ธรรมชาตขิองขอ้มลู:

1

ชนดิของขอ้มลู

1. ขอ้มลูทีเ่ป็นอกัขระหรอืขอ้ความ Character Data / Text

2. ขอ้มลูเชงิจ านวน Numerical Data

3. ขอ้มลูรหสั Code Data

4. ขอ้มลูวนัที ่ Date Data

5. ขอ้มลูภาพลกัษณ์ Image Data

6. ขอ้มลูภาพเคลือ่นไหว Moving Data

7. ขอ้มลูเสยีง Voice Data

2

คณุภาพของขอ้มลู

มคีวามถกูตอ้งแมน่ย า

เป็นปัจจบุนัหรอืทนัสมยั

มเีนือ้หาตรงกบัความตอ้งการ

คน้หามาใชง้านได ้และมรีปูแบบตรงกบัความตอ้งการ

3

การบรหิารจดัการขอ้มลู

การออกแบบและนยิามขอ้มลู Data design and Definition

การออกแบบฟอรม์บนัทกึขอ้มลูและวธิกีารบนัทกึขอ้มลู Form design and data entry design

การลงรหสัขอ้มลู Data Coding

การบนัทกึขอ้มลู Data Entry

การสอบทานขอ้มลู Data Verification

4

การบรหิารจดัการขอ้มูล (ต่อ)

การตรวจสอบความใชก้ารไดข้องขอ้มลู Data Validation

การประมวลผลขอ้มลู Data Processing

การส ารองขอ้มลู Data Backup

การฟ้ืนสภาพขอ้มลู Data Recovery

การเขา้รหสัและถอดรหสัขอ้มลู Data encryption / Data descryption

5

ปจัจยัทีม่ผีลตอ่ความถกูตอ้งของขอ้มลู

การออกแบบฐานขอ้มลู

การออกแบบรายการขอ้มลู

การจัดเก็บขอ้มลู

การบนัทกึขอ้มลู

การสอบทานขอ้มลู

การปรับขอ้มลูใหเ้ป็นปัจจบุนั

ความผดิพลาดโดยเจตนาหรอืไมเ่จตนา

6

ปญัหาการจดัการขอ้มลูดว้ยแฟ้มขอ้มลู

เกดิความซ ้าซอ้นของขอ้มลู Data redundancy

เกดิความขดัแยง้ของขอ้มลู Data inconsistency

ยากตอ่การแกไ้ข updating difficulties

การผกูตดิกบัขอ้มลู Data dependence

การกระจายของขอ้มลู Data dispersion

การใชป้ระโยชนล์ดลง underutilization of data

7

ขอ้มลู

บทิ

ไบท ์

ฟิลด ์

เรคคอรด์

ไฟล ์

ฐานขอ้มลู

8

หน่วยของขอ้มลู

หน่วยของขอ้มลูคอมพวิเตอรส์ามารถจัดเรยีงเป็นล าดบัชัน้ จากขนาดเล็กไปขนาดใหญไ่ดด้งันี ้

– บติ (bit) เลขฐานสองหนึง่หลักซึง่มคีา่เป็น 0 หรอื 1

– ไบต(์Byte) กลุม่ขอ้มลูบติใชแ้ทนคา่ตวัอกัษรได ้ในชดุอกัขระ ASCII 1 ไบต ์(8 บติ) แทน 1 ตวัอกัษร

– เขตขอ้มลู (field) เขตขอ้มลูซึง่ประกอบดว้ยกลุม่ตวัอกัษรทีแ่ทนขอ้เท็จจรงิ

9

หน่วยของขอ้มลู (ตอ่)

– ระเบยีน (record) คอืโครงสรา้งขอ้มลูทีแ่ทนตวัวัตถชุ ิน้หนึง่ เชน่ ระเบยีนนักเรยีน

– แฟ้ม (file) ตารางทีเ่ป็นกลุม่ของระเบยีนทีม่ีโครงสรา้งเดยีวกนั

– ฐานขอ้มลู (database) กลุม่ของตารางทีม่ีความสมัพันธก์นั

10

หน่วยของขอ้มลู

หนว่ยวดัความจขุองหนว่ยความจ าทางคอมพวิเตอร ์

8 bits = 1 Byte : B

1,024 Bytes = 1 Kilo Byte : KB

1,024 KB = 1 Mega Byte : MB

1,024 MB = 1 Giga Byte : GB

1,024 GB = 1 Tera Byte : TB

หมายเหต ุ Kilo = 210 = 1,024

11

Table

Field1 Field1 Field1 Field1 Field1

Record1

Record2

Record3

Record4

Record5

PK

12

โครงสรา้งฐานขอ้มลู

Name Type ความกวา้ง

Fiedl1 Text 13 PK

Fiedl2 Text 50

Fiedl3 Number 5

Fiedl4 Date

Fiedl5 Picture

13

แบบจ าลองขอ้มลู สคมีา รเีลช ัน่ และอนิสแตนซ ์

แบบจ าลองขอ้มลู Data model หมายถงึ โครงสรา้งขอ้มลูในระดบัตรรกะ ทีน่ าเสนอขอ้มลูและความสมัพันธร์ะหวา่งขอ้มลูใหผู้ใ้ชเ้ห็น เนือ่งจากการก็บขอ้มลูในฐานขอ้มลูนัน้ไมย่าก แตส่ิง่ทีย่ากคอืจะแสดงอยา่งไรใหเ้ห็นความสมัพันธร์ะหวา่งขอ้มลู

14

สคมีา schema

คอืโครงสรา้ง หรอืเรยีกอกีอยา่งวา่ ไทป Type ถา้พจิารณาฐานขอ้มลูแบบสมัพันธ ์ค าวา่ relation schema หมายถงึโครงสรา้งของฐานขอ้มลูแบบสมัพันธ ์ซึง่อาจมชีือ่เรยีกเป็นอกีอยา่งอืน่ วา่ “Table definition”

Student_ID Student_name Address Major Phone

15

รเีลช ัน่ Relation

คอื โครงสรา้งของขอ้มลูแบบสมัพันธ ์ซึง่น าเสนอโดยใชต้าราง มลีกัษณะเป็นแถวและคอลมัน ์และมเีนือ้ขอ้มลูในตาราง

ความสมัพันธ ์3 ลกัษณะคอื

- 1 to 1

- 1 to Many

- Many to many

16

อนิสแตนซ ์Instances

คอื เนือ้ขอ้มลู หรอือาจเรยีกอกีอยา่งหนึง่วา่ ออกเคอรเ์ร็นซ ์Occurrence

17

ประเภทของคยี ์ Key

Super key

Candidate key

Primary Key

Alternate Key

Foreign Key

18

Super Key

ซุปเปอรค์อืย ์ คอื แอตทรบิวิตต์วัใดตัวหนึง่หรอืหลายตวัรว่มกนั ทีส่ามารถใช ้

ก าหนดคา่ความเป็นหนึง่เดยีวของแถวในตารางขอ้มลูนัน้ และถกูก าหนดไวเ้พือ่ใชใ้นการนยิามคยีค์ูแ่ขง่

19

Candidate Key

คยีค์ูแ่ขง่ คอืซปุเปอรค์ยีต์วัทีเ่ล็กทีส่ดุ หรอืหมายถงึซปุเปอรค์ยีต์วัใด ๆ ทีไ่มไ่ด ้ประกอบดว้ยกลุม่ยอ่ยของแอตทรบิวิตใ์ดที่เป็นซปุเปอรค์ยีด์ว้ยตวัของมันเอง และถกูก าหนดไวเ้พือ่ใชใ้นการนยิามคยีร์อง

20

Primary Key

คยีห์ลัก คอื คยีค์ูแ่ขง่เพยีงตวัเดยีวทีถ่กูเลอืกใหเ้ป็นตวัก าหนดคา่ความเป็นหนึง่เดยีว (Unique) ขอ้งขอ้มลูในตารางขอ้มลูนัน้ และคยีห์ลักจะตอ้งมคีา่เสมอ (Not null) และจะมคีา่ซ ้ากนัไมไ่ด ้

21

Alternate Key

คยีร์อง คอื คยีค์ูแ่ขง่ตวัใด ๆ ทีไ่มใ่ชค่ยีห์ลัก และอาจจ ามาใชเ้พือ่เป็นคยีเ์สรมิในการเรยีกคน้ขอ้มลูจากตาราง

22

Foreign Key

คยีน์อก คอื แอตทรบิวิตต์วัใดตัวหนึง่หรอืหลายตวัรว่มกนัในตารางขอ้มลูหนึง่ ซึง่มคีา่ตรงกบัคยีห์ลักในตารางขอ้มลูอืน่ คยีน์อกนี้ถกูน ามาใชว่ยในการเรยีกคน้ขอ้มลูหรอืเชือ่มโยงขอ้มลูทีส่มัพันธก์นัระหวา่งตารางขอ้มลู

23

International Management Development: IMD

ขอ้มลูเพือ่น ามาใชว้เิคราะหค์วามสามารถในการแขง่ขนัของประเทศ 8 ดา้น คอื

1. ขอ้มลูเศรษฐกจิของประเทศ Domestic economy

2. ขอ้มลูการคา้ ความสมัพันธ ์และความรว่มมอืระดับนานาชาต ิInternationalization

3. ขอ้มลูเกีย่วกบัรัฐบาล Government

4. ขอ้มลูดา้นการเงนิ Finance

5. ขอ้มลูโครงสรา้งพืน้ฐาน Infrastructure

6. ขอ้มลูดา้นการจัดการ Management

7. ขอ้มลูดา้นวทิยาศาสตรแ์ละเทคโนโลย ีScience and Technology

8. ขอ้มลูเกีย่วกบัประชากร People

24

การจดัการฐานขอ้มลู

รวบรวม,จดัหมวดหมู่

ท า Normalization

ตาราง

ER

Entity

Relationship

1st NF

2nd NF

3rd NF

BCNF

4th NF 5th NF

ตารางที่มีความสมัพนัธก์นั มีการก าหนด

ประเภท,ความยาว ที่เหมาะสมกบัขอ้มูล

มกีารก าหนด Primary Key

Alternate Key

Candidate

Key

Super Key Foreign key

25

26

จบ