ฟลักซ์แม่เหลก็(magnetic...
TRANSCRIPT
![Page 1: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/1.jpg)
บท5 : การเหน่ียวน าไฟฟ้า และวงจรไฟฟ้ากระแสสลบั
ฟลกัซแ์ม่เหลก็ (Magnetic flux)
Φ𝐵 = 𝐵. Ԧ𝐴 = 𝐵𝐴 𝑐𝑜𝑠𝜃
= <T> <m2> = <Wb>
Ԧ𝐴 = 𝐴 መ𝐴 โดย መ𝐴 มีทิศตั้งฉากกับ ระนาบของพื้นที่ และมีทิศพุ่งออกจากผิวที่เราพิจารณาเสมอ เป็นคา่มมุระหวา่ง สนามแมเ่หลก็ 𝐵 กบั መ𝐴
A
A
1บทที่ 5 : 2/2560
![Page 2: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/2.jpg)
2
AB
0A
B
Aa
B
ตวัอยา่ง 5.1 การหาฟลกัซแ์มเ่หลก็Φ𝐵
บท5 : ฟลกัซแ์ม่เหลก็
AB
บทที่ 5 : 2/2560
![Page 3: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/3.jpg)
3
บท5 :แรงเคล่ือนไฟฟ้าเหน่ียวน า (Induced emf)
กฎของ Faraday ก าหนดความสมัพนัธ์ ของแรงเคลือ่นไฟฟ้าเหนี่ยวน า ε และฟลกัซแ์มเ่หลก็Φ𝐵 วา่
ε = −𝑁𝑑Φ𝐵
𝑑𝑡
เครื่องหมาย “-“ แสดงวา่ แรงเคลื่อนไฟฟ้าเหน่ียวน า ε จะเกดิในทศิทางทีต่า้นการเปลีย่นแปลงของฟลกัซแ์มเ่หลก็Φ𝐵
𝑑Φ𝐵
𝑑𝑡=
𝑑 (𝐵𝐴 𝑐𝑜𝑠𝜃)
𝑑𝑡
Φ𝐵 = 𝐵. Ԧ𝐴 = 𝐵𝐴 𝑐𝑜𝑠𝜃
𝑑Φ𝐵
𝑑𝑡= 𝐴 𝑐𝑜𝑠𝜃
𝑑 𝐵
𝑑𝑡+ 𝐵 𝑐𝑜𝑠𝜃
𝑑 𝐴
𝑑𝑡+ 𝐵𝐴
𝑑 cos 𝜃
𝑑𝑡
แรงเคลือ่นไฟฟ้าเหนี่ยวน า ε จะสามารถเขยีนไดใ้หมว่า่ε = −𝑁 𝐴 𝑐𝑜𝑠𝜃
𝑑 𝐵
𝑑𝑡+ 𝐵 𝑐𝑜𝑠𝜃
𝑑 𝐴
𝑑𝑡− 𝐵𝐴 sin 𝜃
𝑑𝜃
𝑑𝑡บทที่ 5 : 2/2560
![Page 4: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/4.jpg)
4
ทิศทางของกระแสไฟฟ้าเหน่ียวน า
S
N
X
Y
Z v
S
N
X
Y
Z v
ตวัอยา่ง 5.2 เคลือ่นแทง่แมเ่หลก็วางตวัอยูใ่นแนวแกน Z โดยขดลวดวางอยูบ่นระนาบ XY ดงัรปูพจิารณาการเปลีย่นแปลงของฟลกัซแ์มเ่หลก็Φ𝐵 ต่อเวลา หรอืสนามแมเ่หลก็B ทีเ่กดิขึน้ทีข่ดลวดจงหาทศิทางของกระแสเหนีย่วน าทีเ่กดิขึน้
A. B.
บทที่ 5 : 2/2560
![Page 5: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/5.jpg)
5
ทิศทางของกระแสไฟฟ้าเหน่ียวน า
S
N
X
Y
Z v S
N
X
Y
Z v
C. D.
บทที่ 5 : 2/2560
![Page 6: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/6.jpg)
บทที่ 5 : 2/2560 6
ทิศทางของกระแสไฟฟ้าเหน่ียวน า
S
N
X
Y
Z
เคลือ่นแทง่แมเ่หลก็นิ่ง ภายในภายในขดลวดดงัรปูขอ้ใดต่อไปนี้กลา่วถงึกระแสเหนีย่วน าทีเ่กดิขึน้ไดอ้ยา่งถกูตอ้ง
1) ตามเขม็2) ทวนเขม็3) ไมม่กีระแสไหล
![Page 7: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/7.jpg)
บทที่ 5 : 2/2560 7
ทิศทางของกระแสไฟฟ้าเหน่ียวน า
Ref: MIT’s handout
กฏมอืขวา : นิ้วโป้ง ชีไ้ปทีท่ศิ A
เป็น + ทศิกระแสเหนี่ยวน าตาม 4 นิ้ว เป็น - ทศิกระแสเหนี่ยวน าสวนทาง 4 นิ้ว
![Page 8: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/8.jpg)
บทที่ 5 : 2/2560 8
ทิศทางของกระแสไฟฟ้าเหน่ียวน า
Ref: MIT’s handout
∅𝑩 d∅𝑩/dt I
+ + - -
- + +
- - + +
+ - -
I เป็น + คือทวนเขม็
ดแูค่ : 𝑑𝐵𝑑𝑡
![Page 9: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/9.jpg)
บทที่ 5 : 2/2560 9
ทิศทางของกระแสไฟฟ้าเหน่ียวน า
x x x
x x x
x x x
x
x
BAreaเพ่ิม x x x
x x x
x x x
x
x
BAreaลด
กระแสตามเขม็
B
Areaลด
![Page 10: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/10.jpg)
บทที่ 5 : 2/2560 10
vI
ทิศทางของกระแสไฟฟ้าเหน่ียวน า
vI
x
x
x
x
x
x
x x
x x
B dB/dt มคีา่ลบ
vI
Iind
A wire loop is pulled away from a current-carrying wire. What is the direction of induced current in the wire loop?
1) ตามเขม็2) ทวนเขม็3) ไมม่กีระแสไหล
![Page 11: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/11.jpg)
บทที่ 5 : 2/2560 11
v
I
A wire loop is pulled in the direction as shown via the picture below. What is the direction of induced current in the wire loop?
1) ตามเขม็2) ทวนเขม็3) ไมม่กีระแสไหล
![Page 12: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/12.jpg)
สนามแมเ่หลก็ แรงแมเ่หลก็ แรงไฟฟ้ากรณีทีแ่ท่งทองแดงมกีารเคลื่อนทีไ่ปยงัขวามอื และมสีนามแมเ่หลก็เขา้สูก่ระดาษ ตัง้ฉากกบัแท่งทองแดง
บทที่ 5 : 2/2560 12
x x x x
x x x x
x x x x
v
B เข้าสู่กระดาษx x x x
x x x x
x x x x
FB
v
x x x x
x x x x
x x x x
+- -
++
v
x x x
x x x
x x x
+- -
++
v
FBE
FE
x x
x x
x x- -
++
v
FBE
FE
l
a
b
𝑉𝑎 − 𝑉𝑏 = 𝐸𝑙 = 𝐵𝑙𝑣
𝐹𝐵 = 𝑞 Ԧ𝑣 × 𝐵
![Page 13: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/13.jpg)
สนามแม่เหลก็ แรงแม่เหลก็ แรงไฟฟ้า
กรณีทีแ่ท่งทองแดงมกีารเคลื่อนทีไ่ปยงัขวามอื และมสีนามแมเ่หลก็ตัง้ฉากกบัแท่งทองแดงเมือ่ปรากฏวา่มปีระจลุบสะสม อยูด่า้นบน และประจุลบสะสมอยูด่า้นล่างถามวา่สนามแมเ่หลก็ควรมทีศิอยา่งไร
+
-
+
-v
บทที่ 5 : 2/2560 13
![Page 14: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/14.jpg)
บทที่ 5 : 2/2560
14
สนามแมเ่หลก็ แรงแมเ่หลก็ แรงไฟฟ้า
Area เพิม่ : -> ε ไดเ้ครือ่งหมาย “-” ( = -Blv)
-> 𝐵𝑖𝑛𝑑 ไดเ้ครือ่งหมายตรงขา้ม ออกจากกระดาษ-> I ไหลทวนเขม็ { ทศิ 𝐹𝐵 = 𝐼(Ԧ𝑙 × 𝐵) }
B
I
I
Ref: MIT’s handout
a
b
I
𝑉𝑎 > 𝑉𝑏
++
--
![Page 15: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/15.jpg)
15
ขนาด ทิศทางของกระแสไฟฟ้าและแรงเคล่ือนไฟฟ้าเหน่ียวน า
ตวัอยา่ง 5.3 แท่งตวัน าอยูบ่นรางโลหะดงัรปู โดยw = 20 cm l = 40 cm และ R = 12 และสนามแมเ่หลก็มคีา่สม ่าเสมอ และคงตวัขนาด B = 1.2 T มทีศิพุง่ออกจากระนาบ ดงัรปู
1. คา่แรงเคลือ่นไฟฟ้าเหนี่ยวน าทีเ่กดิขึน้ในวงจรนี้ มคีา่เทา่ใด2.กระแสเหน่ียวน าทีไ่หลมคีา่เทา่ไรและวนในทศิใด3.ปลายดา้นใดของแทง่ตวัน ามศีกัยไ์ฟฟ้าสงูกวา่ (หรอืเป็นขัว้บวก)
w
l
X-Axis
Y-Ax
is
บทที่ 5 : 2/2560
![Page 16: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/16.jpg)
16
ขนาด ทิศทางของกระแสไฟฟ้าและแรงเคล่ือนไฟฟ้าเหน่ียวน า
ตวัอยา่ง 5.4 แท่งตวัน าอยูบ่นรางโลหะดงัรปู โดยw = 20 cm l = 40 cm และ R = 12 และสนามแมเ่หลก็มคีา่สม ่าเสมอและคงตวัขนาด B = 1.2 T มทีศิพุง่ออกจากระนาบ และมคีา่เปลีย่นแปลงเมือ่เทยีบกบัเวลาเป็น 𝑑𝐵
𝑑𝑡= 2 𝑇/𝑠𝑒𝑐 ดงัแสดงในรปู
1. คา่แรงเคลือ่นไฟฟ้าเหนี่ยวน าทีเ่กดิขึน้ในวงจรนี้ มคีา่เทา่ใด2.กระแสเหน่ียวน าทีไ่หลมคีา่เทา่ไรและวนในทศิใด
w
l
X-Axis
Y-Ax
is
บทที่ 5 : 2/2560
3.ปลายดา้นใดของแทง่ตวัน ามศีกัยไ์ฟฟ้าสงูกวา่ (หรอืเป็นขัว้บวก)
![Page 17: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/17.jpg)
17
ขนาด ทิศทางของกระแสไฟฟ้าและแรงเคล่ือนไฟฟ้าเหน่ียวน า
ตวัอยา่ง 5.5 แท่งตวัน าอยูบ่นรางโลหะไถลไปทางขวามือ ดว้ยความเรว็คงตวั v = 10 cm/s โดยw = 20 cm,
l = 40 cm และ R = 12 และสนามแมเ่หลก็มคีา่สม ่าเสมอ และคงตวัขนาด B = 1.2 T มทีศิพุง่ออกจากระนาบและมคีา่เปลีย่นแปลงเมือ่เทยีบกบัเวลาเป็น 𝑑𝐵
𝑑𝑡= 2 𝑇/𝑠𝑒𝑐
1. คา่แรงเคลือ่นไฟฟ้าเหนี่ยวน าทีเ่กดิขึน้ในวงจรน้ี มคีา่เทา่ใด2.กระแสเหน่ียวน าทีไ่หลมคีา่เทา่ไรและวนในทศิใด
w
l
X-Axis
Y-Ax
is v
บทที่ 5 : 2/2560
![Page 18: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/18.jpg)
18
ขนาด ทิศทางของกระแสไฟฟ้าและแรงเคล่ือนไฟฟ้าเหน่ียวน า
ตวัอยา่ง 5.6 แท่งตวัน าอยูบ่นรางโลหะไถลไปทางซ้ายมือ ดว้ยความเรว็คงตวั v = 10 cm/s โดยw = 20 cm,
l = 40 cm และ R = 12 และสนามแมเ่หลก็มคีา่สม ่าเสมอ และคงตวัขนาด B = 1.2 T มทีศิพุง่ออกจากระนาบและมคีา่เปลีย่นแปลงเมือ่เทยีบกบัเวลาเป็น 𝑑𝐵
𝑑𝑡= 2 𝑇/𝑠𝑒𝑐
1. คา่แรงเคลือ่นไฟฟ้าเหนี่ยวน าทีเ่กดิขึน้ในวงจรนี้ มคีา่เทา่ใด2.กระแสเหน่ียวน าทีไ่หลมคีา่เทา่ไรและวนในทศิใด
w
l
X-Axis
Y-Ax
is v
บทที่ 5 : 2/2560
![Page 19: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/19.jpg)
19
ขนาด ทิศทางของกระแสไฟฟ้าและแรงเคล่ือนไฟฟ้าเหน่ียวน า
ตวัอยา่ง 5.7 เมือ่มกีารเคลื่อนขดลวดไปยงัสนามแมเ่หลก็ จะเกดิการเปลีย่นแปลงแรงเคลื่อนไฟฟ้าเหน่ียวน า εและ ฟลกัซแ์มเ่หลก็Φ𝐵 ทีข่ ึน้กบัเวลาดงัภาพ
v v
A B C D E
tA
B
C
D
E
tA
B
C
D
E
บทที่ 5 : 2/2560
![Page 20: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/20.jpg)
เครื่องก าเนิดไฟฟ้า (Generator)
SN
ตามเข็ม
vC
A
B D
v
B0
C
B
Bv
C
AB
D
l
a
เป็นเครือ่งมอืทีท่ าการเปลีย่นพลงังานกล ใหเ้ป็นพลงังานไฟฟ้า โดยหลกัการของการท างานทีใ่ชก้ารเปลีย่นแปลงของฟลกัซแ์มเ่หลก็Φ𝐵 ต่อเวลาท าใหเ้กดิแรงเคลือ่นไฟฟ้าเหน่ียวน า และกระแสไฟฟ้าเหน่ียวน าจากเครือ่งก าเนิดไฟฟ้า แสดงดงัรปู 5.3
รปู ก แสดงขวดลวดABCD วางตวัอยูใ่นสนามแมเ่หลก็Bทีม่ทีศิจากทศิN ไปยงัทศิ S การหมนุขดลวดในทศิทางตามเขม็นาฬกิาท าใหเ้กดิความเรว็ Ԧ𝑣 บนขวดลวดBC ซึง่ท ามมุ กบัB ดงัรปู ขขดลวด CD และAB ใหแ้รงแมเ่หลก็ (qvB) ไมอ่ยูใ่นแนวเดยีวกบัขวดลวด เมือ่ท าการหมนุขดลวดท ามมุ = 90 องศา ดงัรปู คบนขดลวด BC เกดิแรงแมเ่หลก็F และแรงไฟฟ้า F𝐸เกดิกระแสเหน่ียวน าไหลจากB ไปยงั C ดงัรปู งสว่นขวดลวดDA มทีศิความเรว็ Ԧ𝑣พุง่ลง ท าใหเ้กดิกระแสเหน่ียวน าไหลจากD ไปยงั A แรงเคลื่อนไฟฟ้าเหน่ียวน า ε รวมมคี่า
= Blv sin + Blv sin
ε = ขดลวด BC + ขดลวด DA
= t v = r = (a/2)
ε = 2Bl (a/2) sin t = Bla sin t = BA sin t
โดย A = la เมื่อมีจ านวนขดลวด เท่ากับ N ขด
ε = NBA sin t = 𝜀0 sin t 𝜀0 เป็นค่าแรงเคลี่อนไฟฟ้าเหนีย่วน าที่มีคา่สูงสดุ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อขดลวดท ามุม 90 องศา หรือ 270 องศา
ก. ข.
ค. ง.
C
AB
D+
I v
IE
-
20
![Page 21: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/21.jpg)
ตัวเหนี่ยวน ำ (Inductor) : L สัญญาลักษณ์
คา่สภาพเหน่ียวน า (Inductance) ของตวัเหนี่ยวน ามคีา่ 𝐿 =𝑁Φ𝐵
𝑖(5.8)
โดยN คอืจ านวนขดลวด สภาพเหน่ียวน ามคีา่ (T.m2/A) หรอื เฮนรี่ (H)
พจิารณาขดลวดโซลนิอยดท์ีม่พีืน้ทีห่น้าตดั A และจ านวนขดลวดต่อความยาวมคีา่ n = N/l สามารถเขยีนไดว้า่ NΦ𝐵 = (nl) BA (5.9)
จากกฎของ Ampere ส าหรับขดลวดโซลินอยด์ที่ยาวมาก ให้ค่าสนามแม่เหล็ก B ที่เกิดขึ้นภายในขดลวดมีค่า
B = 𝜇0𝑖𝑛 (5.10)
โดย 𝜇0 = 4𝜋 × 10−7 < T.m/A > หรือ 𝜇0 = 4𝜋 × 10−7 < H/m >
ท าให้สามารถเขียนค่าสภาพเหนี่ยวน าจากสมการ (5.8) ได้ใหม่ว่า
𝐿 =𝑛𝑙𝐵𝐴
𝑖=
𝑛𝑙 (𝜇0𝑖𝑛) 𝐴
𝑖= 𝜇0𝑛
2𝑙𝐴 =𝜇0𝑁
2𝐴
𝑙(5.10)
บทที่ 5 : 2/2560 21
![Page 22: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/22.jpg)
ตัวเหนี่ยวน ำ (Inductor) : L สัญญาลักษณ์
คา่สภาพเหน่ียวน า (Inductance) ของตวัเหนี่ยวน ามคีา่ 𝐿 =𝑁Φ𝐵
𝑖(5.8)
𝐿 =𝑛𝑙𝐵𝐴
𝑖=
𝑛𝑙 (𝜇0𝑖𝑛) 𝐴
𝑖= 𝜇0𝑛
2𝑙𝐴 =𝜇0𝑁
2𝐴
𝑙
𝐿𝑖 = 𝑁Φ𝐵 𝐿𝑑𝑖
𝑑𝑡= 𝑁
𝑑Φ𝐵
𝑑𝑡
ε = −𝑁𝑑Φ𝐵
𝑑𝑡(กฎของ Faraday)
ε = −𝐿𝑑𝑖
𝑑𝑡แรงเคลือ่นไฟฟ้าเหนี่ยวน ามคีา่
เป็นไปตามกฎของ Lenz กล่าววา่เมือ่มกีารเพิม่ขึน้ของกระแส i จะเกดิสภาพเหนี่ยวน าตวัเอง (Self-Inductance)
ทีต่่อตา้นการเปลีย่นดงักล่าวเครือ่งหมาย “-“ แสดงการตา้นการเปลีย่นแปลง สว่นแรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวน ามขีนาด L = L di/dt
(5.14)
22บทที่ 5 : 2/2560
![Page 23: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/23.jpg)
กฎของ Lenz
ตวัอยา่ง 5.9 กรณีทีข่ดลวดพนัรอบแท่งเหลก็ เมือ่ใหก้ระแสไหลไปยงัขดลวดท าใหเ้กดิมสีนามแมเ่หลก็ B
ทีเ่กดิขึน้ดงัรปู (ตามกฎน้ิวโป้งทศิของกระแส และนิ้วทัง้สีแ่ทนทศิของสนามแมเ่หลก็) จากขวาไปซา้ยต่อมามกีารเปลีย่นแปลงกระแสมคีา่เพิม่ขึน้เมือ่เทยีบกบัเวลา ตามกฎของ Lenz สมการ (5.14)
จะเกดิแรงเคลื่อนไฟฟ้าเหน่ียวน ามทีศิทางตรงกนัขา้ม แสดงดงัรปู 5.4 ขในทางตรงกนัขา้มเมือ่กระแสมคีา่ลดลง แรงเคลื่อนไฟฟ้าเหน่ียวน าจะเกดิในทศิทางเพือ่ลดการไหลของกระแส ดงัรปู 5.4 ค
I เพิม่ขึน้
L
i ต้านB ต้าน
I ลดลง
L
II
B
รปู 5.4 ก รปู 5.4 ข รปู 5.4 คบทที่ 5 : 2/2560 23
![Page 24: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/24.jpg)
24
กฎของ Lenz
ตวัอยา่ง 5.10 กรณีต่อขดลวดพนักบแทง่เหลก็และตอ่เขา้กบัตวัตา้นทาน R ดงัรปู 5.5
จากนัน้วางแทง่แมเ่หลก็ไวท้างซา้ยมอืของขดลวดดงักลา่ว เมือ่มกีารเคลือ่นทีแ่ทง่แมเ่หลก็ ก)
ไปทางซา้ย ข) ไปทางขวามอื จงหาทศิทางของกระแสทีต่วัตา้นทาน
S N
v
R
B
S N
v
R
ท่ีขดลวดลดลง
R
Iรปู 5.5 ก
(เฉลย)
บทที่ 5 : 2/2560
![Page 25: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/25.jpg)
25
ตัวเหนี่ยวน ำ (Inductor) : L สัญญาลักษณ์
การน าตัวเหนี่ยวมาต่อกันแบบอนุกรม L1 L2
=
L = L L + 21
การน าตัวเหนี่ยวมาต่อกันแบบขนาน
L1
L2
=
_L1 _
L1 _
L1
+21
บทที่ 5 : 2/2560
![Page 26: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/26.jpg)
ตัวเหนี่ยวน ำ (Inductor) : L สัญญาลักษณ์ ตวัอยา่ง 5.11 เมือ่ขดลวดโซลนิอยดม์จี านวน 200 ขดมคีวามยาวของขดลวดเป็น 20 cm
และมพีืน้ทีห่น้าตดัเทา่กบั 4.00 x 10-4 m2
ก. จงหาค านวณคา่สภาพเหนี่ยวน า L ของขดลวดดงักลา่วข. เมือ่กระแสในขดลวดมอีตัราลดลงเทา่กบั 10.0 A/s จงค านวณหาคา่แรงเคลือ่นไฟฟ้าเหนี่ยวน าของขดลวดโซลนีอยด์
𝐿 =𝑛𝑙𝐵𝐴
𝑖=
𝑛𝑙 (𝜇0𝑖𝑛) 𝐴
𝑖= 𝜇0𝑛
2𝑙𝐴 =𝜇0𝑁
2𝐴
𝑙(5.10)
โดย 𝜇0 = 4𝜋 × 10−7 < H/m >
𝐿 =)4𝜋 × 10−7 < Τ𝐻 𝑚 > 2002 (4.00 × 10−4 𝑚2
20 × 10−2 𝑚= 0.1 mH
แรงเคลือ่นไฟฟ้าเหนี่ยวน า ε = −𝐿𝑑𝑖
𝑑𝑡(5.14)
ε = −0.1 × 10−3𝐻 (−10 𝐴/𝑠) = 1 𝑚𝑉
บทที่ 5 : 2/2560 26
![Page 27: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/27.jpg)
ตัวเหนี่ยวน ำ (Inductor) : L สัญญาลักษณ์
ตวัอยา่ง 5.12 น าขดลวดโซลนิอยดจ์ากตวัอยา่ง 5.11 มาตดัครึง่ น าขดลวดทัง้สองมาต่อกนัก) แบบอนุกรม และ ข) แบบขนาน จงหาคา่สภาพเหนี่ยวน า L ของขดลวดดงักลา่ว
𝐿 =𝑛𝑙𝐵𝐴
𝑖=
𝑛𝑙 (𝜇0𝑖𝑛) 𝐴
𝑖= 𝜇0𝑛
2𝑙𝐴 =𝜇0𝑁
2𝐴
𝑙(5.10)
โดย 𝜇0 = 4𝜋 × 10−7 < H/m >
20 cm
กลายเป็น 10 cm
L1 L2
10 cm
𝐿1 = 0.05 𝑚𝐻 𝐿2 = 0.05 𝑚𝐻 𝐿ขนาน = 0.025 𝑚𝐻 27บทที่ 5 : 2/2560
![Page 28: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/28.jpg)
28
ตัวเหนี่ยวน ำ (Inductor) : L สัญญาลักษณ์
ตวัอยา่ง 5.13 เมือ่ขดลวดโซลนิอยดม์คีา่สภาพเหนี่ยวน า L = 0.25 mH มคีวามยาวของขดลวดเป็น 25 cm และมพีืน้ทีห่น้าตดัเทา่กบั 4.00 x 10-4 m2 จงหา
ก. จ านวนรอบต่อความยาว n
ข. เมือ่แรงเคลือ่นไฟฟ้าเหนี่ยวน ามคีา่ -12.5 mV การเปลีย่นแปลงของกระแสต่อเวลามคีา่เทา่ไร
(1410 รอบ/m) และ (50 A/s)บทที่ 5 : 2/2560
![Page 29: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/29.jpg)
29
วงจร RL มกีารต่อกบัแรงดนัไฟฟ้า ดงัรปู 5.7ก) ถา้ในวงจรมเีฉพาะ R กระแสจะมกีารเพิม่ขึน้อยา่งรวดเรว็จนกระทัง่มคีา่ 𝜀
𝑅แต่เป็นเพราะแรงเคลื่อนไฟฟ้าเหน่ียวน า L (= -L di/dt) ตามกฎของ Lenz ตา้นการเพิม่ขึน้
ของกระแสจาก อตัราการเพิม่ของกระแสในวงจรเริม่จากมคีา่มาก และมคีา่ลดลงเมือ่เวลาผา่นไปจนกระทัง่ di/dt = 0 กระแสในวงจรจงึจะมคีา่ 𝜀
𝑅ในทีส่ดุ
RL
(เพ่ิมข้ึน)i
R
Li
L
L di/dt
รปู 5.7 ก) รปู 5.7 ข)
วงจร RL : การเพ่ิมขึน้ของกระแส (Rising current)
i (t) =𝜀
𝑅(1 – 𝑒
−𝑅𝑡
𝐿 ) (5.18)ค่าคงตัวของเวลาเหนี่ยวน า L = 𝐿
𝑅
บทที่ 5 : 2/2560
![Page 30: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/30.jpg)
30
การเพ่ิมขึ้นของกระแส : วงจร RL
วงจรรปู 5.7 จะมกีระแสไหลตามสมการ 5.18 ท าใหก้ระแสทีไ่หลผา่นตวัตา้นทาน R เกดิแรงดนัไฟฟ้า VR (t) = i(t) R
สามารถแสดงดงัตวัอยา่งรปู 5.8 ก) ขณะเดยีวกนัเกดิแรงดนัไฟฟ้าทีต่กครอ่มตวัเหน่ียวน า VL (t) = L di/dt ดงัรปู 5.8 ข)
ผลรวมของ VR (t) + VL (t) = = 10
2
2
4
6
8
10
VR(โวลท์)
t (ms)4 6 8 2
2
4
6
8
10
VL(โวลท์)
t (ms)4 6 8
รูป 5.8 ก) รูป 5.8 ข)
At t = L
i (t) =𝜀
𝑅(1 – 𝑒
−𝑅𝑡
𝐿 )
i (t = L ) = 0.63𝜀
𝑅2
2
4
6
8
10 i (t)
R
(A)
t (ms)4 6 8
6.3 A= V /R
/R
L
ความตา้นทานในวงจรมคีา่ R = 1 กระแสมคีา่ 6.3 A
บทที่ 5 : 2/2560
![Page 31: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/31.jpg)
31
ตวัเหน่ียวน า ในวงจรการเพ่ิมขึน้ของกระแส : : วงจร RL
RL
t = 0
RL
t ->
วงจร RL เมือ่ t = 0 กระแสไมม่กีารไหลในวงจรเสมอืนวา่ตวัเหนี่ยวน า L ไมม่กีารต่อวงจร
หลังจากที่กระแสไหลในวงจรนานมาก i (t ) = /Rกระแสมคีา่สงูสดุ เสมอืนวา่ตวัเหนี่ยวน า Lปลอ่ยใหก้ระแสไหลผา่นไดอ้ยา่งเตม็ที่
บทที่ 5 : 2/2560
![Page 32: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/32.jpg)
32
การลดลงของกระแส : วงจร RL
กำรลดลงของกระแส (Decaying current) i (t) =𝜀
𝑅𝑒−𝑡
𝜏𝐿 (5.22)
i (t = L ) =𝜀
𝑅(𝑒−1) = 0.37
𝜀
𝑅
2
2
4
6
8
10 i (t)
R
(A)
t (ms)4 6 8
3.7 A
= V /R
/R = Io
L
ที่ t = 0 ms จะได้ i (t=0) = 10/1 = 10 A (ซึ่งมีค่าเท่ากับกระแสในรูป เม่ือ t >> 8 ms) เมื่อ t = L = 2 ms กระแสมคีา่ i (t=L) = 10/1 (0.37) = 3.7 A และเมื่อ t มีค่านานมาก (t ) i () = 0
บทที่ 5 : 2/2560
![Page 33: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/33.jpg)
33
ตัวอย่าง 5.13 จากวงจรการเพิ่มขึ้นของกระแส (Rising current)ข้างล่าง ก) กระแสไหลในวงจร RL มีค่าเท่าไรเมื่อ เริ่มเปิดสวิทช์ (t=0) ข) เมื่อเวลาผ่านไปนานมาก กระแสที่ไหลมีค่าเท่าใด และ แรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่อม R1 มีค่าเท่ากับเท่าใด
การลดลงของกระแส : วงจร RL
R1L
R2 = R1
ก. วิธีท า t=0 สามารถเขียนวงจรใหม่ได้ R1L
R2 = R1
R1L
R2 = R1
ข. เมื่อเวลาผ่านไปนานมาก สามารถเขียนวงจรใหม่ได้
iR1 = /(2R1)* R1 = /2 V
แรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่อม R1
![Page 34: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/34.jpg)
34
การลดลงของกระแส : วงจร RL
ตัวอย่าง 5.14 จากวงจรการเพิ่มขึ้นของกระแส (Rising current)ข้างล่าง ก) กระแสไหลในวงจร
RL มีค่าเท่าไรเมื่อ เริ่มเปิดสวิทช์ (t=0) ข) เมื่อเวลาผ่านไปนานมาก กระแสที่ไหลมีค่าเท่าใด
L
R
R LR
(ค าตอบ ก. I = /3R ข. I = /2R) บทที่ 5 : 2/2560
![Page 35: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/35.jpg)
บทที่ 5 : 2/2560 35
• วงจร RL เหมอืนกบัวงจร RC(capacitor energy was stored in the E field)
พลังงำนที่สะสมในขดเหนี่ยวน ำ (Energy stored in inductor)
𝑈𝐿 =1
2𝐿𝑖2
The inductor energy is stored in the magnetic field.
𝑈𝐶=𝑞2
2𝐶
𝑞(𝑡)2
2𝐶+
1
2𝐿𝑖(𝑡)2 =
𝑄2
2𝐶พลงังานรวม :
L C
S
![Page 36: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/36.jpg)
36
พลังงำนที่สะสมในขดเหนี่ยวน ำ (Energy stored in inductor)𝑈𝐿 =1
2𝐿𝐼2
วงจร LC (LC Circuits) 𝑈 = 𝑈𝐿 + 𝑈𝐶พลังงานสะสมที่ L และ C
𝑈𝐶=𝑄2
2𝐶
L C
S
UL
UC
t
t
LI2
2
Q2
2C
𝑞 𝑡 = 𝑄0 cos𝜔0𝑡
𝜔0 = 1/ 𝐿𝐶
𝐼 𝑡 = 𝐼0 sin𝜔0𝑡
การเพิ่มและลดของกระแสในวงจร ไม่ได้อยู่ในรูปสมการ exponential อกีต่อไป
L C
SI
วงจร LC เมื่อหยุดการจ่ายพลังงานจากแบตเตอรี่
บทที่ 5 : 2/2560
![Page 37: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/37.jpg)
อปุกรณ์ไฟฟ้าพืน้ฐาน
L
L
dIV L
dt
R
C
qV
C
RV IRตวัตา้นทาน
ตวัเกบ็ประจุ
ตวัเหน่ียวน า
I
C
q
d I
d t
37
แบตเตอรี V
sinV tแหลง่ก าเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั
บทท่ี 5 ต่อ
บทที่ 5 : 2/2560
![Page 38: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/38.jpg)
วงจร LC vs มวลท่ีปลายสปริง
LC
kIE B
m
x
22
2
10
d qq
dt LC
22
20
d x kx
dt m
1
LC k
m
cosq q t cosx x t
sindq
I q tdt
sindx
v x tdt
21
2
qU
C
21
2U kx
21
2C
qU
C
21
2PE kx
21
2LU LI
21
2KE mv
38บทที่ 5 : 2/2560
![Page 39: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/39.jpg)
วงจร RLC (Damped Osillation)
I L
S
a b
C
q
R เพิม่ความตา้นทานในวงจร LCdI q
L IRdt C
dq
Idt
2
20
d q dq qL R
dt dt C
2
20
d q R dq q
dt L dt LC “สมการการแกวง่กวดัแบบหน่วง”
“Damping” “Oscillating” q t
t0
I t
tcoseqq 2
t
o
พลงังานรวมจะลดลงเรือ่ยๆเน่ืองจากมกีารท างานทีต่วัตา้นทาน
39บทที่ 5 : 2/2560
![Page 40: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/40.jpg)
แหล่งก าเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั
tsinVV
f2 ในประเทศไทย f = 50 Hz
t2cos12
VtsinVV
2222
t2cos12
VVV
22
rms
2
VVrms
ไฟฟ้าในบา้นในประเทศไทย Vrms = 220 V
t0
VrmsV
40บทที่ 5 : 2/2560
![Page 41: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/41.jpg)
ตวัต้านทานในวงจรไฟฟ้ากระแสสลบั
VR และ IR เปลีย่นพรอ้มกนั (เฟสตรงกนั)
RI tsinVV RR
tsinItsinR
V
R
VI R
RRR
tsinVV RR
t0
RV
RI
RV
RIt
tsinR
VI R
R
41บทที่ 5 : 2/2560
![Page 42: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/42.jpg)
บทที่ 5 : 2/2560 42
V(t) = 𝑉0𝑠𝑖𝑛𝜔𝑡
𝑉𝑎 = 𝑉0𝑠𝑖𝑛0 = 0
𝑉𝑏 = 𝑉0𝑠𝑖𝑛45 = 0.71𝑉0
𝑉𝑐 = 𝑉0𝑠𝑖𝑛90 = 𝑉0
𝑉𝑑 = 𝑉0𝑠𝑖𝑛135 = 0.71𝑉0
𝑉𝑒 = 𝑉0𝑠𝑖𝑛180 = 0
𝑉f = 𝑉0𝑠𝑖𝑛270 = −𝑉0
= 𝑉0 sin −90 = −𝑉0
0 90 270
360a e
b c d
f
องศา
V(t)
V0
𝑉0 = (𝑉𝑥)2+(𝑉𝑦)
2
แผนภาพเฟสเซอร์
V sin( t)0
t
V0Vy
Vx
+
b
c
d
e
f
a0V
![Page 43: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/43.jpg)
บทที่ 5 : 2/2560 43
Red Line:
𝑉𝑅= 𝑉0𝑠𝑖𝑛𝜔𝑡 = 𝑉0𝑠𝑖𝑛𝜃
Blue Line: 𝑉𝐵= 𝑉0𝑠𝑖𝑛𝜔𝑡 = 𝑉0sin(𝜃 + 120)
Yellow Line:
𝑉𝑌= 𝑉0𝑠𝑖𝑛𝜔𝑡 = 𝑉0 sin 𝜃 + 240= 𝑉0sin(𝜃 − 120)
แผนภาพเฟสเซอร์
![Page 44: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/44.jpg)
บทที่ 5 : 2/2560 44
![Page 45: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/45.jpg)
ตวัเกบ็ประจใุนวงจรไฟฟ้ากระแสสลบั
VC มเีฟสตามหลงั IC อยู ่90o
I tsinVV CC
tsinCVCVq CCC
sinC CV V t
t0
CV
CI
CVCI
t
C
q
tcosX
VtcosCVq
dt
dI
C
CCCC
0 cosC
C
C
VI t
X
C
1XC
45บทที่ 5 : 2/2560
![Page 46: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/46.jpg)
ตวัเหน่ียวน าในวงจรไฟฟ้ากระแสสลบั
VL มเีฟสน าหน้า IL อยู ่90o
I tsinVV LL LL Idt
dLV
tsinVV LL
t0
LV
LI
LV
LI
t
tcosL
Vdttsin
L
VI LL
L
cosLL
L
VI t
X LXL
L
46บทที่ 5 : 2/2560
![Page 47: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/47.jpg)
ความต้านทานจินตภาพ (Reactance)
ในตวัเกบ็ประจุและตวัเหน่ียวน ำ V และ I ไม่ไดแ้ปรผนัตำมกนั
LXL
C
1XC
“Capacitive Reactance”
“Inductive Reactance”
LX
CX
0
R
47บทที่ 5 : 2/2560
![Page 48: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/48.jpg)
วงจร RLC กระแสสลบั
I C
R
L
tsinVVVV CRL
tsinVC
q
dt
dqR
dt
qdL
2
2
“Forced Oscillation”
tsinII
tsinVV
I มีเฟสต่ำงจำก V ของแหล่งก ำเนิดอยูเ่ท่ำกบั
RVLV
t
CV
V
I 2CL
2
R VVVV
48บทที่ 5 : 2/2560
![Page 49: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/49.jpg)
I C
R
L
tsinII
tsinVV
“ควำมตำ้นทำนเชิงซอ้น” (Impedance)
2CL
22
CL
2
R
2XIXIRIVVVV
2CL
2 XXR
VI
Z
VI
2CL
2 XXRZ R
LX
CX
Z
CL XX
R
XXtan CL
ความต้านทานเชิงซ้อน (Impedance)
49บทที่ 5 : 2/2560
![Page 50: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/50.jpg)
I C
R
L
กระแสในวงจรจะไหลมำกท่ีสุดเม่ือ XL = XC
2CL
2 XXR
V
Z
VI
เรโซแนนซ์ (Resonace)
C
1L
LC
1
เม่ือควำมถ่ีธรรมชำติของวงจรเท่ำกบัควำมถ่ีของแหล่งก ำเนิดเรียกควำมถ่ีนั้นวำ่ “ควำมถ่ีเรโซแนนซ์”
LC
1res
LC2
1fres
I
res 0 50บทที่ 5 : 2/2560
![Page 51: ฟลักซ์แม่เหลก็(Magnetic flux)science.sut.ac.th/physics/Doc/1-62/105102/บทที่...2 A B 0 A B A D B ต วอย าง 5.1 การหาฟล](https://reader034.vdocuments.site/reader034/viewer/2022052011/6027324279b68f6ef26a7872/html5/thumbnails/51.jpg)
I C
R
L ก ำลงัเฉล่ีย
ก าลงัไฟฟ้า
RIP 2
rmsavg
ท่ีเรโซแนนซ์ power factor = 1 จะมีกำรจ่ำยก ำลงัไฟฟ้ำไดสู้งสุด
cosVIP rmsrmsavg
tsinII
tsinRIRIP 222
R2
I
2
1RIP
2
2
avg
Z
VI rms
rms R
LX
CX
Z
CL XX
Z
RVIR
Z
VIP rmsrms
rmsrmsavg
Z
Rcos “Power factor”
51บทที่ 5 : 2/2560