ระบบน้ำเหลือง

53
เรื่อง ระบบน้ำเหลือง (Lymphocyte system) เนือหำ จัดท้ำโดย นำงสำวณิชัชฌำ อำโยวงษ์ ครูกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ http://heathersanimations.com/heartone.html ระบบน้ำเหลือง กลไกกำรสร้ำงภูมิคุ้มกัน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง วัคซีน

Upload: -

Post on 28-May-2015

4.033 views

Category:

Education


15 download

DESCRIPTION

ระบบน้ำเหลือง,โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง,สื่อการเรียนการสอนชีววิทยา

TRANSCRIPT

Page 1: ระบบน้ำเหลือง

เรื่อง ระบบน ำ้เหลือง (Lymphocyte system)

เนื อหำ

จัดท้ำโดย นำงสำวณิชัชฌำ อำโยวงษ์ ครูกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์

http://heathersanimations.com/heartone.html

ระบบน ้ำเหลือง กลไกกำรสรำ้งภูมิคุ้มกัน

ภูมิคุ้มกันบกพร่อง วัคซีน

Page 2: ระบบน้ำเหลือง

จุดประสงค์กำรเรียนรู้

1. ระบุต้ำแหน่งและหน้ำที่ของต่อมน ้ำเหลือง ในร่ำงกำยคน

2. อธิบำยและเปรยีบเทียบชนิดของภูมิคุ้มกัน 3. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับกำรน้ำควำมรู้ทำงระบบ

ภูมิคุ้มกันมำใช้ในกำรรักษำโรค 4. อธิบำยเกี่ยวกับกำรเกิดภูมิคุ้มกันบกพร่อง

Page 3: ระบบน้ำเหลือง

จุดประสงค์กำรเรียนรู้

5. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับสถิติผู้ปว่ยโรค AIDs ในประเทศไทย

6. อธิบำยและเปรยีบเทียบวัคซีนกับเซรุ่ม

Page 4: ระบบน้ำเหลือง

เรื่อง ระบบน ำ้เหลือง (Lymphocyte system)

ท้ำหน้ำที่ล้ำเลียงสำรต่ำงๆ ใหก้ลับเข้ำสู่หลอดเลอืด (กรดไขมัน)

ทิศทำงกำรไหลของน ้ำเหลือง หัวใจ

ไม่มีอวัยวะสูบฉีด

ระบบน ้ำเหลือง ประกอบด้วย

น ้ำเหลือง หลอดน ้ำเหลือง และต่อมน ้ำเหลือง

Page 5: ระบบน้ำเหลือง
Page 6: ระบบน้ำเหลือง

น ้ำเหลือง (Lymp) เป็นของเหลวที่ซึมผ่ำนเส้นเลือดฝอยออกมำ

ประกอบด้วย

1. เซลล์น ้ำเหลือง (Lymp cell)

2. โปรตีน อัลบูมิน

3. ก๊ำซ น ้ำ กลูโคส

4. เอนไซม์ ฮอร์โมน

Page 7: ระบบน้ำเหลือง

น ้ำเหลือง (Lymp)

หน้ำที่ของน ้ำเหลือง

1. ระบำยสำรต่ำงๆ ออกจำกเนื อเยื่อ

2. เกิดกำรไหลเวียนของ lymphocyte และ monocyte

3. ก้ำจัดเชื อโรค เป็นแอนติบอดี (ภูมิคุ้มกัน)

4. ช่วยดูดซึมไขมันที่ล้ำไส้เล็ก

Page 8: ระบบน้ำเหลือง

ต่อมน ้ำเหลือง (Lymp node) ต่อมที่สร้ำงน ้ำเหลืองได้ รูปไข่ ขนำดต่ำงๆกัน

1. ทอนซิล

2. ม้ำม

3. ต่อมไทมัส

4. เนื อเยื่อน ้ำเหลืองที่ผนังล้ำไส้

ภำยในมีลิมโฟไซต์

Page 9: ระบบน้ำเหลือง

ทอนซิล (Tonsil)

มี 3 คู่ รอบๆ หลอดอำหำรต่อมทอนซิลอักเสบ

Page 10: ระบบน้ำเหลือง

ม้ำม (Spleen)

ต่อมน ้ำเหลืองที่มีขนำดใหญ่ที่สุด

Embryo RBC, platlet

หลังคลอด ท้ำลำย RBC , สร้ำงแอนติบอดี

Page 11: ระบบน้ำเหลือง

ม้ำม (Spleen)

Page 12: ระบบน้ำเหลือง

ต่อมไทมัส (thymus gland)

สร้ำง T lymphocyte

Page 13: ระบบน้ำเหลือง

หลอดน ้ำเหลือง ลักษณะ

1. มีลิ นกั น

2. หลอดน ้ำเหลืองฝอย

ปลำยตัน

3. มีทิศทำงเดียว คือ เข้ำสู่หัวใจ

Page 14: ระบบน้ำเหลือง

น ้ำเหลืองเคลื่อนที่ได้อย่ำงไร ?

กำรบีบและคลำยตัวของกล้ำมเนื อเรียบของหลอดน ้ำเหลือง

กำรหำยใจเข้ำ

Page 15: ระบบน้ำเหลือง

กลไกกำรสร้ำงภูมิคุ้มกนั

ภูมิคุ้มกัน (immunity)

กระบวนกำรต่อต้ำนเชื อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่เขำ้สู่ร่ำงกำย

แอนติเจน (antigen)

จุลินทรีย ์แบคทีเรีย ไวรัส ฝุ่นละออง ยำ เกสรดอกไม้ สำรเคม ี

?

Page 16: ระบบน้ำเหลือง

Question

โครงสร้ำงใดท้ำหน้ำที่ในกำรก้ำจัดสิ่งแปลกปลอม ?

Page 17: ระบบน้ำเหลือง

ระบบภูมิคุ้มกัน (immune system) มี 2 แบบ คือ

1. ภูมิคุ้มกันแบบไม่จ้ำเพำะ (non specific defense) หรือ

ภูมิคุ้มกนัที่มีในธรรมชำติ

2. ภูมิคุ้มกันแบบจ้ำเพำะ (specific defense)

Page 18: ระบบน้ำเหลือง

1. ภูมิคุ้มกันแบบไม่จ้ำเพำะ (non specific defense) หรือ

ภูมิคุ้มกนัที่มีในธรรมชำติ

1.1 สิ่งกีดขวำง

1.1.1 ผิวหนัง keratin และเหงื่อ

1.1.2 จมูกและหู เมือก

1.1.3 ตำ น ้ำตำ

1.1.4 ช่องคลอด เมือก และ ซิเลีย

Page 19: ระบบน้ำเหลือง

1. ภูมิคุ้มกันแบบไม่จ้ำเพำะ (non specific defense) หรือ

ภูมิคุ้มกนัที่มีในธรรมชำติ

1.2 monocyte macrophage phagocytosis

1.3 neutrophil and eosinophil

Page 20: ระบบน้ำเหลือง

2. ภูมิคุ้มกันแบบจ้ำเพำะ (specific defense)

เป็นภูมิคุ้มกันที่เกี่ยวขอ้งกับ lymphocyte

lymphocyte มี 2 ชนดิ คอื

1. B cell 2. T cell

Page 21: ระบบน้ำเหลือง

B cell

plasma cell memory cell

แบ่งเซลล ์

จดจ้ำแอนติเจนชนิดเดิม

Page 22: ระบบน้ำเหลือง

T cell

1. เซลล์ทีผู้ช่วย (helper T cell หรือ CD4+ : Th)

รับรู้ต่อแอนติเจนแต่ละชนิด

กระตุ้นกำรท้ำงำนของ B cell

Page 23: ระบบน้ำเหลือง

T cell

2. เซลล์ทีท้ำลำยส่ิงแปลกปลอม (cytotoxic T cell : CTL)

รับรู้ต่อแอนติเจนแต่ละชนิด

ท้ำลำยเซลล์แปลกปลอม เช่น เซลล์มะเร็ง เซลล์ติดเชื อไวรัส

Page 24: ระบบน้ำเหลือง

T cell

3. เซลล์ทีกดภูมคิุ้มกัน (suppressor T cell หรือ CD8+ หรือ killer cell)

รับรู้ต่อแอนติเจนแต่ละชนิด

ควบคุมกำรท้ำงำนของ T lymphocyte และ B lymphocyte

Page 25: ระบบน้ำเหลือง

กำรสร้ำงภูมิคุ้มกัน มี 2 แบบ คือ

1. ภูมิคุ้มกันก่อเอง (active immunization)

เป็นกำรสร้ำงแอนติบอดี จำกแอนตเิจน

วัคซีน (แอนติเจน) ไข้ทรพิษ อหิวำตกโรค บำดทะยัก โปลิโอ

เกิดช้ำ อยู่นำน

Page 26: ระบบน้ำเหลือง
Page 27: ระบบน้ำเหลือง

กำรสร้ำงภูมิคุ้มกัน มี 2 แบบ คือ

2. ภูมิคุ้มกนัรับมำ (passive immunization)

เป็นกำรรับแอนติบอดีที่สร้ำงโดยสัตว์อื่น Serum

เซรุ่มแก้พษิงู บำดทะยัก พิษสุนัขบ้ำ น ้ำนมมำรดำ

เกิดเรว็ อำยสุั น

Page 28: ระบบน้ำเหลือง

ภูมิคุ้มกันบกพร่อง

Immunodeficiency หรือ Immune deficiency

ภำวะที่ควำมสำมำรถของระบบภูมิคุ้มกันลดลง

1st Immunodeficiency

2nd Immunodeficiency

Page 29: ระบบน้ำเหลือง

1. โรคเอดส์ (AIDs)

AIDs : Acquird Immune Deficiency Syndrome)

เกิดจำกกำรติดเชื อ HIV (human Immune Deficiency Virus)

ท้ำลำย macrophage และ lymphocyte

Page 30: ระบบน้ำเหลือง

HIV (human Immune Deficiency Virus)

Page 31: ระบบน้ำเหลือง

HIV in human blood

Page 32: ระบบน้ำเหลือง

AIDs distribution On May 20, 1983 – First publications of the discovery of the HIV virus that causes AIDS in the journal Science by Luc Montagnier. http://tackpinz.com/this-day-in-history-may-20/tackpinz/

Page 33: ระบบน้ำเหลือง
Page 34: ระบบน้ำเหลือง

1. How about AIDs infection?

Question

Page 35: ระบบน้ำเหลือง

1. เพศสัมพันธ ์

Question

Page 36: ระบบน้ำเหลือง

2. เลือด

Question

Page 37: ระบบน้ำเหลือง

Question

2. How many infection phase?

1. ระยะไม่ปรำกฏอำกำร (Asymptomatic stage) ใช้เวลำประมำณ 7-8 ปี 2. ระยะมีอำกำรสัมพันธ์กับเอดส์ (Aids Related Complex หรือ ARC) ตรวจพบผลเลือดบวก และมีอำกำรผิดปกติเกิดขึ นในเห็น เช่น ต่อมน ้ำเหลืองโตหลำยแห่งติดต่อกันนำนกว่ำ 3 เดือน มีเชื อรำในปำกบริเวณกระพุ้งแก้ม และเพดำนปำก เป็นงูสวัด หรือแผลเริมชนิดลุกลำม และมีอำกำรเรื อรังนำนเกิน 1 เดือน โดยไม่ทรำบสำเหตุ เช่น มีไข้ ท้องเสีย ผิวหนังอักเสบ น ้ำหนักลด เป็นต้น 3.ระยะเอดส์เต็มขั น (Full Blown AIDS) หรือ ระยะ โรคเอดส์

Page 38: ระบบน้ำเหลือง

โรคติดเชื อฉวยโอกำส

Page 39: ระบบน้ำเหลือง

Can be infected blood with AIDs in mosquitoes?

Page 40: ระบบน้ำเหลือง

Question 3. What is World AIDs day? "Universal Access and Human Rights" being

the theme of this year's World AIDS Day, the key slogans are: 1. I am accepted. 2. I am safe. 3. I am getting treatment. 4. I am well. 5. I am living my rights. 6. Everyone deserves to live their rights. 7. Right to Live. 8. Right to Health. 9. Access for all to HIV prevention, treatment, care and support is a critical part of human rights

STOP AIDS,KEEP PROMISE

1 December every year

Page 41: ระบบน้ำเหลือง

2. โรคภมูิแพ้ (Allergy)

เกิดจำกกำรตอบสนองตอ่แอนติเจนผดิปกติ

Page 42: ระบบน้ำเหลือง

2. โรคภมูิแพ้ (Allergy)

Page 43: ระบบน้ำเหลือง

2. โรคภมูิแพ้ (Allergy)

Page 44: ระบบน้ำเหลือง

3. เอส แอล อี (systemic lupus erythematosus) ภูมิคุ้มกันเกิน

มีกำรสร้ำงแอนติบอดีหรือภูมิคุ้มกันต่อเนื อเยื่อต่ำง ๆ ของตัวเอง จึงจัดเป็นโรคภูมิต้ำนตัวเองหรือออโตอิมมูน (autoimmune)

Page 45: ระบบน้ำเหลือง

3. เอส แอล อี

Page 46: ระบบน้ำเหลือง

วัคซีน Vs เซรุ่ม วัคซีน (vaccine)

หลักกำร ท้ำให้ระบบภมูิคุ้มกันของรำ่งกำยรู้จักกบัเชื อ (แอนติเจน)

ที่ไม่เคยเจอมำก่อน เพือ่ที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่ำงกำยจะได้รู้ว่ำจะรับมือกับเชื อ (แอนติเจน) ชนิดนั นๆ ได้อย่ำงไร

สำรกระตุ้นให้ร่ำงกำยสร้ำงภูมิคุ้มกันต่อโรคเป้ำหมำย

Page 47: ระบบน้ำเหลือง

1. ผลิตจำกแบคทีเรียหรือไวรัสที่ถูกท้ำให้หมดฤทธิ์แล้ว

ประเภทของวัคซีน

1. ผลิตจำกแบคทีเรียหรือไวรัสที่ถูกท้ำให้หมดฤทธิ์แล้ว 2. ผลิตจำกสำรพิษที่ถูกท้ำให้หมดควำมเป็นพิษแล้ว 1. ผลิตจำกแบคทีเรียหรือไวรัสที่ถูกท้ำให้หมดฤทธิ์แล้ว 2. ผลิตจำกสำรพิษที่ถูกท้ำให้หมดควำมเป็นพิษแล้ว 3. ผลิตจำกกำรน้ำส่วนที่ก่อโรคของเชื อจุลชีพมำเพียงบำงส่วน

1. ผลิตจำกแบคทีเรียหรือไวรัสที่ถูกท้ำให้หมดฤทธิ์แล้ว 2. ผลิตจำกสำรพิษที่ถูกท้ำให้หมดควำมเป็นพิษแล้ว 3. ผลิตจำกกำรน้ำส่วนที่ก่อโรคของเชื อจุลชีพมำเพียงบำงส่วน 4. สร้ำงโดยกำรสังเครำะห์จำกเทคโนโลยีชีวภำพ

Page 48: ระบบน้ำเหลือง

1. วัคซีนที่สร้ำงจำกเชื อที่ท้ำให้ออ่นแรง ได้แก่ วัคซีนโปลิโอชนิดหยอด (OPV) วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คำงทูม (MMR) วัคซีนปอ้งกันวัณโรค (BCG) วัคซีนอีสกุอีใส (Varicella)

ตัวอย่ำงของวัคซีน 1. วัคซีนที่สร้ำงจำกเชื อที่ท้ำให้ออ่นแรง ได้แก่ วัคซีนโปลิโอชนิดหยอด (OPV)

วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คำงทูม (MMR) วัคซีนปอ้งกันวัณโรค (BCG) วัคซีนอีสกุอีใส (Varicella)

2. วัคซีนที่สร้ำงจำกสำรพษิ ได้แก่ วัคซีนคอตีบ-ไอกรน-บำดทะยัก (DPT)

1. วัคซีนที่สร้ำงจำกเชื อที่ท้ำให้ออ่นแรง ได้แก่ วัคซีนโปลิโอชนิดหยอด (OPV) วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คำงทูม (MMR) วัคซีนปอ้งกันวัณโรค (BCG) วัคซีนอีสกุอีใส (Varicella)

2. วัคซีนที่สร้ำงจำกสำรพษิ ได้แก่ วัคซีนคอตีบ-ไอกรน-บำดทะยัก (DPT)

3. วัคซีนที่สร้ำงจำกเทคโนโลยีชีวภำพ ได้แก่ วัคซีนตับอักเสบบี (HBV) วัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบเจอี (JE vaccine)

Page 49: ระบบน้ำเหลือง

วัคซีน Vs เซรุ่ม เซรุ่ม/ซีรัม (serum)

ของเหลวใสที่สกัดออกมำจำกเลือดสัตว์บำงชนิด ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันโรคที่ฉีดเข้ำสู่ร่ำงกำยของมนุษย์แล้ว ร่ำงกำยสำมำรถน้ำไปใช้รักษำโรคหรือท้ำลำยเชื อโรค

ได้ทันที

ดู Youtube กำรผลิตเซรุ่ม

Page 50: ระบบน้ำเหลือง

1. น้ำพิษงูที่ได้จำก กำรรดีพิษงูที่ผ่ำน กำรตรวจสอบแล้ว มำฉีดเข้ำไปในม้ำ

ขั นตอนกำรผลิตเซรุ่ม

Page 51: ระบบน้ำเหลือง

2. ม้ำจะสร้ำงภูมิคุ้มกันในเลือด จนไดร้ะดับภูมิคุ้มกันที่ต้องกำร

3. เจำะเลือดม้ำ แยกเม็ดเลือดแดงออก เพื่อน้ำกลับคืนเข้ำไป ในม้ำเพือ่ให้ม้ำฟื้นตัวเรว็ขึ น

4. เลือกเฉพำะส่วนที่เป็นพลำสมำมำในกำรผลิตเซรุ่ม

Page 52: ระบบน้ำเหลือง

พลำสมำ ประกอบดว้ย โปรตีนหลำยชนิด เช่น อลับูมิน ไฟบรโินเจน เฉพำะอิมมูโนโกลบูลินเท่ำนั นที่มีฤทธิ์ในกำรท้ำลำยพษิงู หรือ ไวรัส

โรคพิษสุนัขบ้ำ

พลำสมำ ประกอบดว้ย โปรตีนหลำยชนิด เช่น อลับูมิน ไฟบรโินเจน เฉพำะอิมมูโนโกลบูลินเท่ำนั นที่มีฤทธิ์ในกำรท้ำลำยพษิงู หรือ ไวรัส

โรคพิษสุนัขบ้ำ

ดังนั น จึงต้องก้ำจัดโปรตีนอื่นที่ไม่มีฤทธิ์ออกไป เพือ่ลดอำกำรแพ้ที่อำจเกิด

กับผู้ป่วย

Page 53: ระบบน้ำเหลือง

ข้อดีและข้อเสียในกำรฉีดเซรุ่ม

ข้อดี คือ ร่ำงกำยสำมำรถน้ำเซรุ่มไปใชใ้นกำรตำ้นทำนโรคได้อย่ำงทันท่วงที

ข้อเสีย คือ ผู้ที่ได้รับเซรุ่ม อำจเกิดอำกำรแพ้อย่ำงรุนแรงได ้