ปฏิบตัิการ Microsoft Excel ครั �งที�1
2
โปรแกรมทีใชส้าํหรับกรอกขอ้ความ ตวัเลข และรูปภาพ ลงในช่องตารางที เรียกวา่ “เวริ์กชีส”(Worksheet) ซึ งมีจาํนวนแถวและคอลมัน์มากมาย เหมาะกบังานทางดา้นการคาํนวณต่างๆ หรือสร้างกราฟแสดงผล
โปรแกรม Microsoft Excel
กราฟ
กระดาษทาํการ(Worksheet)
3
ประโยชน์ของ Microsoft Excel
1. สามารถคาํนวณข้อมลูในตารางได้อย่างแม่นยาํ 2. สามารถสร้างกราฟแบบต่างๆ ได้3. สามารถตกแต่งตารางข้อมลูด้วยสีสนั และรปูภาพ 4. สามารถเรียงลาํดบัข้อมลูตามตวัอกัษรหรือตวัเลขได้5. มีระบบจดัการข้อมลูแบบอตัโนมตัิหลายอย่าง6. สามารถแปลงข้อมลูเป็นเวบ็เพจ
มีอะไรใน Excel 2010
– Ribbon : ส่วนทีใชต้ิดต่อระหวา่งผูใ้ชก้บัโปรแกรมแบบใหม่
– Table Tools : ช่วยในการจดัรูปแบบเซลลห์รือตารางใหส้วยงามยิงขึ;น
– มีแถวและคอลมัน์มากขึ*น โดยมแีถวทัง้หมด 1,048,576 แถว มีคอลมัน์ 16,384 คอลมัน์ เริมจาก A-Z,AA-AZ,BA-BZ,…..,XFD
– สร้างสูตรซอ้นกนัไดห้ลายชั;น– Chart Tools : เป็นตวัช่วยในการออกแบบ chart
– การแลกเปลียนขอ้มูลร่วมกนัระหวา่งโปรแกรม เช่น Microsoft word, Microsoft powerpoint ไดง้่ายขึ;น
5
1. คลกิปุ่ม Start 1. คลกิปุ่ม Start
2. เลอืกรายการ All Programs
3. คลกิที<โปรแกรม Microsoft Excel3. คลกิที<โปรแกรม Microsoft Excel
การเรียกใช้โปรแกรม Microsoft Excel
ส่วนประกอบของ Microsoft Excelแถบเครืองมือ (Tool bar)
แถบสถานะ (Status bar)
แผน่เอกสาร (Sheet)
ตวัชี*ตาํแหน่งเซลล์ Cell Pointer
แถบสูตร (Formula bar)
แถบเมนู (Menu bar)
แถบชือเรือง (Title bar)
ส่วนประกอบของกระดาษทาํการ (Worksheet)
คอลมัน์(Column)
แถว (Row)
ป้ายชื�อของกระดาษทาํการ (sheet tab)
ตวัชี�ตาํแหน่งเซลล์(Cell Pointer)
เป็นพื�นที�สาํหรบัการทาํงาน เปรียบเสมือนกบักระดาษที�ใช้คิดเลข คาํนวณ และกรอกข้อมลู
8
คอลมัน์ (Column) คอื ช่องข้อมูลที<เรียงอยู่ใน แนวตั*ง มทีั*งหมด 16,384 คอลมัน์
แถว (Row) คอื ช่องข้อมูลที<เรียงอยู่ใน แนวนอน มทีั*งหมด 1,048,576 แถว
ป้ายชื<อของกระดาษทาํการ (sheet tab)
ใช้แสดงชื<อของชีทที<กาํลงัใช้งานอยู่
9
การเลื�อนตวัชี�ตาํแหน่งเซลล์
ตัวชี*ตําแหน่งเซลล์ เลือนตามทิศครั; งละเซลล์
เลือนทีละหนา้จอ
เลือนไปตาํแหน่ง A1
พมิพ์ตําแหน่งในช่องนี*แล้วคลกิปุ่ม OK
10
การกาํหนดช่วงข้อมลู (RANGE)
1. นาํเมาส์คลิกในเซลลแ์รก 2. กดปุ่มเมาส์คา้งไว ้แลว้ลากไปตาํแหน่งเซลลส์ุดทา้ยของช่วง
ทศิทางในการลากเมาส์
ช่วงข้อมูลแนวตั*งช่วงข้อมูลแนวนอน
11
การกาํหนดช่วงข้อมลู (RANGE)
คลกิที<ตวัอกัษรเพื<อเลอืกทั*งคอมลมัน์
คลกิที<ตวัเลขเพื<อเลอืกทั*งแถว
12
ชนิดของข้อมลู
1. ค่าคงที< (Constant) หมายถึง ขอ้มูลทีเราใส่ลงในเซลลโ์ดยตรง โดยอาจเป็นตวัเลข, วนั-เวลา , หรือขอ้ความ โดยขอ้มูลนี;จะไม่เปลียนแปรค่า เวน้เสียแต่วา่เราไดท้าํการแกไ้ขเอง
2. สูตรการคาํนวณ (Formula) หมายถึง นิพจน์ทีอาจเกิดจากค่าคงที ชือเซลล ์ฟังกช์นั หรือเครืองหมายคาํนวณมาประกอบกนัเพือให้เกิดค่าใหม่ ขอ้มูลชนิดนี;จะตอ้งขึ;นตน้ดว้ยเครืองหมาย = เสมอ และค่าของผลลพัธ์จะแปรเปลียนไปตามค่าทีเกียวขอ้ง
13
เติมข้อมลูอตัโนมตัิ
การเตมิข้อมูลอตัโนมตั ิหรือ Auto Fill เป็นความสามารถพเิศษของ Microsoft Excel ในการป้อนข้อมูลที<มักจะใช้บ่อยๆ และเป็นข้อมูลที<ต้องเรียงลาํดบั เช่น เดอืน, วนั, พ.ศ., ตวัเลข
1. ป้อนข้อมูลในเซลล์เริ<มต้น
2. นําเมาส์มาชี*ที<จุดเลก็ๆ มุมล่าง
ด้านขวาของเซลล์
3. ลากเมาส์ จะปรากฏข้อมูลเติมอตัโนมัติ
14
เติมข้อมลูอตัโนมตัิ
ทาํไหมตัวเลขถึงไม่เพิ<มเป็น 2, 3 …
วธิีที 1. ถา้ไม่นาํตวัเลขไปคาํนวณ ใหใ้ส่เครืองหมายเขี;ยวเดียว ( ‘ ) นาํหนา้ตวัเลข
วธิีที 2. พิมพต์วัเลขค่าเริมตน้ในเซลลแ์รก และพิมพ์ตวัเลขค่าทีสองในเซลลถ์ดัไป และทาํแถบสีคลุมทั;งสองเซลล ์จากนั;นจึงทาํการเติมขอ้มูลโดยลากเมาส์จากจุด Auto Fill
15
ตวัอย่างข้อมลู
16
การแก้ไขข้อมลู
กดปุ่ม เพือเขา้สู่โหมดแกไ้ขขอ้มูลโหมดแกไ้ข สงัเกตจากบรรทดันี;
17
การลบข้อมลู
1. เลือกเซลลท์ีตอ้งการลบ
2. กดปุ่ม เพือลบขอ้มูล
มีแถบสีคลุมลกัษณะนี*ถ้ากดปุ่ม
จะหายไปทั*งหมด
18
สตูร (Formula)
� สตูรใน Excel จะเขียนในบรรทดัเดียว
เช่น 24 จะเขียนเป็น 2^4
� มีลาํดบัความสาํคญัของเครื"องหมาย
� ไม่สามารถใส่สญัลกัษณ์ทางคณิตศาสตรท์ี" ซบัซ้อนได้ เช่น √ √ √ √ โดยเราจะใช้ฟังกช์ั "น SQRT
� ขึ1นต้นด้วยเครื"องหมาย =
19
1. เครื�องหมายทางคณิตศาสตร์
2. เครื�องหมายในการเชื�อมข้อความ
3. เครื�องหมายในการเปรียบเทียบ
4. เครื�องหมายในการอ้างอิง
เครื�องหมายในการคาํนวณ
แบง่ออกเป็น 4 ประเภท ดงันี�
20
+ บวก - ลบ
* คูณ / หาร
% เปอร์เซ็นต์ ^ ยกกาํลงั
1. เครื�องหมายทางคณิตศาสตร์
21
1. สมการที�อยู่ในวงเลบ็ ( )
2. เปอรเ์ซน็ต ์และยกกาํลงั % ^
3. คณูและหาร * และ /
4. บวกและลบ + และ –
5. เครื�องหมายเปรียบเทียบ <,<=,>,>=
ลาํดบัในการคาํนวณ
***ถ้าเครื<องหมายลาํดบัเท่ากนั จะทาํจากซ้ายไปขวา***
22
ตวัอย่าง
จงแปลงนิพจน์ทางคณิตศาสตรใ์ห้เป็นสตูรในโปรแกรม Microsoft Excel
1. b2
ab – 2
2. 2x + 3y + 15
= (b ^ 2) / ((a * b) - 2)
= 2 * x + 3 * y + 15
23
& เชื"อมข้อความ
ตวัอย่าง =“Microsoft” & A1
ถ้า A1 เกบ็ค่า “Excel” จะได้ผลลพัธ์เป็น MicrosoftExcel
=“Microsoft” & “ ” & A1จะได้ผลลพัธ์เป็น Microsoft Excel (มชี่องว่างคั<นระหว่าง Microsoft Excel)
2 . เครื�องหมายในการเชื�อมข้อความ
24
= เท่ากบั <> ไม่เท่ากบั
> มากกว่า < น้อยกว่า
>= มากกว่าหรอืเท่ากบั
<= น้อยกว่าหรอืเท่ากบั
3 . เครื�องหมายในการเปรียบเทียบ
25
แบง่ออกเป็น
4.1 : (colon)
4.2 เว้นวรรค
4.3 , (comma)
4 . เครื�องหมายในการอ้างอิง
26
บอกช่วงของข้อมลู
เช่น
A1:A5 หมายถึง เซลล ์A1, A2, A3, A4, A5
A1:B2 หมายถึง เซลล ์A1, A2, B1, B2
4 .1 เครื�องหมาย : (colon)
27
ตวัอย่างที" 1 การคาํนวณโดยใช้เครื"องหมาย :
ผลลพัธท์ี"ได้
28
ผลลพัธท์ี"ได้
ตวัอย่างที" 2 การคาํนวณโดยใช้เครื"องหมาย :
29
เลือกเฉพาะข้อมลูที"ซํ1ากนั (intersection) เช่น A1:B2 B1:B3
A1:B2 หมายถึง เซลล ์A1, A2, B1, B2
B1:B3 หมายถึง เซลล ์ B1, B2, B3
เลือกเฉพาะเซลล ์B1, B2
4 .2 เครื�องหมาย เว้นวรรค
30
ตวัอย่างการคาํนวณโดยการเว้นวรรค
ผลลพัธท์ี"ได้
31
เลือกข้อมลูทั 1งหมด (Union)
เช่น A1,B2 หมายถึง เซลล ์A1 และ B2
A1:A3, B1:B3 หมายถึง เซลล ์A1, A2,A3, B1,B2,B3
4 .3 เครื�องหมาย , (comma)
32
ตวัอย่าง การคาํนวณโดยใช้เครื"องหมาย ,
ผลลพัธท์ี"ได้
33
1. การอ้างอิงแบบสมัพนัธ ์(Relative)
2. การอ้างอิงแบบสมับรูณ์ (Absolute)
การอ้างอิงเซลล์
= A1+A2
34
เป็นการใส่ชื"อของเซลลล์งไปในสตูรเท่านั1น
เช่น = A1+A2 ในการคดัลอกและวางสตูร
แบบสมัพนัธไ์ปไว้ที"เซลลอ์ื"น โปรแกรม
จะแก้ไขตาํแหน่งของเซลลใ์นสตูรให้สอดคล้อง
กบัตาํแหน่งใหม่ที"จดัวาง
1. การอ้างอิงแบบสมัพนัธ์
35
ตวัอย่างการอ้างองิแบบสัมพนัธ์
เมื"อ Copy แล้ว Paste
36
เป็นการอ้างอิงที"ระบตุาํแหน่งเซลลไ์ว้ตายตวั
เมื"อคดัลอกเซลลท์ี"อ้างอิงแบบสมับรูณ์ไป
วางที"เซลลอ์ื"น โปรแกรมจะไม่เปลี"ยนการ
อ้างอิงตาํแหน่งเซลลส์ามารถอ้างอิงได้
ทั 1งแถวและคอลมัน์ โดยพิมพ ์$ นําหน้า
2. การอ้างอิงแบบสมับรูณ์
37
1. การใส่เครื"องหมาย $ ทั 1งหน้าคอลมัน์และแถว เป็นการลอ็คตาํแหน่งของเซลลท์ั 1งคอลมัน์และ แถวไม่ว่าจะคดัลอกสตูรไว้ที"เซลลใ์ด สตูรกจ็ะ ไม่เปลี"ยนแปลงตาํแหน่งของเซลล์
เช่น = $A$1+10
แบง่ออกเป็น 3 แบบดงันี1
รปูแบบการอ้างอิงแบบสมับรูณ์
38
2. การใส่เครื"องหมาย $ หน้าคอลมัน์
เป็นการลอ็กตาํแหน่งของเซลลเ์ฉพาะคอลมัน์
ถ้าคดัลอกสตูรไว้ที"เซลลอ์ื"น ตาํแหน่งของ
เซลลท์ี"ถกูวางจะเปลี"ยนเฉพาะค่าแถว แต่
คอลมัน์จะคงเดิมเช่น = $A1+10
การอ้างอิงแบบสมับรูณ์ (ต่อ)
39
3. การใส่เครื�องหมาย $ หน้าแถวเป็นการลอ็คตาํแหน่งของเซลลเ์ฉพาะแถว ถ้าคดัลอกสตูรไว้ที�เซลลอ์ื�น ตาํแหน่งของเซลล์ที�ถกูวางจะเปลี�ยนเฉพาะค่าคอลมัน์ แต่แถวจะคงเดิม
เช่น = A$1+10
การอ้างอิงแบบสมับรูณ์ (ต่อ)
40
ตวัอย่างการอ้างองิเซลล์แบบสัมบูรณ์
แบบที" 1= $A$1*10
แบบที" 2= $A1*10
แบบที" 3=B$1*10
41
เลือกคาํสังจากแทบ็ Home และ Front
การจดัแต่งข้อมลู
1. เลือนตวัชี;ตาํแหน่งเซลลไ์ปยงัตาํแหน่งเซลลท์ีตอ้งการจดัแต่ง
หากตอ้งการจดัแต่งขอ้มูลความพร้อมๆ กนัหลายเซลล์ใหท้าํการเลือกเซลล ์หรือกาํหนดช่วงขอ้มูลก่อน
2.
42
การจดัแต่งแบบอกัษร
FontFontแบบอกัษร
Font styleลกัษณะของอกัษร
Sizeขนาดของอกัษร
Underlineลกัษณะของใส่เส้นใต้
Colorสีของอกัษร
Effectsลกัษณะพิเศษ เช่นตวัอกัษรขีดทบั, ตวัยก, ตวัหอ้ย
คลิกตรงนี;
43
เส้นขอบ
• เลือกรูปแบบของเสน้ของทีตอ้งการ• สีเส้นขอบ• ลกัษณะเส้นขอบ
44
เส้นขอบลกัษณะกรอบสาํเร็จรูปลกัษณะกรอบสาํเร็จรูป
เลือกการเติมเส้นกรอบเลือกการเติมเส้นกรอบ
เลือกลกัษณะของเส้นกรอบเลือกลกัษณะของเส้นกรอบ
สีของเส้นกรอบสีของเส้นกรอบ
ลบกรอบ, เติมรอบนอก, เติมระหวา่งเซลล์
คลิกเลือกลกัษณะและสีของเส้นจากนั;นจึงคลิกในรูป ตรงตาํแหน่งทีจะใหป้รากฏเป็นกรอบ คลิกซํ; าเพือยกเลิกการเติมกรอบได้
ตรง Borders เลือก More Borders
45
การจดัข้อมลูอยู่กึ�งกลางช่วง
1
2
ป้อนข้อมลูในเซลลแ์รก
เลือกเซลลท์ั �งหมดในช่วง A1:E1
เลือกแทบ็ Home (หน้าแรก)> คลิกปุ่ ม
3
46
การคาํนวณใน Microsoft Excel
1. การคาํนวณโดยใช้สตูร (Formula)
2. การคาํนวณโดยใช้ฟังกช์ั "น(Function)
47
การคาํนวณโดยใช้สตูร
สตูร เกิดจากการนําเครื�องหมายทางคณิตศาสตร ์
ค่าตวัเลข ตาํแหน่งของเซลลท์ี�เกบ็ข้อมลู มารวมกนั
แล้วเกิดค่าขึ�นใหม่ โดยสตูรจะอยู่ในรปูสมการ
เช่น = 7+3= A1+A2
48
ฟังกช์ั �น คือ สตูรสาํเรจ็รปูที�โปรแกรม
Microsoft Excel สร้างไว้ใช้สาํหรบัการคาํนวณ
เพื�อช่วยให้ผูใ้ช้ทาํงานได้สะดวกและรวดเรว็
การคาํนวณโดยใช้ฟังกช์ั �น
49
โครงสรา้งของฟังกช์ั �น
ฟังกช์ั �นมีส่วนประกอบ 3 ส่วน คือ
1. ชื�อของฟังกช์ั �น เช่น SUM, AVERAGE, SQRT
2. วงเลบ็ ( ) ในทกุฟังกช์ั �นต้องมีวงเลบ็ต่อท้าย
เช่น SUM ( ), AVERAGE( ), SQRT( )
50
3. อารก์ิวเมนต ์ คือ ส่วนของข้อมลูที�ฟังกช์ั �นจะนําไปใช้ในการประมวลผล แต่ละฟังกช์ั �นจะต้องการอารก์ิวเมนตท์ี�แตกต่างกนั เช่น SUM(A1:A20) , ROUND(A1,0)
โครงสรา้งของฟังกช์ั �น (ต่อ)
51
1. พิมพฟ์ังกช์ันดว้ยตนเอง
2. เรียกใชจ้าก Formula Bar
3. เรียกใชจ้ากแทบ็ สูตร
การเรียกใช้งานฟังกช์ั �น
=max(A1:A5)
52
NOW() = ค่าวนัและเวลาปัจจบุนั
TODAY() = ให้ค่าวนัที�ปัจจบุนั
ฟังกช์ั �นเกี�ยวกบัวนัและเวลา
53
SUM () = หาผลรวมของตวัเลขทั �งหมดSUMIF() = หาผลรวมของค่าที�ตรงกบัเงื�อนไขMOD () = เกบ็เศษที�เหลือจากการหารPOWER() = ให้ค่าผลลพัธข์องตวัเลขยกกาํลงัROUND() = ปัดค่าของตวัเลขขึ�นให้มีหลกั
ทศนิยมตามกาํหนดINT() = ปัดค่าตวัเลขให้เป็นจาํนวนเตม็
ฟังกช์ั �นทางคณิตศาสตร ์
54
ฟังกช์ั �นทางสถิติ
AVERAGE() = หาค่าเฉลี�ยของตวัเลขในช่วงที�กาํหนด
COUNT() = นับจาํนวนของเซลล์COUNTIF() = นับจาํนวนเซลลท์ี�มีข้อมลูตรงกบั
เงื�อนไขMAX() = หาค่าสงูสดุของข้อมลูในช่วงที�กาํหนดMIN() = หาค่าตํ�าสดุของข้อมลูในช่วงที�กาํหนด
55
ตวัอย่างการใช้ฟังกช์ั �น
56
ฟังกช์ั �น NOW
ใช้หาค่าวนัและเวลาปัจจบุนัรปูแบบ
NOW()ตวัอย่าง
=NOW()ผลลพัธ์
21/9/2010 17:01
57
ฟังกช์ั �น TODAY
ใช้หาค่าวนัปัจจบุนัรปูแบบ
TODAY()ตวัอย่าง
=today()=TODAY()
ผลลพัธ์21/9/2010
58
ฟังกช์ั �น SUM
ใช้หาผลรวมของตวัเลขทั �งหมดรปูแบบ
SUM(number1,number2,….. )ตวัอย่าง
=SUM(A1:A5)=SUM(B1,B2)=SUM(A1,A3,A5)
59
ฟังกช์ั �น MAX
ใช้หาค่าสงูสดุของข้อมลูตวัเลขที�กาํหนดรปูแบบ
MAX(number1,number2,….. )ตวัอย่าง
=MAX(A1:A5)=MAX(B1,B2)=MAX(A1,A3,A5)
60
ฟังกช์ั �น MIN
ใช้หาค่าตํ�าสดุของข้อมลูตวัเลขที�กาํหนดรปูแบบ
MIN(number1,number2,….. )ตวัอย่าง
=MIN(A1:A5) =MIN(B1,B2)=MIN(A1,A3,A5)
61
ฟังกช์ั �น AVERAGE
ใช้หาค่าเฉลี�ยของข้อมลูตวัเลขที�กาํหนดรปูแบบ
AVERAGE(number1,number2,….. )ตวัอย่าง
=AVERAGE(A1:A5) =AVERAGE(A1,A3,A5)
62
ฟังกช์ั �น BAHTTEXT
ใช้เขียนคาํอ่านของตวัเลขที�กาํหนดโดยมีคาํว่าถ้วนต่อท้ายด้วยรปูแบบ
BAHTTEXT(number1)ตวัอย่าง
=BATHTEXT(593) =BAHTTEXT(A5)
63
1. นําเมาสค์ลิกที� cell ตรงแถว หรือคอลมัน์ที�ต้องการแทรก
2. เลือก Insert ใน Home tab และเลือก Insert Sheet Rows/Columns จะได้ แถวเพิ�มข้างบนหรือคอลมัน์ก่อนหน้า
แทรก (Insert) แถว/คอลมัน์
64
1. นําเมาสค์ลิกที� cell ตรงแถว หรือคอลมัน์ที�ต้องการลบ
2. เลือก Delete ใน Home tab และเลือก Delete Sheet Rows/Columns จะลบ แถวหรือคอลมัน์ ที� cell pointer ชี�อยู่
ลบ (Delete) แถว/คอลมัน์
65
1. นําเมาสค์ลิกที� sheet tab อนัหลงัสดุ (อยู่ด้านล่างซ้าย)จะได้ Sheet ใหม่แทรกหลงั Sheet3
2. กดปุ่ ม Shift และปุ่ ม F11 พร้อมกนั จะได้ sheet ใหม่แทรกก่อนหน้า Sheet1
แทรก (Insert) Sheet 3 วิธี
หรือ
66
1. นําเมาสค์ลิกที� sheet tab ตรงที�ต้องการแทรก
2. เลือก Insert ใน Home tab และเลือก Insert Sheet จะได้ sheet ใหม่ แทรกอยู่ก่อนหน้า sheet เดิม
แทรก (Insert) Sheet วิธีที� 3
หรือ
67
1. นําเมาสค์ลิกที� Sheet tab ที�ต้องการลบ
2. เลือก Delete ใน Home tab และเลือก Delete Sheet จะลบ sheet ที�เลือกไว้
ลบ (Delete) Sheet
68
1. นําเมาสไ์ปวางที� Sheet tab ที�ต้องการเปลี�ยนชื�อแล้วคลิกขวา
2. เลือก Rename แล้ว sheet tab นั�นจะเป็นสีดาํกส็ามารถเปลี�ยนเป็นชื�อที�ต้องการได้
การเปลี�ยนชื�อของ Sheet tab
69
1. นําเมาสไ์ปวางที� Sheet tab ที�ต้องการเปลี�ยนสีแล้วคลิกขวา
2. เลือก Tab Color และเลือกสีที�ต้องการ
การเปลี�ยนสีของ Sheet tab
70
1.
2.
การ link ไปยงั Sheet อื�น
เลือก Place in this document แล้วเลือก sheet ที�ต้องการ link ไป
กาํหนดข้อความที�ต้องการ link
เลือก Insert tab ���� Hyperlink
3.
ASSIGNMENT
• Download ไดท้ี ftp://172.25.1.5/sectionxx/disk1/Lab6-Instructions.pdf
เมือ xx เป็นหมายเลข section เช่น 03 เป็นตน้