ทฤษฎีบท 1 - teacher ssruทฤษฎ บท 6: (สมบ ต การต...
TRANSCRIPT
ทฤษฎีบท 1: (สมบตักิารตัดออกของการบวก)
ส ำหรับจ ำนวนจริง a, b และ c ใดๆ
(1)ถ้ำ a + b = a + c แล้ว b = c
พิสจูน์ (1) a + b = a + c (ก ำหนดให้)
(-a)+a + b = (-a)+a + c (สมบตักิำรบวกด้วยจ ำนวนเดียวกนั)
[(-a)+a] + b = [(-a)+a]+ c (สมบตักิำรเปลี่ยนกลุม่ของกำรบวก)
0 + b = 0+ c (สมบตักิำรมีอินเวอร์ส กำรบวก)
b = c (สมบตักิำรมีเอกลกัษณ์กำรบวก)
ทฤษฎีบท 2: ส ำหรับจ ำนวนจริง x และ a ใดๆ
(1) ถ้ำ x + a = a แล้ว x = 0
พสูิจน์ (1) x + a = a (ก ำหนดให้)
x+a+(-a) = a+(-a) (สมบตัิกำรบวกด้วยจ ำนวนเดียวกนั)
x+[(-a)+a] = a+(-a) (สมบตัิกำรเปลี่ยนกลุม่ของกำรบวก)
x+0 = 0 (สมบตัิกำรมีอินเวอร์สกำรบวก)
x = 0 (สมบตัิกำรมีเอกลกัษณ์กำรบวก)
ทฤษฎีบท 4: ส ำหรับจ ำนวนจริง a แตล่ะตวั (a) = a
พสูิจน์ -(-a)+(-a) = 0 (สมบตัิกำรมีอินเวอร์สกำรบวก)
-(-a)+(-a)+a = 0+a (สมบตัิกำรบวกด้วยจ ำนวนเดียวกนั)
-(-a)+[(-a)+a] = 0+a (สมบตัิกำรเปลี่ยนกลุม่ของกำรบวก)
-(-a)+0 = 0+a (สมบตัิกำรมีอินเวอร์สกำรบวก)
-(-a) = a (สมบตัิกำรมีเอกลกัษณ์กำรบวก)
ทฤษฎีบท 5: ส าหรับจ านวนจริง a ทุกตัว a0 = 0 และ 0a = 0
พิสจูน์ 0+0 = 0 (สมบตัิกำรมีเอกลกัษณ์กำรบวก)
a(0+0) = a0 (สมบตัิกำรคณูด้วยจ ำนวนเดียวกนั)
(a0+a0) = a0 (สมบตัิกำรแจกแจงทำงซ้ำย)
a0+a0 = a0+0 (สมบตัิกำรมีเอกลกัษณ์กำรบวก)
a0 = 0 (สมบตัิกำรตดัออกกำรบวก)
ทฤษฎีบท 6: (สมบตักิารตัดออกของการคูณ)
ส ำหรับจ ำนวนจริง a, b และ c ทกุตวัท่ี a ≠ 0
(1) ถ้ำ ab = ac แล้ว b = c
พสูิจน์ ab = ac (ก ำหนดให้)
a-1ab = a-1ac (สมบตัิกำรคณูด้วยจ ำนวนเดียวกนั)
(a-1a)b = (a-1a)c (สมบตัิกำรเปลี่ยนกลุม่กำรคณู)
1.b = 1.c (สมบตัิกำรมีอินเวอร์สกำรคณู)
b = c (สมบตัิกำรมีเอกลกัษณ์กำรคณู)
ทฤษฎีบท 7: ส ำหรับจ ำนวนจริง x และ a ใดๆ ซึง่ a ≠ 0
(1) ถ้ำ xa = a แล้ว x = 1
พสูิจน์ xa = a (ก ำหนดให้)
a-1 xa = a-1a (สมบตัิกำรคณูด้วยจ ำนวนเดียวกนั)
(a-1a)x = (a-1a) (สมบตัิกำรเปลี่ยนกลุม่กำรคณู)
1.x = 1 (สมบตัิกำรมีอินเวอร์สกำรคณู)
x = 1 (สมบตัิกำรมีเอกลกัษณ์กำรคณู)
ทฤษฎีบท 8: ส ำหรับจ ำนวนจริง x และ a ใดๆ ซึง่ a ≠ 0
xa = 1 แล้ว x = a1
(1) xa = 1 แล้ว x = a1
พสูิจน์ xa = 1 (ก ำหนดให้)
a-1 xa = a-11 (สมบตัิกำรคณูด้วยจ ำนวนเดียวกนั)
(a-1a)x = (a-11) (สมบตัิกำรเปลี่ยนกลุม่กำรคณู)
1.x = (a-11) (สมบตัิกำรมีอินเวอร์สกำรคณู)
x = a-1 (สมบตัิกำรมีเอกลกัษณ์กำรคณู)
ทฤษฎีบท 9: ส ำหรับจ ำนวนจริง a ทกุตวัซึง่ไมเ่ทำ่กบั 0 จะได้วำ่
(a1 ) 1 = a
พสูิจน์ (a-1(a-1) -1) = 1 (สมบตัิกำรมีอินเวอร์สกำรคณู)
a(a-1(a-1) -1) =a. 1 (สมบตัิกำรคณูด้วยจ ำนวนเดียวกนั)
(aa-1) (a-1) -1 = a. 1 (สมบตัิกำรเปลี่ยนกลุม่กำรคณู)
1.(a-1) -1 = a. 1 (สมบตัิกำรมีอินเวอร์สกำรคณู)
(a1 ) 1 = a (สมบตัิกำรมีเอกลกัษณ์กำรคณู)
ทฤษฎีบท 11: ส ำหรับจ ำนวนจริง a และ b ทกุตวั จะได้ว่ำ
(1) a(b) = (ab)
พสูิจน์ (b+(-b)) = 0 (สมบตัิกำรมีอินเวอร์สกำรบวก)
a (b+(-b)) =a. 0 (สมบตัิกำรคณูด้วยจ ำนวนเดียวกนั)
ab+a(-b) = a. 0 (สมบตัิกำรแจกแจงทำงซ้ำย)
ab+a(-b) = 0 (สมบตัิกำรมีเอกลกัษณ์กำรคณู)
-(ab)+ab+a(-b) = -(ab)+ 0 (สมบตัิกำรบวกด้วยจ ำนวนเดียวกนั)
[-(ab)+ab]+a(-b)= -(ab)+ 0 (สมบตัิกำรเปลี่ยนกลุม่กำรบวก)
0+a(-b) = -(ab)+ 0 (สมบตัิกำรมีอินเวอร์สกำรบวก)
a(b) = (ab) (สมบตัิกำรมีเอกลกัษณ์กำรบวก)
ทฤษฎีบท 12: ส ำหรับจ ำนวนจริง a และ b ใดๆ
ถ้ำ ab = 0 แล้ว a = 0 หรือ b = 0
พสูิจน์ กรณี (1) เม่ือ a = 0
(2) เม่ือ a ≠ 0
ab = 0 (ก ำหนดให้)
a-1 (ab) = a-1 . 0 (สมบตัิกำรคณูด้วยจ ำนวนเดียวกนั)
(a-1 a)b = a-1 . 0 (สมบตัิกำรเปลี่ยนกลุม่กำรคณู)
1b = 0 (สมบตัิกำรมีอินเวอร์สกำรคณู)
b = 0 (สมบตัิกำรมีเอกลกัษณ์กำรคณู)
ทฤษฎีบท 13: ส ำหรับจ ำนวนจริง a, b, c และ d ใดๆ ซึง่ b ≠ 0,
d ≠ 0 จะได้ว่ำ ก็ต่อเม่ือ ad = bc
(1)ถ้า แล้ว ad = bc
พสูิจน์ (ก ำหนดให้)
ab-1 = cd-1 (สมบตัิกำรสมมำตร)
b(ab-1 ) = b(cd-1) (สมบตัิกำรคณูด้วยจ ำนวนท่ีเท่ำกนั)
a(bb-1 ) = (bc)d-1 (สมบตัิกำรเปลี่ยนกลุม่กำรคณู)
a1 = (bc)d-1 (สมบตัิกำรมีอินเวอร์สกำรคณู)
a = (bc)d-1 (สมบตัิกำรมีเอกลกัษณ์กำรคณู)
ad = (bc)d-1d (สมบตัิกำรคณูด้วยจ ำนวนท่ีเท่ำกนั)
d
c
b
a
d
c
b
a
d
c
b
a
ad = (bc)d-1d (สมบตัิกำรคณูด้วยจ ำนวนท่ีเท่ำกนั)
ad = (bc)1 (สมบตัิกำรมีอินเวอร์สกำรคณู)
ad = bc (สมบตัิกำรมีเอกลกัษณ์กำรคณู)
(2) ถ้า ad = bc แล้ว
พสูิจน์ ad = bc (ก ำหนดให้) d
c
b
a
ทฤษฏีบทที่ 1
(1) ถ้ำ a เป็นจ ำนวนจริงลบ และ b เป็นจ ำนวนจริงบวก แล้ว ab
เป็นจ ำนวนจริงลบ
พสูิจน์ เน่ืองจำก a เป็นจ ำนวนจริงลบ และ b เป็นจ ำนวน
จริงบวก
จะได้วำ่ นัน้คือ
โดยท่ี
แสดงวำ่ ab เป็นจ ำนวนจริงลบ
Ra Ra)b(
-(ab)a)b(
ทฤษฏีบทที่ 2 ถ้ำ a เป็นจ ำนวนจริงซึง่ไม่เท่ำกบัศนูย์แล้ว aa เป็นจ ำนวนจริงบวก
พสูิจน์ กรณีที่ 1 ถ้า a เป็นจ ำนวนจริงบวก
จะได้ว่ำ aa เป็นจ ำนวนจริงบวก
กรณีที่ 2 ถ้า a เป็นจ ำนวนจริงลบ
จะได้ว่ำ -a เป็นจ ำนวนจริงบวก และ
โดยท่ี แสดงว่ำ aa เป็นจ ำนวนจริงบวก Ra)(-a)(aaa)(-a)(
ทฤษฏีบทที่ 3 1 เป็นจ ำนวนจริงบวก
พสูิจน์ และ 1 ไม่เท่ากับ 0
จำก ทบ.2 จะได้ว่ำ 1 เป็นจ ำนวนจริงบวก
ทฤษฏีบทที่ 4 (1) ถ้ำ a เป็นจ ำนวนจริงบวกแล้ว a – 1 เป็นจ ำนวนจริงบวก
พสูิจน์ เน่ืองจำก a เป็นจ ำนวนจริงบวก แสดงวำ่มี จ ำนวนจริง a – 1 ซึง่
aa – 1 = 1 = a – 1 a ซึง่ a ≠ 0 และ a เป็นจ ำนวนจริงลบไม่ได้จำก
ทบ.1 ดงันัน้ a – 1 เป็นจ ำนวนจริงบวก
)1)(1(1
บทนิยาม 2 ส ำหรับจ ำนวนจริง a และ b ทกุตวั a < b
(หรือ b > a ) ก็ต่อเม่ือ b – a เป็นจ ำนวนจริงบวก
ทฤษฏีบทที่ 5 ส ำหรับจ ำนวนจริง a, b และ c ใดๆ ถ้ำ a < b และ b < c
จะได้ว่ำ a < c
พสูิจน์ เน่ืองจำก a < b และ b < c พบวำ่
และ และ
จะได้ นัน้คือ a < c Ra)(b
Rb)(c
Ra)]-(bb)-c[(
Ra)-(ca)]-(bb)-c[(
ท.บ 6 ส ำหรับจ ำนวนจริง a, b และ c ใดๆ ถ้ำ a < b จะได้ว่ำ
a + c < b + c
พสูิจน์ เน่ืองจำก a < b จะได้ว่ำ
และ และ
นัน้คือ a + c < b + c (จำกนิยำม 2)
Ra)(b
Ra)]-(cc)-b[(ab
Rc)(ac)(b a)-(cc)-b(
ทฤษฏีบทที่ 7 ส ำหรับจ ำนวนจริง a, b, c และ d ใดๆ
ถ้ำ a < b และ c < d
จะได้วำ่ a + c < b + d
ทฤษฏีบทที่ 8 ส ำหรับจ ำนวนจริง a และ b ใดๆ
(1) ถ้ำ a < b และ c เป็นจ ำนวนจริงบวก
จะได้วำ่ ca < cb