Download - พลเรือโท รองศาสตราจารย์พิเศษ ...aaf.rtarf.mi.th/doc/jakdow_57/2-57.pdf · 2015-04-03 · พลเรือเอก พระ
3๘ เกียรติยศจักรดาว ๒๕๕๗
พลเรือโท รองศาสตราจารย์พิเศษ พงศ์สรร ถวิลประวัติ
รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว ประจ�าปี ๒๕๕๗สำขำวิจัยและพัฒนำ
นักเรียนเตรียมทหาร รุ่น ๑๒ เลขประจ�าตัว ๓๗๔๙
ประวัติ พลเรือโท รองศาสตราจารย์พิเศษพงศ์สรร
ถวิลประวัติ
เกิดเมื่อวันที่๔สิงหาคมพ.ศ.๒๔๙๕
เป็นบุตรของ นายฤกษ์ ถวิลประวัติ และ
นางสมศรี ถวิลประวัติ และสมรสกับนางเมธนี
ถวิลประวัติ ( ถึงแก ่กรรม) มีบุตร๑คน คือ
นายธิติสรรถวิลประวัติ
เมื่อส�าเร็จการศึกษาจากโรงเรียนอ�านวยศิลป์ พระนคร ได้สอบเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร
เมื่อปีพ.ศ.๒๕๑๒และเลือกเหล่าเป็นนักเรียนนายเรือรุ่นที่๖๙เตรียมทหารรุ่นที่๑๒
ต�าแหน่งส�าคัญ
เมื่อส�าเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือในปีพ.ศ.๒๕๑๙ได้เข้ารับราชการกองทัพเรือในต�าแหน่ง
นายช่างกลเรือหลวงวิทยาคมกองเรือยุทธการ(ก�าลังพลรับเรือณประเทศอิตาลี)และได้เลื่อนต�าแหน่ง
เป็นต้นกลเรอืหลวงวทิยาคมจากนัน้ได้เดินทางไปศกึษาต่อในระดบัปรญิญาโทและเอกสาขาวิศวกรรมต่อเรอื
และเครื่องกลเรือ (Naval Architecture and Marine Engineering) ภายหลังจากส�าเร็จการศึกษา
ได้รับต�าแหน่งเป็นรองผู้อ�านวยการกองออกแบบต่อเรือ และผู้อ�านวยการออกแบบต่อเรือ กรมอู่ทหารเรือ
ตามล�าดับในปี๒๕๔3ได้ไปช่วยราชการในการก่อตั้งสาขาวิศวกรรมต่อเรือและเครื่องกลเรือมหาวิทยาลัย
เกษตรศาสตร์และด�ารงต�าแหน่งหวัหน้าสาขาวศิวกรรมต่อเรอืและเครือ่งกลเรอืมหาวทิยาลยัเกษตรศาสตร์
วทิยาเขตศรรีาชา(กองทพัเรอืส่งช่วยราชการ)เป็นเวลา3ปีจงึกลบัเข้ารบัราชการในกองทพัเรอืในต�าแหน่ง
รองเจ้ากรมแผนการช่าง เจ้ากรมพัฒนาการช่าง ผู้อ�านวยการอู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ
และต�าแหน่งสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ คือ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ ภายหลังเกษียณอายุ
ราชการได้ไปช่วยงานบริหารด้านการศึกษาและเป็นอาจารย์พิเศษให้แก่วิทยาลัยพาณิชยนาวีนานาชาติ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา
ในต�าแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิจนถึงปัจจุบัน
ความประทับใจในช่วงการศึกษาและการท�างาน ช่วงการศึกษา “ทางไปสู่เกียรติศักดิ์ จักประดับดอกไม้
หอมยวลชวนจิตไซร้ บ่มี’’ จากเด็กชายที่เติบโต
อยู ่ในจังหวัดชุมพร ในครอบครัวที่ไม่เคยมีใคร
รับราชการทหารมาก่อน แต่ด้วยพระนามของ
พลเรอืเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาภากร
เกยีรติวงศ์กรมหลวงชมุพรเขตอดุมศกัดิ์ซึง่เป็นองค์บดิาของทหารเรอืไทยประกอบกบัเมือ่ได้ยนิเรือ่งราวต่างๆ
ตลอดจนพระกรุณาธิคุณของพระองค์ท่านบ่อยครั้ง จนซึมทราบเข้าไปอยู่ในจิตใจ และจากความเคารพ
เทิดทูน ความศรัทธาที่มี ท�าให้พลเรือโท รองศาสตราจารย์พิเศษพงศ์สรร ถวิลประวัติ ตั้งปณิธานไว้ว่า
จะต้องเป็นลูกหลานของพระองค์ให้จงได้
เกียรติยศจักรดาว ๒๕๕๗ 3๙
หลังจากที่จบการศึกษาจากโรงเรียนศรียาภัย จังหวัดชุมพร จึงได้มาสมัครสอบเข้าโรงเรียน
เตรียมทหารโดยหวังว่าจะเลือกเข้ารับการศึกษาต่อที่โรงเรียนนายเรือในล�าดับต่อไปแต่ในการสอบครั้งนั้น
ไม่เป็นดั่งที่ต้ังใจไว้ คือไม่ผ่านการสอบสัมภาษณ์ เนื่องจากไม่คุ ้นเคยกับการสัมภาษณ์ในแบบทหาร
อย่างไรก็ตาม ด้วยความพยายามที่มีอยู่อย่างท่วมท้น จึงได้สมัครสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารอีกครั้ง
ในปีถดัมาและการสอบครัง้น้ีกป็ระสบความส�าเรจ็โดยได้เข้ารับการศกึษาเป็นนกัเรยีนเตรยีมทหารรุน่ที่๑๒
ช่วงของการเปลี่ยนแปลงจากชีวิตพลเรือน
ธรรมดามาสูช่วิีตของการเป็นทหารนบัเป็นช่วงชวิีต
ที่ยากล�าบากช่วงหนึ่ง ซึ่งต้องมีการปรับตัว ฝึกฝน
ร่างกายอย่างต่อเนื่องให้สามารถรองรับการฝึกได้
หลากหลายรูปแบบ ต้องประพฤติปฏิบัติตนให้อยู ่
ในระเบียบวินัย และที่ส�าคัญก็คือ ได้ปลูกฝังให้
ทุกคน เคารพและเทิดทูน สถาบันชาติ ศาสนา
และพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีการปฏิญาณกันทุกวัน
ในช่วงการเข้าแถวตอนเช้า ในส่วนภาควิชาการนั้น
มีการเรียนการสอนทั้งวิชาในระดับมัธยมศึกษา
ตอนปลายและวชิาทหารคณะอาจารย์มปีระสบการณ์
ในการสอนอย่างมากเมื่อเทียบกับโรงเรียนในต่างจังหวัดที่เคยเรียนมา โรงเรียนเตรียมทหารนับว่าเป็น
โรงเรยีนทีม่กีารปพูืน้ฐานทางด้านการศกึษาท่ีดีมากโรงเรยีนหนึง่ท�าให้ค้นพบว่าตนเองชอบเรยีนวิทยาศาสตร์
โดยเฉพาะวิชาฟิสิกส์และกลศาสตร์อันเป็นพื้นฐานที่ส�าคัญในการเรียนสาขาวิศวกรรมศาสตร์ในอนาคต
จากโรง เรี ยนเตรี ยมทหาร พลเรือ โท
รองศาสตราจารย์พิเศษ พงศ์สรรฯ ได้เลือกเข้า
ศึกษาที่โรงเรียนนายเรือตามที่ได้ต้ังใจไว้ และ
เป็นนักเรียนนายเรือรุ่น๖๙ในช่วงปีที่๑ถึงปีที่3
ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องเรียนในทุกสาขาวิชา ผลการเรียน
อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนในปีที่ ๔ และปีที่ ๕
จงึเลอืกท่ีจะเป็นพรรคกลนิท�าให้ผลการเรยีนเริม่ดขีึน้
เนื่องจากวิชาที่ เรียนส่วนมากหนักไปทางด้าน
วิศวกรรมศาสตร์ซึ่งเป็นสาขาวิชาที่มีความชอบเป็น
ทนุเดมิอยูแ่ล้วท�าให้พลเรอืโทรองศาสตราจารย์พิเศษ
พงศ ์สรรฯ รู ้จักกับวิชาวิศวกรรมต ่อเรือและ
เครื่องกลเรือ (Naval Architecture andMarine
Engineering) ซ่ึงในขณะน้ัน มีการเรียนการสอน
อยู่ที่โรงเรียนนายเรือเป็นแห่งแรกและแห่งเดียว
ในประเทศไทย
ระยะเวลา ๕ ปี ที่ได้ร�่าเรียนอยู่ในโรงเรียน
นายเรือ ท่ีมีทั้งการเรียนในด้านวิชาการ และ
๔๐ เกียรติยศจักรดาว ๒๕๕๗
การฝึกภาคทะเลอันแสนหฤโหด น�ามาซึ่งความประทับใจอย่างมิรู ้ลืม จากแหล่งผลิตนายทหารเรือ
หลักของกองทัพเรือแห่งนี้ ได้สอนให้รู้จักความสามัคคีและการท�างานเป็นทีม ซึ่งท�าให้เชื่อได้ว่าสิ่งเหล่านี ้
ได้รับการสั่งสมอยู ่ในทหารเรือทุกนายมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในอดีต ดังปรากฏอยู ่ในส่วนหนึ่งของ
บทเพลงพระนิพนธ์ในพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักด์ิ ว่า “...วันไหนวันดี
บานคลี่พร้อมอยู่ วันไหนร่วงโรยดอกโปรยตกพรู ทหารเรือเราจงดู ตายเป็นหมู่เพื่อชาติไทย...’’
หลงัจากส�าเรจ็การศกึษาจากโรงเรยีนนายเรอื
และเข ้ารับราชการในกองทัพเรือได้ระยะหนึ่ง
จากนั้นจึงได้สอบชิงทุนของกองทัพเรือไปศึกษาต่อ
ในระดับปริญญาโทและเอกท่ีประเทศสหรัฐอเมริกา
และประเทศแคนาดาตามล�าดับซึ่งการได้ศึกษาต่อ
ในต่างประเทศ ท�าให้ต ้องปรับตัวหลายอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นทางด้านภาษา วัฒนธรรม ตลอดจน
ความกดดันในการเรียน อาจารย์ในต่างประเทศ
จะไม่กวดขันนักเรียนเหมือนในบ้านเรา หากสอบ
ไม่ผ่านก็คือ ไม่ผ่าน จึงจ�าเป็นต้องกวดขันตัวเอง
และต้องระลึกอยู ่เสมอว่า มาเรียนด้วยทุนของ
กองทัพเรือ ต้องพยายามท�าให้ส�าเร็จ เพื่อกลับมา
รับใช้กองทัพเรือและประเทศชาติต่อไป
ช่วงการท�างาน เมื่อส�าเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือ
ได้มีโอกาสไปเป็นก�าลังพลรับเรือชุด เรือหลวง
ราชฤทธิ์ ณ ประเทศอิตาลี ได้เห็นความก้าวหน้า
ของเทคโนโลยี ในด ้านวิศวกรรมหลายแขนง
โดยเฉพาะด้านการต่อเรือ ท�าให้รู ้สึกว่า ตนเอง
จ�าเป ็นที่จะต ้องขวนขวายหาความรู ้ เ พ่ิมเติม
เพราะเวลาพูดคุยหรือมีการประชุมกับชาวต่างชาติ
ความรู้ท่ีได้รับมาในระดับปริญญาตรียังไม่เพียงพอ
โดยเฉพาะด้านวิศวกรรม ประกอบกับเทคโนโลย ี
ในด้านต่างๆ ทีม่คีวามก้าวหน้าไปอย่างรวดเรว็หาก
ไม่ติดตามหรือหาความรู้เพิ่มเติมก็เสมือนว่าตัวเรา
ได้ถอยหลังให้กับความก้าวหน้าเหล่านั้น แรงจูงใจ
ท่ีท�าให้มีความต้องการที่จะไปศึกษาต่อเพิ่มเติม
จึงเกิดขึ้นมาจากการไปเป็นก�าลังพลรับเรือชุดนี้
เกียรติยศจักรดาว ๒๕๕๗ ๔๑
พลเรอืโทรองศาสตราจารย์พเิศษพงศ์สรรฯได้ใช้เวลาศกึษาระดบัปรญิญาโทสาขาวิศวกรรมต่อเรอื
และเครื่องกลเรือณประเทศสหรัฐอเมริกาประมาณ๒ปีจากนั้นจึงย้ายไปศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก
ณประเทศแคนาดาอกีประมาณ๔ปีจงึได้กลบัมารบัราชการในกองทพัเรอืโดยได้รับการบรรจเุข้ารบัราชการ
ทีก่องออกแบบต่อเรอืกรมแผนการช่างกรมอูท่หารเรอืและงานแรกทีไ่ด้รบัมอบหมายคอืเป็นอนกุรรมการ
ด้านตัวเรอืในการจัดหาเรอืหลวงจกัรนีฤเบศร์เรอืล�านีน้อกจากจะเป็นเรอืทีม่ขีนาดใหญ่แล้วความสลบัซบัซ้อน
ทางด้านเทคนิคนั้นจึงยิ่งมีมากขึ้นตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การท�างานในด้านนี้จึงต้องใช้ความ
วิริยะอุตสาหะเป็นอย่างมากและต้องยอมรับว่า ถึงแม้จะเรียนมาสูง แต่ความรู้ที่มีนั้นก็ยังไม่สามารถ
ครอบคลุมเน้ือหาทั้งหมดได้ จ�าเป็นต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา โดยศึกษาหาความรู้
ด้วยตนเองบ้างได้รบัความรูจ้ากผูบ้งัคับบญัชาบ้างและจากการทีไ่ด้ท�างานไปขวนขวายหาความรูไ้ปท�าให้
ต้องนึกถึงค�ากล่าวที่เป็นจริงตลอดกาลที่ว่า“ความรู้เรียนกันไม่มีวันจบสิ้น”
งานต่อมาซึง่ได้รับมอบหมายในขณะปฏบัิติงานอยูท่ีก่รมอูท่หารเรอืคอืการสร้างเรอืพระทีน่ัง่นารายณ์
ทรงสุบรรณรัชกาลที่ ๙ พลเรือโท รองศาสตราจารย์พิเศษ พงศ์สรรฯ และผู้ร่วมงานในกรมอู่ทหารเรือ
รับผิดชอบในการออกแบบตัวเรือและการสร้างทั้งหมด ส่วนลวดลายประดับต่างๆ กรมศิลปากร
เป็นผู้รับผิดชอบ เรือล�านี้สร้างด้วยไม้แบบโบราณแตกต่างจากที่ร�า่เรียนมาต้องศึกษาเพิ่มเติมจากหนังสือ
และสอบถามจากผู้มีประสบการณ์ด้านการต่อเรือไม้ ซึ่งค่อนข้างหายากในปัจจุบัน ในการประกอบพิธี
วางกระดูกงูเรือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชด�าเนินมาทรงประกอบพิธี และท่านได้มี
โอกาสท�าหน้าทีถ่วายค�าบรรยายด้านการต่อเรอืซึง่พระองค์ได้มพีระราชด�ารสัแนะน�าสิง่ทีเ่ป็นประโยชน์ในการ
๔๒ เกียรติยศจักรดาว ๒๕๕๗
ต่อเรอืเช่นการทรงตวัของเรอื(Stability)การลามเินต
(Laminate)ไม้การหาก�าลงัของเรอื(ShipPowering)
อันแสดงถึงพระปรีชาสามารถในด้านการต่อเรือ
ที่สูงยิ่งและเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ตัวพลเรือโท
รองศาสตราจารย์พิเศษพงศ์สรรฯและกองทัพเรือ
อย่างหาที่สุดมิได้
จากนั้นกรมอู ่ทหารเรือมีงานสร ้างเรือ
อีกหลายล�า อาทิ เรือลากจูง เรือตรวจการณ์ปืน
ชุดเรือหลวงหัวหิน ซึ่งออกแบบโดยบุคลากรของ
กรมอู่ทหารเรือเอง โดยใช้เรือตรวจการณ์ปืนชุด
เรือหลวงชลบุรีมาเป็นต้นแบบ(ParentShip)และ
เรือตามโครงการพระราชด�าริ คือ เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุด เรือ ต.๙๙๑ ซึ่งเป็นเรือที่พระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชวินิจฉัยแนะน�าเก่ียวกับการออกแบบ การสร้างเรือตามที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้
พลเรือโท รองศาสตราจารย์พิเศษ พงศ์สรรฯ ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบร่วมกับคณะกรรมการ
ท่ีกรมอู ่ทหารเรือแต่งตั้งขึ้น โดยได ้ใช ้ความรู ้
ทั้งที่ได้ร�า่เรียนมาและทั้งที่ศึกษาเพิ่มเติมออกแบบ
เรือให้เป็นไปตามหลักวิชาการที่ถูกต้อง อย่างเต็ม
ก�าลังความสามารถ
เรือล�าสุดท้ายที่ได้ควบคุมการสร้าง คือ
เรือหลวงกระบ่ี ซ่ึงเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู ่หัว เน่ืองในโอกาส
พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา
๗รอบ๕ธันวาคมพ.ศ.๒๕๕๔โดยทางกองทัพเรือ
ได้มอบหมายให้พลเรือโท รองศาสตราจารย์พิเศษ
พงศ ์สรรฯ ไปด�ารงต�าแหน ่ง ผู ้อ�านวยการอู ่
ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู ่ทหารเรือ เพื่อ
เตรียมความพร ้อมและด�า เนินการสร ้างเรือ
เน่ืองจากเรือล�าน้ีมรีะวางขบัน�า้๑,๙๐๐ตันเป็นเรอื
ขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับเรือล�าอื่นที่กองทัพเรือ
เคยสร้างมา ต้องใช้แรงงานและส่ิงอ�านวยความ
สะดวกจ�านวนมาก การบริหารจัดการต้องเป็นไป
อย่างมีประสิทธิภาพ จ�าเป็นต้องมีความร่วมมือ
ระหว่างกองทพัเรอืและภาคเอกชนท่านควบคุมการ
สร้างเรือล�าน้ีอยู ่ประมาณ ๒ ปี เนื่องจากเป็น
การสร้างเรือขนาดใหญ่ล�าแรก ได้พบกับปัญหา
อุปสรรคมากพอสมควร จนกระทั่ งสามารถ
เกียรติยศจักรดาว ๒๕๕๗ ๔3
ประกอบพิธีปล่อยเรือลงน�้าได้ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารได้เสด็จพระราชด�าเนินมาทรงประกอบพิธ ี
เมือ่วนัที่๒ธนัวาคมพ.ศ.๒๕๕๔ต่อมาท่านได้รบัพระบรมราชโองการ
โปรดเกล้าฯ เป็นพลเรือโทต�าแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ
แต่ก็ยังมาช่วยราชการอยู ่ที่อู ่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดชกรมอู่ทหารเรือ โดยได้ช่วยให้ค�าปรึกษาและ
ติดตามความก้าวหน้าจนกระทั่งเกษียณอายุราชการ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ส่วนการด�าเนินโครงการนั้นได ้
ด�าเนินต่อไปจนเสร็จสิ้น พร้อมกับได้ส่งมอบเรือหลวงกระบี่ให้แก่กองทัพเรือ เมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม
พ.ศ.๒๕๕๖
เม่ือประมาณปี พ.ศ. ๒๕๔๐ มหาวิทยาลัย
เกษตรศาสตร์ได้ก่อตั้งวิทยาเขตศรีราชาขึ้น เพ่ือ
สนับสนุนโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั ่งทะเลด้าน
ตะวันออกและกิจการพาณิชย์นาวีของประเทศ
พร้อมกับได้ประสานมายังกองทัพเรือเพื่อขอรับ
การสนับสนุนบคุลากรผูม้ปีระสบการณ์ทีเ่กีย่วข้องกบั
กิจการพาณิชย์นาวีซึ่งทางกองทัพเรือได้มอบหมาย
ให้พลเรือโท รองศาสตราจารย์พิเศษ พงศ์สรรฯ
เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการและได้ร่วมในการจัดท�า
หลกัสตูรสาขาวชิาวศิวกรรมต่อเรอืและเครือ่งกลเรอื
เพื่อสนับสนุนกิจการพาณิชย ์นาวี ต่อมาในปี
พ.ศ. ๒๕๔3 ทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ขออนุญาต
กองทพัเรอืให้ท่านไปช่วยราชการท่ีมหาวทิยาลยัฯเป็นเวลา3ปีในต�าแหน่งหวัหน้าสาขาวชิาวศิวกรรมต่อเรอื
และเครื่องกลเรือ ท่านได้ช่วยมหาวิทยาลัยฯ พัฒนาและบุกเบิกงานในสาขาวิชานี้ โดยใช้ประสบการณ ์
ที่ได้รับการศึกษามาจากต่างประเทศและณปัจจุบันเป็นเวลา๑3ปีที่สาขาวิชาดังกล่าวได้รับการพัฒนา
จนมีความก้าวหน้าเป็นที่ยอมรับและมีผู้ที่ส�าเร็จการศึกษาประกอบอาชีพอยู่ในวงการอุตสาหกรรมการต่อ
เรือและซ่อมเรือเป็นจ�านวนมาก
๔๔ เกียรติยศจักรดาว ๒๕๕๗
ด้านงานวิจัย
มีแรงจูงใจในระหว ่างที่ด� ารงต�าแหน ่ง
ผู้อ�านวยการกองออกแบบต่อเรือ กรมแผนการช่าง
กรมอูท่หารเรอืซึง่ในขณะนัน้กองทพัเรอืมนีโยบาย
ทีจ่ะจดัหาเรอืด�าน�า้พลเรอืโทรองศาสตราจารย์พเิศษ
พงศ์สรรฯ ได้ร ่วมเป็นคณะกรรมการ และได้
มี โอกาสดูงานในหลายประเทศ และพบว ่า
ในระบบตัวเรือ (Platform) ของเรือด�าน�้าเป็น
เทคโนโลยีที่ไม่สูงนัก ในส่วนท่ียากก็คือ ระบบ
ท่ีท�าให้เรือมีความเงียบ (Silence) ระบบอาวุธ
และระบบสือ่สารประกอบกบัในต่างประเทศได้มกีารสร้างเรอืด�าน�า้ขนาดเลก็ที่มิใช่เรอืด�าน�า้ทางการทหาร
แต่เป็นเรือด�าน�้าท่ีใช้ในกิจการด้านอื่นๆ กันอย่างแพร่หลาย จากข้อมูลต่างๆ เหล่าน้ี ท�าให้พลเรือโท
รองศาสตราจารย์พิเศษ พงศ์สรรฯ คิดที่จะท�างานวิจัยสร้างยานใต้น�้าขนาดเล็ก โดยท�าร่วมกับบุคลากร
ที่มีความรู้ท้ังภายในและภายนอกกองทัพ และได้จัดตั้งทีมวิจัยข้ึนมาโดยขอรับการสนับสนุนงบประมาณ
จาก กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม (วท.กห.) และส�านักงานวิจัยเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
ความยากของงานวิจัยคือการสร้างให้ตรงกับแบบที่ออกมาจากพื้นฐานการท�างานของยานใต้น�้า ท�าให ้
ต้องมีการท�างานแบบซ�้าไปซ�้ามา เนื่องจากการออกแบบต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากลปัจจุบันได้มีการ
ทดสอบและพร้อมท่ีจะส่งให้หน่วยท่ีจะน�าไปใช้งานต่อไปซึง่จากผลงานชิน้นี้พลเรอืโทรองศาสตราจารย์พเิศษ
พงศ์สรรฯ ได้รับรางวัลสาขาสิ่งประดิษฐ์ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๖ จากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย
ในพระบรมราชูปถัมภ์
สิง่ทีไ่ด้กล่าวมาทัง้หมดคอืความภมูใิจและเป็นประสบการณ์ประทบัใจทีพ่ลเรอืโทรองศาสตราจารย์พเิศษ
พงศ์สรรฯได้รับ หลังจากที่ได้รับการหล่อหลอมมาจากโรงเรียนเตรียมทหาร จากเด็กชายพลเรือน
มาเป็นนักการทหารและนักวิชาการในคราวเดียวกัน ขอขอบพระคุณครูอาจารย์ ผู ้บังคับบัญชาและ
ผู้ใต้บังคับบัญชา ตลอดจนเพ่ือนร่วมงานทุกท่าน ท่ีสนับสนุนและให้โอกาสผมได้เจริญก้าวหน้าจนถึง
ทุกวันนี้
เกียรติยศจักรดาว ๒๕๕๗ ๔๕