป็นตุ๊กตาจีนแต่งกายแบบฝรั่งเป็น รูปมาร์โคโปโล แล้วก็มุ่งหน้าสู่พระวิหารพุทธไสยาส หรือเรียกแบบเด็กๆเข้าใจง่ายก็คือ พระนอน

Page 31: Art Camp In Garden

เด็กๆเข้าไปข้างในวิหารด้วยกิริยาที่สํารวม เมื่อเข้าไปแล้วก็สวดมนต์และกราบพระพร้อมๆกัน ด้านในฝั่งด้านหลังพระพุทธไสยาสมีบาตรเรียงกันยาวเป็นแถวเลยตรงนี้แหละที่เด็กๆชอบมาก ต่างพากันเข้าแถวไปรับถ้วยสตางค์เหรียญจากพระอาจารย์คนจะถ้วยและเดินเป็นแถวหยอดเหรียญใส่บาตรทีละเหรียญ...ทีละเหรีญ...จนหมดถ้วย มีแต่เสียงเหรียญดัง...แกร๊ง...แกร็ง...ดังกังวานอยู่ในพระวิหาร ต่อจากนั้นก็กราบลาพระอีครั้งหนึ่งก่อนออกไปใส่รองเท้าเตรียมตัวไปเขียนรูปที่สวนสันติชัยปราการ

เมื่อถึงสวนสันติชัยปราการครูแหลมพาเด็กไปดูต้นลําพูที่เหลืออยู่ต้นเดียวในกรุงเทพ เสร็จแล้วเด็กๆก็มาเตรียมอุปกรณ์ในการเขียนรูปของตัวออกมาจากกระเป๋าและเริ่มลงมือทํางานทันที หัวขอวันนี้คือวัดโพธิ์ เด็กๆเล่าเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองไปเห็นและประทับใจที่วัดโพธิ์ออกมาเป็นรูปภาพได้สวยงามและสนุกสนานเลยทีเดียว

Page 32: Art Camp In Garden

๑๑ โมงครึ่งป้าต่ายก็หอบหิ้วเอาพิซซ่ามาให้เด็กๆทานเป็นอาหารกลางวัน เด็กๆรีบวิ่งไปล้างมือแล้วมานั่งรอเพื่อจะทานพิซซ่าป้าต่าย พิซซ่าวันนี้มีหน้าปูอัด ใส่กรอก ต้มยํากุ้ง กระเทียม อร่อยมากๆ...ไม่ได้โม้นะ เด็กๆทานกันคนละไม่ต่ํากว่า ๒ ชิ้น บางคนก็ ๖ ชิ้น เลยเอาป้าต่ายยิ้มหน้าบานไม่ยอมหุบเลย ทานเสร็จก็ทํางานต่อจนบ่าย ๒ โมง งานก็เริ่มทยอยเสร็จ

ที่ละคน สองคน ประมาณบ่าย ๓ โมงก็เก็บของเตรียมตัวกลับโรงเรียน ก่อนกลับก็เก็บภาพหมู่ประทับใจไว้อีกสัก ๒-๓ภาพ

Page 33: Art Camp In Garden

ศิลปะ

แหลมคม

เย...เย...เย...

เย...เย...เย...

Page 34: Art Camp In Garden

ค่ายศิลปะในสวนเรียนรู้ศิลปะ

...ในธรรมชาติ...ติดต่อ

ครูนก...๐๘๑ - ๘๑๖ - ๘๗๘๔

www.art-laemkom.com

Page 35: Art Camp In Garden

โปรแกรมค่ายศิลปะปิดเทอม ภาคฤดูร้อน ๒๕๕๓

ค่ายพักแรม ๔ คืน ๕ วันวันจันทร์ที่ ๑๕ มีนาคม ถึง วันศุกร์ที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๓ ทะเล สัตหีบ ( สอ.รฝ. )- ไปเขียนภาพเรือจักรีนฤเบศ, เล่นน้ําทะเลที่หาดนางรํา- ไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่วัดญาณสังวราราม, เล่นน้ําที่พัทยาปาร์ค- ไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ํา ระยองลูกศิษย์ใหม่ ค่าใช้จ่าย ๗,๒๐๐ บาท (รวมเสื้อสีตามวัน ๕ ตัว และ กระเป๋างานใบใหญ ่๑ ใบ )ลูกศิษย์เก่า ค่าใช้จ่าย ๖,๒๐๐ บาท ( ใช้เสื้อ, กระเป๋าเดิม )รับสมัครเยาวชนไทยอายุ ๗ ถึง ๑๕ ปี จํานวน ๔๐ แสนซนเท่านั้นครับ

ค่ายศิลปะไปเช้า - เย็นกลับ ( วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ ) มี ๑๐รุ่น รุ่นละ ๕ วันรับสมัครเยาวชนไทยอายุ ๕ ถึง ๑๒ ปี

รุ่นที่ ๑ เริ่มวันจันทร์ที่ ๑ มีนาคม ถึง วันศุกร์ที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๓-วันพฤหัสบดีที่ ๔ มีนาคม ๒๕๕๓ ไปเรียนรู้องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติที่จามจุรีแสคว์ ไปเขียนรูปที่สวนลุมพินีลูกศิษย์ใหม่ ค่าใช้จ่าย ๓,๗๐๐ บาท ( รวมเสื้อสีตามวัน ๕ ตัว และ กระเป๋างานใบใหญ ่๑ ใบ )ลูกศิษย์เก่า ค่าใช้จ่าย ๒,๕๐๐ บาท ( ใช้เสื้อ, กระเป๋าเดิม )รุ่นที่ ๒ เริ่มวันจันทร์ที่ ๘ มีนาคม ถึง วันศุกร์ที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓-วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๓ ไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่วัดไตรมิตรลูกศิษย์ใหม่ ค่าใช้จ่าย ๓,๗๐๐ บาท ( รวมเสื้อสีตามวัน ๕ ตัว และ กระเป๋างานใบใหญ ่๑ ใบ )ลูกศิษย์เก่า ค่าใช้จ่าย ๒,๕๐๐ บาท ( ใช้เสื้อ, กระเป๋าเดิม )รุ่นที่ ๓ เริ่มวันจันทร์ที่ ๑๕ มีนาคม ถึง วันศุกร์ที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๓-วันพุธที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๓ ไปเขียนรูปที่วัดญาณสังวราราม, เล่นน้ําที่พัทยาปาร์คลูกศิษย์ใหม่ ค่าใช้จ่าย ๓,๙๐๐ บาท ( รวมเสื้อสีตามวัน ๕ ตัว และ กระเป๋างานใบใหญ ่๑ ใบ )ลูกศิษย์เก่า ค่าใช้จ่าย ๒,๗๐๐ บาท ( ใช้เสื้อ, กระเป๋าเดิม )รุ่นที่ ๔ เริ่มวันจันทร์ที่ ๒๒ มีนาคม ถึง วันศุกร์ที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๓-วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๓ ไปสวนสัตว์เขาดินลูกศิษย์ใหม่ ค่าใช้จ่าย ๓,๗๐๐ บาท ( รวมเสื้อสีตามวัน ๕ ตัว และ กระเป๋างานใบใหญ ่๑ ใบ )ลูกศิษย์เก่า ค่าใช้จ่าย ๒,๕๐๐ บาท ( ใช้เสื้อ, กระเป๋าเดิม )

Page 36: Art Camp In Garden

รุ่นที่ ๕ เริ่มวันจันทร์ที่ ๒๙ มีนาคม ถึง วันศุกร์ที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๓-วันพุธที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๓ ไปสวนน้ําลีโอแลนด์ลูกศิษย์ใหม่ ค่าใช้จ่าย ๓,๙๐๐ บาท ( รวมเสื้อสีตามวัน ๕ ตัว และ กระเป๋างานใบใหญ ่๑ ใบ )ลูกศิษย์เก่า ค่าใช้จ่าย ๒,๗๐๐ บาท ( ใช้เสื้อ, กระเป๋าเดิม )รุ่นที่ ๖ เริ่มวันจันทร์ที่ ๕ เมษายน ถึง วันศุกร์ที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๓-วันพฤหัสบดีที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๓ ไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ําบางแสนลูกศิษย์ใหม่ ค่าใช้จ่าย ๓,๙๐๐ บาท ( รวมเสื้อสีตามวัน ๕ ตัว และ กระเป๋างานใบใหญ ่๑ ใบ )ลูกศิษย์เก่า ค่าใช้จ่าย ๒,๗๐๐ บาท ( ใช้เสื้อ, กระเป๋าเดิม )รุ่นที่ ๗ เริ่มวันจันทร์ที่ ๑๙ เมษายน ถึง วันศุกร์ที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๕๓-วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๓ ไปป้อมพระจุลจอมเกล้าลูกศิษย์ใหม่ ค่าใช้จ่าย ๓,๗๐๐ บาท ( รวมเสื้อสีตามวัน ๕ ตัว และ กระเป๋างานใบใหญ ่๑ ใบ )ลูกศิษย์เก่า ค่าใช้จ่าย ๒,๕๐๐ บาท ( ใช้เสื้อ, กระเป๋าเดิม )รุ่นที่ ๘ เริ่มวันจันทร์ที่ ๒๖ เมษายน ถึง วันศุกร์ที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๓-วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๓ ไปอุทยานร2 อัมพวาลูกศิษย์ใหม่ ค่าใช้จ่าย ๓,๗๐๐ บาท ( รวมเสื้อสีตามวัน ๕ ตัว และ กระเป๋างานใบใหญ ่๑ ใบ )ลูกศิษย์เก่า ค่าใช้จ่าย ๒,๕๐๐ บาท ( ใช้เสื้อ, กระเป๋าเดิม )รุ่นที่ ๙ เริ่มวันจันทร์ที่ ๓ พฤษภาคม ถึง วันศุกร์ที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓-วันพฤหัสบดีที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ไปพิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์ สวนรมณีนาถลูกศิษย์ใหม่ ค่าใช้จ่าย ๓,๗๐๐ บาท ( รวมเสื้อสีตามวัน ๕ ตัว และ กระเป๋างานใบใหญ ่๑ ใบ )ลูกศิษย์เก่า ค่าใช้จ่าย ๒,๕๐๐ บาท ( ใช้เสื้อ, กระเป๋าเดิม )รุ่นที่ ๑๐ เริ่มวันจันทร์ที่ ๑๐ พฤษภาคม ถึง วันศุกร์ที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๓-วันพุธที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ไปสวนสยามลูกศิษย์ใหม่ ค่าใช้จ่าย ๓,๙๐๐ บาท ( รวมเสื้อสีตามวัน ๕ ตัว และ กระเป๋างานใบใหญ ่๑ ใบ )ลูกศิษย์เก่า ค่าใช้จ่าย ๒,๗๐๐ บาท ( ใช้เสื้อ, กระเป๋าเดิม )

ติดต่อ เจริญพาศน์ ครูแป๋ม ๐๘๕-๘๔๑-๖๔๙๑ ครูแจง ๐๘๙-๑๘๔-๙๗๓๕, ๐๒-๔๖๖-๕๒๕๖-๗พระราม ๙ ครูต้น ๐๘๖-๖๒๑-๖๒๙๓, ๐๒-๗๑๘-๒๙๖๗สุขุมวิท ๑๐๑ ๐๒-๗๔๗-๗๕๙๕ค่ายในสวน ครูนก ๐๘๑-๘๑๖-๘๗๘๔, ๐๒-๖๑๘-๕๖๖๔www.art-laemkom.com

ขอบพระคุณมากครับครูแหลม