โครงงานวิทยาศาสตร

ระดับประถมศกึษาตอนปลาย

เรื่อง “น้ําพริกพิชิตมด”

คณะผูจัดทํา

1. เด็กหญิงณัฐวรา พลอยสุทธิ ชั้น ป.6/2 เลขที่ 42

2. เด็กหญิงอภิชญา ทิมสุวรรณ ชั้น ป.6/2 เลขที่ 29

3. เด็กหญิงวรินธร ปานเทศ ชั้น ป.6/2 เลขที่ 27

4. เด็กหญิงเกสินี ตันตะราวงศา ชั้น ป.6/2 เลขที่ 26

5. เด็กหญิงชนิภา เอ้ียวนาว ชั้น ป.6/2 เลขที่ 25

6. เด็กหญิงพรนภา แกวนุช ชั้น ป.6/2 เลขที่ 34

ครูที่ปรึกษา มิสจิตรา จันทรหอม

ครูที่ปรึกษา มิสกัญจนันท แกวคง

ปการศึกษา 2553 โรงเรียนเซนตหลุยสฉะเชิงเทรา

สารบัญ

บทที่ หนา กิตตกิรรมประกาศ ก

บทคัดยอ ข

สารบัญตาราง ค

สารบัญรูปภาพ ง

บทที่ 1 บทนํา

บทที่ 2 เอกสารที่อางองิ

บทที่ 3 อุปกรณและวธิีการทดลอง

บทที่ 4 ผลการทดลอง

บทที่ 5 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง

บรรณานกุรม

ภาคผนวก

กิตติกรรมประกาศ

โครงงานวิทยาศาสตร เรื่อง น้ําพริกพิชิตมด สําเรจ็ลุลวงไดเนื่องจากสมาชิก

ในกลุมทุกทาน ไดใหความรวมมือ สามัคคีและเสียสละ ทั้งเวลาและทุนทรัพย

ขอขอบพระคุณ คุณพอ คุณแม ที่ใหกําลังใจและใหความชวยเหลอื พรอมทั้ง

ใหการสนับสนุน ขอขอบคุณมิสจิตรา จันทรหอม มิสกัณจนันท แกวคง ครูที่

ปรึกษาที่ไดเสียสละเวลา รวมทั้งใหคําแนะนําและการแกไขขอบกพรอง

จนกระทั่งโครงงานนี้สําเรจ็ลุลวงลงดวยด ี

ทางคณะผูจัดทําหวงัเปนอยางยิง่วาโครงงานวทิยาศาสตรที่จัดทําขึ้นในครัง้

นี้ จะเปนประโยชนตอผูศึกษาคนควาและนําไปปรับปรุงพัฒนาตอไป

คณะผูจัดทํา

31 กรกฎาคม 2553

บทคัดยอ

พริก เปนทั้งเครื่องเทศและสมุนไพร มีชื่อเรียกวา Copsicum พริกมี

ประโยชนหลายอยาง อาทิเชน นํามาทําเปนยา นํามาทําเปนอาหาร และนํามา

ทําเปนสารกําจัดศัตรูพชื

คณะผูจัดทําจึงไดจัดทําโครงงานวิทยาศาสตร เรื่อง น้ําพริกพิชิตมด ขึ้น

โดยการนําพริกขี้หนูแดง พริกไทย เกลือปน และน้ําเปลามาผสมกัน ใน

อัตราสวน พริกขี้หนูแดง 1 ถวย : พริกไทยเม็ด 1 ขีด : เกลือปน 1/2 ถวย :

น้ําเปลา 1/2 ลิตร มาผสมกันโดยการนําไปตมประมาณ 3 นาที หลังจากนั้นใช

ผาขาวบางกรอง ตั้งทิ้งไวใหเย็นและนําบรรจลุงขวดสเปรย นําไปทดลองใชกับ

มดคันไฟสีแดง กลุมตัวอยาง ผลปรากฏวา สามารถกําจัดมดได

สารบัญตาราง

ตารางที่ 1 แสดงผลการศึกษาพริกขี้หนูแดงและพริกไทย

ตารางที่ 2 แสดงผลการศึกษาอัตราสวนท่ีเหมาะสมกับการทําน้ําพริกพิชิตมด

ตารางที่ 3 แสดงผลการศึกษาน้ําพริกพิชิตมด

สารบัญรูปภาพ

รูปภาพที่ 1 แสดงสมาชิกในกลุม

รูปภาพที่ 2 แสดงอุปกรณและสารเคมีที่ใชในการทดลอง

รูปภาพที่ 3 แสดงขั้นตอนการทําน้ําพริกพชิิตมด

รูปภาพที่ 4 แสดงภาพผลิตภัณฑท่ีสําเร็จ

รูปภาพที่ 5 แสดงขั้นตอนการทดลอง

1.1 ท่ีมาและความสําคัญของโครงงาน เนื่องดวยสมาชิกในกลุมอยากชวยกัน ลด ละ เลิก หลีกเลี่ยงการใช

สารเคมีใน

บาน เพราะปจจุบันเราใชกันมากในแทบทุกครัวเรือน ไมวาจะทั้งทางอุปโภคหรอื

บริโภค จึงมีความเห็นตรงกันวาถาเราจะผลิตน้ํายากําจัดมดขึ้นมาใชเอง โดยไมมี

สารเคมีเจอืปนนาจะดี เพราะไมเปนอันตรายตอรางกายและสามารถผลิตไดเองใน

ทุกครัวเรือน เวลาเราทําเศษอาหารตกหลน มดมักจะมาตอมไตตามโตะอาหาร

ขอบประตู และภายในหองครวัก็มีมดมาไตตอมสรางความรําคาญใหแกเราได มด

ละเอียดตัวเล็ก ๆ ถาเราใชนิ้วไปบดบ้ี ก็จะมีกลิ่นเหม็นติดมือมา มดละเอียดชนิดที่

มีสีแดง ถาเราโดนกัดเราก็จะรูสึกเจ็บ และสําหรับบนโตะอาหาร เมื่อเราใชผาเช็ด

โตะเช็ดแลวสักพักกจ็ะมีมดขึ้นมาไตบนโตะอาหารอีก เราจึงชวยกันคิดคนวา

สมุนไพรและเครือ่งเทศที่มีฤทธิ์เผ็ดรอนอยางเชน พริกขี้หนูแดงและพริกไทย เมื่อ

นํามารวมกันนาจะมีประสิทธิภาพเหนือกวาใชพริกขี้หนูแดงหรือพริกไทยเพียง

อยางเดียว เราจงึไดรวมมือกันทําการทดลองโดยนําสมุนไพรทัง้สองชนิดไปทํา

ผลิตภัณฑกําจัดมด หรือเรียกอีกอยางหนึ่งวา “น้ําพริกพิชิตมด”

1.2 จุดมุงหมายของการศึกษาคนควา 1. เพื่อหลีกเลี่ยงการใชสารเคมีภายในบาน

2. เพื่อศึกษาวิธีการผลิตน้ํายากําจัดมดขึ้นใชเอง

บทที่ 1 บทนํา

3. เพื่อศึกษาสมุนไพรที่มีฤทธิ์เผ็ดรอนอยางเชนพริกขี้หนูแดงและ

พริกไทยสามารถกําจัดมดได

4. เพื่อฝกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร

1.3 สมมติฐานของการศึกษาคนควา สมุนไพรและเครือ่งเทศที่มีฤทธิ์เผ็ดรอนสามารถกําจัดมดได

ตัวแปรตน คือ พริกขี้หนูแดงและพริกไทย

ตัวแปรตาม คือ กําจัดมดคันไฟสีแดงได

ตัวแปรควบคุม คือ ปริมาณสาร ระยะเวลา สถานท่ีที่ใชในการทดลอง

ขั้นตอนการทดลอง ขั้นตอนการผลิตน้ําพริกพิชิตมด

อุปกรณที่ใชในการทดลอง อัตราสวนของสาร ขนาด

ภาชนะที่ใชบรรจุน้ําพรกิพิชิตมด

1.4 ขอบเขตของการศึกษาคนควา สมุนไพรที่ใช คือ พริกขี้หนูแดงและพริกไทย

สถานท่ีใชทดลอง คือ บานเลขท่ี 23/34 ถนนมหาจักรพรรดิ์

ตําบลหนาเมือง อําเภอเมือง จังหวัดฉะเชงิเทรา

ระยะเวลาที่ใชในการทดลอง ตั้งแตเดือนพฤษภาคม 2553 ถึง เดือน

กรกฎาคม 2553 เปนระยะเวลา 3 เดือน

กลุมประชากรตัวอยางที่ใชทดสอบนํ้าพรกิพิชิตมด คือ มดละเอียดชนิด

ที่มีสีแดง

สารเคมีที่ใช คือ เกลือปน น้ําเปลา

1.5 นิยามเชิงปฏิบัติการ 1.5.1 พริกขี้หนูแดง หมายถึง การนําสวนของเม็ดพริกขี้หนแูดงมาตม

กับนํ้า

1.5.2 พริกไทย หมายถึง การนําเม็ดพริกไทยมาตมกับนํ้าพรอมกับพริก

ขี้หนูแดงและเกลือปน

1.5.3 ชนิดของสารเคมี หมายถึง เกลือปน น้ําเปลา

1.5.4 อัตราสวน หมายถึง สวนผสมระหวางพริกขี้หนูแดง พริกไทย

เกลือปน และน้ําเปลา

1.5.5 ปริมาณของสาร หมายถึง พริกขี้หนูแดง 1 ถวย : พริกไทยเม็ด

1 ขีด : เกลือปน ½ ถวย : น้ําเปลา ½ ลิตร

1.5.6 มด หมายถึง มดละเอียดชนิดที่มีสีแดง

1.5.7 ระยะเวลา หมายถึง ระยะเวลา 15 นาที ที่นําน้ําพริกพิชิตมด

ไปฉีดเขากับมดละเอียดสีแดง

1.5.8 วิธีการสกัดน้ําพริกพิชิตมด หมายถึง การนําพริกขี้หนูแดง

พริกไทยเม็ดนําไปตมรวมกันกับเกลือและน้ําเปลาในอุณหภูมิที่พอเหมาะ

1.5.9 น้ําพริกพิชิตมด หมายถึง น้ําพริกที่ไดจากการนําพริกขี้หนูแดง

พริกไทย เกลือปน และน้ํานําไปตมรวมกันและนํามากรองดวยผาขาวบางบรรจุ

ลงในขวดและนําไปทดลองใชกับมดละเอียดสแีดง

พริก (chilli)

พริก เปนพืชในตระกูล Solanaceae มีชื่อทางวทิยาศาสตรวา Capsicum

frutescens L. ชื่อภาษาองักฤษวา Chilli peppers, chili, chile หรือ chilli มาจากคํา

ภาษาสเปน วา chile โดยสวนมากแลว ชื่อเหลานี้มักหมายถึง พริกที่มีขนาดเล็ก

สวนพริกขนาดใหญท่ีมีรสออนกวาจะเรยีกวา Bell Pepper ในสหรฐัอเมริกา

Pepper ในประเทศอังกฤษและไอรแลนด, capsicum ในประเทศอินเดียกับ

ออสเตรเลีย และ Paprika ในประเทศทวีปยุโรปหลายประเทศ พริกชนิดตางๆ มีตน

กําเนิดมาจากทวีปอเมริกา ซึ่งในปจจุบันนี้ไดมีปลูกกันในหลายประเทศทั่วโลก

เพราะพริกเปนเครื่องเทศที่สําคัญชื่อหนึ่ง และยังมีคุณสมบัติเปนยาสมุนไพรดวย

เชนกัน

บทที่ 2 เอกสารท่ีอางอิง

ชนิดของพริก

พริกมีหลายชนิด เชน พริกขี้หนู พริกไทย พริกหยวก พริกเหลือง พริกชี้ฟา พริก

หนุม พริกกะเหรี่ยง ประเทศไทยนั้นมักนิยมปลูกพริกอยู 2 ชนิดซึ่งไดแก

1. พริกหวาน พริกหยวก พริกชี้ฟา (ในกลุม C. annuum)

2. พริกเผ็ดไดแก พริกขี้หนูสวน พริกขี้หนูใหญ (ในกลุม C. furtescens)

การเพาะปลูก

เริ่มจากการเตรียมดิน ระหวางไถพรวน ดินใหรองพื้นดวยปูนขาว อัตรา 75

ก.ก. ตอไร และปุย ไบ.โอ.ฮิวมิค.พลัส. อัตรา 50 ก.ก. ตอไร แลวรดน้ําตาม หรือจะ

ใชปุยดิน ทอง อัตรา 1 แกลลอน (5 ลิตร) ตอ 1 ไร รองพื้น เพื่อปรับสภาพดินและ

ปองกันกําจัด เชื้อที่เปนสาเหตุของโรคพืชที่มีอยูในดิน บม ดินท้ิงไวประมาณ 7-10

วัน จึงยกรองกวาง 1 เมตร สูง 20 ซม. แลวจึงคลุมผายาง ทําการ เจาะรูผายางใหมี

เสนผาศูนยกลาง 10 ซม. หางกันประมาณ 50 ซม. เพื่อปองกันกําจัด วัชพืชในแปลง

พริก การเพาะกลา ทําการแชเมล็ดพริกโดย ใชสารชวีภาพที่เรงรากและใบ อัตรา 3-

5 ซีซี. ตอน้ํา 20 ลิตร เพื่อเรงการงอกรากของเมล็ด เมล็ดพริกที่ใชปลูกใหแชทิ้งไว

1 คืน หลังจาก นั้นนําเมล็ดพริกขึ้นจากน้ํา แลวหอดวยผา ขาวบางชุบน้ําอีก 1 คืน

จึงหวานเมล็ดลงบน แปลงเพาะ เมื่อตนกลาแตกใบแรกหรือ ประมาณ 7 วันหลัง

หวาน จึงยายมาเพาะตอ ในถาดหลุมอีกประมาณ 25-30 วัน จึงยาย กลามาปลูกลง

แปลงที่เตรียมไว การยายกลาลงแปลงปลูก กอนนําตนกลาลงแปลงปลูก ใหใชปุย

ไบ.โอ.ฮิวมัส.พลัส หรือปุยชีวภาพรองกนหลุม อัตรา 1 ชอนแกง ตอหลุม

คลุกเคลาใหเขากับดิน เพื่อปองกัน โรครากเนา โคนเนาแลวรดน้ําตามทันที หรือ

อาจใชปุยดินทอง (ปุยชีวภาพ) อัตรา 3 ชอนแกงตอน้ํา 20 ลิตรราดดินหรือ

คลุกเคลากับดิน เพื่อใชในการรองพื้นกอนการปลูกพืช การบํารุงตนและผล เพื่อ

กระตุนใหตน พริกเจริญเติบโตเร็ว ออกดอกสม่ําเสมอ ใหผลดก ผลมีขนาดใหญ

ไมมีโรคแมลงมา รบกวน ใหใชปุยทรีซิน อัตรา 50 ซีซี. + ทรี เท็คซีน อัตรา 30

กรัม (เพื่อปองกันและกําจัด เชื้อรา) + ซิลเวอรเอกซตรา บี.96 อัตรา 30 ซีซี. (เพื่อ

เรงการเจริญเติบโตของตนพริก) และในชวงออกดอกใหใชซิลเวอรเอ็กซตรา สูตร

เดตาดอกแทน + ทรีสตาร 5 ซีซี. + เซฟตี้ คิล 50 ซีซี. (เพื่อปองกันและกําจัดแมลง)

+ สารจับใบ ผสมน้ํา 20 ลิตร ฉีดพนตนพริก ทุกๆ 7 วัน ถามีโรคและแมลงมา

รบกวน ให ฉีดพนทุก 3-5 วัน และกอนเก็บผลผลิต ประมาณ 1 สัปดาหใหใชวา

นากา 20 ซีซี. ฉีดรวมเขาไปดวย เพื่อทําใหพริกผลโต สี สวย ไดน้ําหนัก หรือเพื่อ

ความสะดวกและ ประหยัดคาใชจาย อาจใชปุยชีวภาพปาณิ อัตรา 10 ซีซี.+ปุยปาณิ

แครป 10 ซีซี. + น้ํา 20 ลิตร ฉีดพนเพื่อกระตุนใหตนพริกเจริญ เติบโตออกดอก

สม่ําเสมอ ใหผลดก ผลมี ขนาดใหญ ไมมีโรคแมลงรบกวน โดยฉีดพน ตนพริก 7-

10 วันตอครั้ง แตถามีโรคแมลงมารบกวน อาจฉีดพนทุก 3-5 วันและกอนเก็บเกี่ยว

ผลผลิต 1 สัปดาห การใชปุย หลังยายตนกลาแลว 5 วัน อาจมีการใชปุยสูตร 46-0-0

รวมกับ 15-15-15 อยางละ 1 กก. ผสมน้ํา 20 ลิตร หยอดบริเวณโคนตน เพื่อเรงการ

เจริญเติบโต หลังจากนั้น 7 วัน หยอดปุยซ้ําอีกครั้ง โดยเพิ่ม ปริมาณปุยอีกอยางละ

1 กก. จนตนพริกมี อายุ 30 วัน ใหทําการฝงปุยสูตร 15-15-15 รวมกับ 13-21-0

อัตรา 1 ชอนแกงตอหลุม โดยฝงใหหางโคนตน 1 ฝามือ เพื่อเรงการ ออกดอก พอ

ตนพริกอายุได 45-50 วัน ใหทํา การฝงปุยสูตร 13-13-21 อัตรา 1 ชอนแกงตอ หลุม

เพื่อบํารงุเมล็ดพริก แตถาสมาชิกจะ หลีกเลี่ยงปุยสูตรดังกลาว และหันมาใชปุย

ชีวภาพที่มีขายในทองตลาดเชน ปุยปาณิ + ปุยปาณิแครป อัตรา อยางละ 10 ซีซี.

ฉีดพน ทุก 7-10 วันจนตนพริกเก็บเกี่ยวผลผลิต การใหน้ํา ชวงยายกลาใหน้ําทุก ๆ

3 วัน จนตนพริกมาอายุได 15 วัน จึงเปลี่ยนเปน การใหน้ําสัปดาห 1 ครั้ง ปญหา

เรื่องโรคและแมลงจะมีการทําลายนอยมาก ถามีการใชปุยชีวภาพอยางสม่าํเสมอ

และถูกตอง สวนมากปญหาที่พบคือ ยอดหงิก ซึ่งมีสาเหตุมาจากเพลี้ยไฟ ก็อาจ จะ

มีการปองกันดวยการถอนทําลายตนท้ิง หรืออาจมีการใชสารเคมีบางในยามที่

จําเปน

สรรพคุณ พริกมีวิตามินซี สงู เปนแหลงของกรด ascorbic ซึ่งสารเหลานี้ ชวยขยายเสน

โลหิตในลําไสและกระเพาะอาหารเพือ่ใหดูดซมึอาหารดีขึ้น ชวยรางกายขับถาย

ของเสยีและนําธาตุอาหารไปยงัเนื้อเยื่อของรางกาย (tissue) สําหรับพริกขี้หนูสด

และพริกชี้ฟาของไทย มีปริมาณวิตามิน ซี 87.0 - 90 มิลลิกรัม / 100 g นอกจากนี้

พริกยงัมีสารเบตา - แคโรทีนหรือวิตามินเอ สูง (พริกขี้หนูสด 140.77 RE )

พริกยงัมีสารสาํคัญอีก 2 ชนิด ไดแก Capsaicin และ Oleoresinโดยเฉพาะ

สาร Capsaicin ที่ นํามาใชในอุตสาหกรรมอาหาร และผลิตภัณฑรักษาโรค ใน

อเมริกามีผลิตภัณฑจําหนายในชื่อ Cayenne สําหรับฆาเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะ

อาหาร สาร Capsaicin ยังมีคุณสมบัติทําใหเกิดรสเผ็ด ลดความเจ็บปวดของ

กลามเนื้อ หัวไหล แขน บั้นเอว และสวนตาง ๆ ของรางกาย และมผีลิตภัณฑ

จําหนายทั้งชนิดเปนโลชั่นและครีม ( Thaxtra - P Capsaicin) แตการใชในปริมาณ

ที่มากเกินไป อาจมีผลกระทบตออาการหยุดชะงักการทํางานของกลามเนื้อได

เชนกัน เพื่อความปลอดภัย USFDA ไดกําหนดใหใชสาร capsaicin ได ท่ีความ

เขมขน 0.75 % สําหรับเปนยารักษาโรค

3.1 อุปกรณและสารเคมี 1. พริกขี้หนูแดง จํานวน 1 ถวย

2. พริกไทยเม็ด จํานวน 1 ขีด

3. เกลือปน จํานวน ½ ถวย

4. น้ําเปลา จํานวน ½ ลิตร

5. ผาขาวบาง จํานวน 1 ผืน

6. ขวดสเปรย จํานวน 6 ใบ

7. หมอสแตนเลสเบอร 24 จํานวน 1 ใบ

8. กรวยหรือทัพพ ี จํานวน 1 อัน

9. เตาไฟฟา จํานวน 1 เตา

3.2 ขั้นตอนการผลิต 1. เตรียมวัตถุดิบ / วัสดุ - อุปกรณ

2. เทน้ําใสภาชนะ ปริมาณ ½ ลิตร นําขึ้นตั้งบนเตาไฟจนเดือด

จากนั้นใสพริกขี้หนูแดงปริมาณ 1 ถวย ลงไป

3. ใสพริกไทยเม็ด ปริมาณ 1 ถวยลงไป

4. ใสเกลือปนปริมาณ ½ ถวยลงไป

5. ตมตอไปอีกประมาณ 3 นาที ปดไฟแลวทิ้งไวใหเย็น จากนั้นนํามา

กรองบนผาขาวบาง

6. กรอกใสขวดสเปรยที่เตรียมไว

บทท่ี 3 อุปกรณและวิธีการทดลอง

3.3 ขั้นตอนการทดลอง

1. นํามดคันไฟสีแดงกลุมตัวอยางสีแดง จํานวน 10 ตัว วางไวบนโตะกินขาว

2. นําน้ําพริกพิชิตมดมาฉีดบริเวณที่มดอยู

3. บันทึกผลการทดลอง

4. นํามดคันไฟสีแดงกลุมตัวอยางสีแดง จํานวน 15 ตัว วางไวบนโตะกินขาว

5. นําน้ําพริกพชิิตมดมาฉีดบริเวณที่มดอยู

6. บันทึกผลการทดลอง

ตารางที่ 1 แสดงผลการศึกษาพริกขี้หนูแดงและพริกไทย

ลักษณะของพริกขี้หนูแดงและพริกไทย

กอนการทดลอง

ลักษณะของพริกขี้หนูแดงและพริกไทย

หลังการทดลอง

• พริกขี้หนูแดงมีลักษณะเปนเม็ดเรียว

ยาวมสีีแดงและมีกลิ่นฉุน

• พริกไทยมีลักษณะเปนเม็ดกลมมีสี

เทาและมีกลิ่นฉุน

• มีลักษณะเปนน้ํา มีสีขาวขุน มีกลิ่น

ฉุน น้ํามีลักษณะใส

ตารางที่ 2 แสดงผลการศึกษาอัตราสวนที่เหมาะสมกับการทําน้ําพริกพิชิตมด

อัตราสวนระหวาง

พริกขี้หนูแดง : พริกไทยเม็ด : เกลือ

: น้ําเปลา

ลักษณะของน้ําพริกที่ได

พริกขี้หนูแดง 1 ถวย : พริกไทยเม็ด

1 ขีด : เกลือปน ½ ถวย :

น้ําเปลา ½ ลิตร

มีสีขาวขุน มีกลิ่นฉุน

ตารางที่ 3 แสดงผลการศึกษาน้ําพริกพิชิตมด

จํานวนมด (ตัว) ผลการศึกษา หมายเหตุ

10 สามารถไลมดได

15 สามารถไลมดได

บทท่ี 4 ผลการทดลอง

5.1 สรุปผลการทดลอง

สรุปผลการทดลองที่ 1 จากตารางที่ 1 พบวาเมื่อนํา พริกขี้หนูแดงมา

ศึกษาพริกขี้หนูแดง มีลักษณะเปนเม็ดเรียวยาวมีสีแดงและมีกลิ่นฉุน พริกไทยมี

ลักษณะเปนเม็ดกลมมีสีเทาและมีกลิ่นฉุน

จึงอาจสรุปไดวา เมื่อนําพริกขี้หนูแดงมาศึกษาพริกขี้หนูแดง มีลักษณะ

เปนเม็ดเรียวยาวมีสีแดงและมีกลิ่นฉุน พริกไทยมีลักษณะเปนเม็ดกลมมีสีเทาและ

มีกลิ่นฉุน

สรุปผลการทดลองที่ 2 จากตารางที่ 2 พบวาเมื่อนําสวนผสมของ พริกขี้หนู

แดง 1 ถวย : พริกไทยเม็ด 1 ขีด : เกลือปน ½ ถวย : น้ําเปลา ½ ลิตร

ลักษณะที่ไดจะมีสีขาวขุน มีกลิ่นฉุน

จึงอาจสรุปไดวา อัตราสวนที่เหมาะสมกับการทําน้ําพริกพิชิตมด คือนํา

สวนผสมของ พริกขี้หนูแดง 1 ถวย : พริกไทยเม็ด 1 ขีด : เกลือปน ½

ถวย : น้ําเปลา ½ ลิตร

สรุปผลการทดลองที่ 3 จากตารางที่ 3 พบวา น้ําพริกพชิิตมดสามารถไล

มดไดจากการนํามดกลุมตัวอยาง จากจํานวน 10 ตัวสามารถพชิิตมดได จํานวน

15 ตัวก็สามารถพชิิตมดได

จึงอาจสรุปผลการทดลองไดวา น้ําพริกพิชิตมดสามารถพิชิตมดได

บทท่ี 5 สรุปและอภิปรายผลการทดลอง

5.2 อภิปรายผลการทดลอง

จากการนําพริกขี้หนูแดงมาศึกษาพริกขี้หนูแดง มีลักษณะเปนเม็ดเรียวยาวมีส ี

แดงและมีกลิ่นฉุน พริกไทยมีลักษณะเปนเม็ดกลมมีสีเทาและมีกลิ่นฉุน นํา

สวนผสมของ พริกขี้หนูแดง 1 ถวย : พรกิไทยเม็ด 1 ขีด : เกลือปน ½

ถวย : น้ําเปลา ½ ลิตร จะไดน้ําพริกพิชิตมดที่มีลักษณะขาวขุน มีกลิ่นฉุน

หลังจากนั้นนําน้ําพริกพิชิตมดไปทดลองใชกับกลุมตัวอยาง คือ มดละเอียดชนิดสี

แดง จะพบวาสามารถกําจัดมดได

5.3 ประโยชนที่ไดรับ

ดานเศรษฐกิจ ชวยสรางรายไดใหกับครอบครัว

ดานสังคม ไดฝกการวางแผนการทํางานเปนหมูคณะ

ดานการศึกษา เปนการนําเอาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรมา

ใชในชวีิตประจําวันและยังทํางานเปนหมูคณะ

ดานสิ่งแวดลอม ชวยลดปญหาสิ่งแวดลอมเนื่องจากทําใหสิ่งแวดลอม

เปนพิษ

5.4 ขอเสนอแนะ

ในการทดลองการทําน้ําพริกพิชิตมด นอกจากจะนําน้ําพริกมาใชใน

การกําจัดมดแลว ในครั้งตอไปนาจะศึกษาสมนุไพรตัวอื่น ๆ เพื่อนํามาใชในการ

ไลมดตอไป

ในการทดลองครั้งตอไปนาจะเปลี่ยนวิธีการสกัดสารจากพริกขี้หนูแดง

และพริกไทยจากวธิีการตมเปนวิธีอื่นแทน

เอกสารอางอิง

http://www.google.com/

ภาคผนวก

รูปภาพท่ี 1 แสดงอุปกรณและสารเคมี

รูปภาพท่ี 2 แสดงขั้นตอนการนําพริกข้ีหนูแดงขึ้นตั้งไฟจนเดือด

รูปภาพท่ี 3 แสดงข้ันตอนการนําพริกไทยเม็ดลงไป

รูปภาพท่ี 4 แสดงขั้นตอนการนําเกลือปนใสลงไป

รูปภาพที่ 5 แสดงข้ันตอนการนํามากรองบนผาขาวบาง

รูปภาพท่ี 5 แสดงข้ันตอนการกรอกใสขวดสเปรย