1_hydrostatic
TRANSCRIPT
8/9/11
1
น . ท . ด ร . ส ั ต ย า จ ั น ท ร ป ร ะ ภ า ร . น . ร . ต . ป ร ิ ญ ญ ์ ก ั น อ ย ู ่ ร . น .
HYDROSTATIC
HYDROSTATICS
• The Principal Dimensions of a Ship or Other Floating Structure • Buoyancy & Displacement • Stability
8/9/11
2
THE PRINCIPAL DIMENSIONS OF A SHIP OR OTHER FLOATING STRUCTURE
PRINCIPAL DIMENSIONS
• LOA: Length Overall • LPP: Length Between
Perpendicular
• LOA: Length of Water Line • LOS: Length Overall
Submerged
8/9/11
3
PRINCIPAL DIMENSIONS
• B: Beam • D: Depth • f: Freeboard • T: Draught • WL: Waterline
PRINCIPAL DIMENSIONS
• Port: กราบซ้าย • Starboard: กราบขวา • Bow: ภาคหัว • Stern: ภาคท้าย • AP: After
Perpendicular • FP: Forward
Perpendicular
8/9/11
4
BUOYANCY & DISPLACEMENT
BUOYANCY & DISPLACEMENT
• คุณสมบัติของของเหลว • ความหนาแน่นของมวล (Mass Density): ปริมาณมวลของของเหลวชนิดหนึ่ง ต่อ 1 หน่วยปริมาตรของของเหลวนั้น
• น้ําหนักจําเพาะ (Specific Weight or Weight Density): น้ําหนักของของเหลวชนิดหนึ่ง ต่อหนึ่งหน่วยปริมาตรของของเหลวนั้น
• ปริมาตรจําเพาะ (Specific Volume): ส่วนกลับของน้ําหนักจําเพาะ
8/9/11
5
BUOYANCY & DISPLACEMENT
• ความถ่วงจําเพาะของของเหลว (Specific Gravity): อัตราส่วนระหว่างความหนาแน่นของของเหลวใดๆ กับความหนาแน่นของน้ําจืดบริสุทธิ์
• ความหนืด (Viscosity): ค่าความต้านทานต่อแรงเฉือนภายในของเหลว หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ความหนืดไดนามิก (Dynamic Viscosity)
• ความหนืดคิเนมาติก (Kinematic Viscosity): อัตราส่วนระหว่างความหนืดไดนามิก ต่อ น้ําหนักจําเพาะ
BUOYANCY & DISPLACEMENT
• แรงลอยตัวของเรือ (Buoyancy) • เมื่อพิจารณาจุด P ใดๆในรูป
(a) ซึ่งอยู่ต่ํากว่าผิวหน้าของของเหลวเท่ากับ t
• ปริมาตรลิ่มของเหลวทั้งหมดเหนือจุด P ที่มีพื้นที่หน้าตัดเท่ากับ A คือ At
• ดังนั้น แรงที่เกิดจากความโน้มถ่วง เนื่องจากมวลของของเหลวเหนือจุด P มีค่าเท่ากับ
!gAt
8/9/11
6
BUOYANCY & DISPLACEMENT
• โดย คือ ความหนาแน่นของของเหลว • แรงลอยตัวของวัตถุในรูป
(b) มีลักษณะพื้นที่ผิวแตกต่างกัน จึงต้องรวมแรงที่กระทําต่อพื้นที่ผิวเปียกน้ําทั้งหมดเข้าด้วยกัน เพราะฉะนั้น จาก
• จะได้
!
F! = ma( )!
F! = !gt( )A0
S
! = !gt( )0
S
! cos(! ) ""S
BUOYANCY & DISPLACEMENT
• เทอม คือปริมาตรทั้งหมดของวัตถุส่วนที่แทนน้ํา
• ถ้าปริมาตรของเหลวทั้งหมดในรูป ซึ่งต่อไปจะเรียกว่าเป็น “ปริมาตรระวางขับน้ํา ” เพราะฉะนั้น
• หมายความว่า สามารถคํานวณขนาดแรงลอยตัวที่กระทําต่อวัตถุได้ในฟังก์ชันของปริมาตรที่วัตถุแทนที่น้ํา ถ้ากําหนดให้ W เป็นน้ําหนักของวัตถุลอยที่ลอยในของเหลวดังกล่าว เพราะฉะนั้น
t !cos(! ) !"S0
S
"
!
F! = !g "#
W = F! = !g "#
8/9/11
7
BUOYANCY & DISPLACEMENT
• ในสภาวะสมดุล • แรงจากน้ําหนัก = แรงลอยตัว • แรงเนื่องจากน้ําหนักกระทําที่จุด
G • แรงลอยตัวกระทําที่จุด B • จุด B เรียกว่าเป็นจุดศูนย์กลางการลอย
• จุด G เรียกว่าเป็นจุดศูนย์ถ่วง • ในวัตถุที่มีการกระจายตัวของรูปร่างคงที ่จุด G และ จุด B จะอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกัน
STABILITY
8/9/11
8
STABILITY
• สภาวะการลอยตัว
• ถ้า วัตถุลอยอยู่เหนือผิวน้ํา
• ถ้า วัตถุลอยปริมน้ํา หรือจมลง แล้วหยุดอยู่คงที่ • ถ้า วัตถุจมน้ําลงไป
Vtotal >W!
Vtotal =W!
Vtotal <W!
STABILITY
• นิยาม
• Intact Stability: คือสถานะการทรงตัวสถิตย์ของเรือในน้ํานิ่ง ที่เรือทรงตัวได้ปลอดภัยสมบูรณ์ด ีที่กล่าวเช่นนี้เพราะ ถ้าหากเรือทะลุเสียหายจนน้ําเข้ามาอยู่ในบางส่วนของเรือ หรือสูญเสียแรงลอยตัวไปจากการเกยตื้น หรือขณะเข้าอู่แห้ง หรือด้วยสาเหตุใดก็ตามที่ทําให้แรงลอยตัวโดยรวมลดลง จะถือว่าเรือเริ่มทรงตัวไม่ปลอดภัย ซึ่งจะเรียกการทรงตัวในสถานะที่แรงลอยตัวไม่สมบูรณ์ดังเดิมว่า เป็น “Damage Stability”
• แขนโมเมนต์ตั้งตรง (Righting Arm; R.A.): คือแขนของโมเมนต์แรงควบคู่ที่เป็นแรงระหว่างแรงลอยตัว (Buoyancy) กับแรงจากน้ําหนัก (Displacement) มักนิยมกําหนดให้เป็นระยะ GZ
8/9/11
9
STABILITY
• นิยาม • โมเมนต์ตั้งตรง (Righting Moment; R.M.): คือโมเมนต์แรงคู่ควบที่เกิดจากแรงลอยตัว (Buoyancy) กับแรงจากน้ําหนัก (Displacement) มีแขนโมเมนต์ยาวเท่ากับ GZ หลังจากที่เรือเอียงไป โมเมนต์ตั้งตรงจะผลักให้เรือกลับมาลอยตั้งตรงเสมอ (ต้านการเอียง)
STABILITY
• นิยาม • โมเมนต์คว่ําเรือ (Heeling Moment; H.M.): คือโมเมนต์แรงคู่ควบที่เกิดจากแรงลอยตัว (Buoyancy) กับแรงจากน้ําหนัก (Displacement) มีแขนโมเมนต์ยาวเท่ากับ GZ เช่นกัน แต่เป็นโมเมนต์ที่จะยิ่งผลักให้เรือเอียงมากขึ้น (เสริมการเอียง)
8/9/11
10
STABILITY
• นิยาม • จุดเปลี่ยนศูนย์เสถียร (Metacenter; M): คือจุดตัดระหว่างแนวแรงลอยตัว กับแนวเส้นศูนย์กลาง ที่เรียกว่าเป็น “จุดเปลี่ยนศูนย์เสถียร” เพราะ ถ้าจุด M อยู่ต่ํากว่าจุด G โมเมนต์จะเปลี่ยนเป็นโมเมนต์คว่ําเรือ (Heeling Moment) ทันท ี
STABILITY
• นิยาม • ความสูงจุดเปลี่ยนศูนย์เสถียร (Metacenter Height; GM): คือระยะวัดตามแแนวเส้นกึ่งกลางทางขวาง จากจุด G ถึง จุด M
• ถ้า M อยู่สูงกว่า G ระยะ GM เป็นบวก • ถ้า M อยู่ต่ํากว่า G ระยะ GM เป็นลบ
8/9/11
11
STABILITY
• สถานะการทรงตัวแบบต่างๆ • Equilibrium • GZ = 0 • R.A. = 0 • GZ = GM sin(θ) • θ = 0
STABILITY
• สถานะการทรงตัวแบบต่างๆ • Stable Equilibrium • GM = Positive • GZ = GM sin (θ) • θ ≠ 0 • GZ = Positive • R.A. ≠ 0
8/9/11
12
STABILITY
• สถานะการทรงตัวแบบต่างๆ • Neutral Equilibrium • GM = 0 • GZ = GM sin (θ) • θ ≠ 0 • GZ = 0
STABILITY
• สถานะการทรงตัวแบบต่างๆ • Unstable Equilibrium • GM = Negative • GZ = GM sin (θ) • θ ≠ 0 • GZ = Negative
8/9/11
13
HYDRODYNAMIC
HYDRODYNAMIC
Mechanics
Fluid Mechanics
Hydrodynamic Aerodynamic
Solid Mechanics
8/9/11
14
HYDRODYNAMIC
Hydrodynamic
Resistance Propulsion Ship Motion (Sea Keeping) Maneuvering
RESISTANCE
• ประเภทของแรงต้านทางการเคลื่อนที่
8/9/11
15
RESISTANCE
• การคํานวณประมาณค่าแรงต้านทางการเคลื่อนที่ • วิธีการศึกษาแรงต้านทานการเคลื่อนที่ที่นิยมใช้มากที่สุดในปัจจุบัน คือ: • Froude Method • Hughes Method
• แรงต้านทานการเคลื่อนที่ในส่วนต่างๆ สามารถแสดงฟังก์ชันของ ความเร็ว พื้นที่ผิว และ ความหนาแน่นของของเหลวได้ดังนี้
• โดยที:่ • ρ: ความหนาแน่นของน้ําทะเล • V: ความเร็วของกระแสน้ํา หรือความเร็วของเรือขณะเคลื่อนที่ • S: พื้นที่ผิวสัมผัสน้ํา • C: สัมประสิทธ์ิเสียดทาน
R= 12C!V 2S
RESISTANCE
• การคํานวณประมาณค่าแรงต้านทางการเคลื่อนที่ • Froude Method: เป็นสมมติฐานที่เก่าแกที่สุด ที่ยังสามารถประยุกต์ใช้ได้ในเกณฑ์ที่แม่นยํา โดย W. Froude (XIX)
• สมมติฐานของ Froude กล่าวไว้ว่า
• โดยที:่ • RT: Total Resistance • RF: Skin Friction Resistance (Equivalent Flat Plate) • RR: Residual Resistance
RT = RF +RR
8/9/11
16
RESISTANCE
• การคํานวณประมาณค่าแรงต้านทางการเคลื่อนที่ • จากสมการ และ
• สามารถสรุปได้ว่า
• Froude ได้ทําการทดลอง และสรุปไว้ว่า RR ขึ้นอยู่กับ Fn เท่านั้น และมีค่าเท่ากันทั้งในเรือจริง และในโมเดล ดังนั้นจึงทําให้
RT = RF +RR R= 12C!V 2S
CT =CF +CR
CRs =CRm
RESISTANCE
• การคํานวณประมาณค่าแรงต้านทางการเคลื่อนที่ • ITTC Expression: ตั้งสมมติฐานไว้ว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะทําให้ Rn และ Fn มีค่าเท่ากัน โดยที่เรือ และโมเดลมีขนาดไม่เท่ากัน
CTm =CFm +CRm
CTs =CFs +CRs
CF =0.075
log10 Rn ! 2( )2
CTs =CFs + CTm !CFm( )
CRs =CRm
8/9/11
17
RESISTANCE
• การคํานวณประมาณค่าแรงต้านทางการเคลื่อนที่ • พารามิเตอร์อื่นๆ ที่ใช้ในการคํานวณ • Rn: Reynolds Number
• Fn: Froude Number
• λ: Scale
Rn =VL!
Fn =VgL
Ls = !Lm Vs = !Vm Ss = ! 2Sm
RESISTANCE
• การคํานวณประมาณค่าแรงต้านทางการเคลื่อนที่ • Hugues Method: เป็นสมมติฐานที่นิยมใช้มากที่สุดในปัจจุบัน โดย
Hugues (1950s) • สมมติฐานของ Hugues กล่าวไว้ว่า
• โดยที:่ • RT: Total Resistance • RV: Viscous Resistance • RW: Wave Making Resistance
RT = RV +RW
8/9/11
18
RESISTANCE
• การคํานวณประมาณค่าแรงต้านทางการเคลื่อนที่ • และในทํานองเดียงกัน
• Hugues ได้นําเสนอพารามิเตอร์อีกหนึ่งตัว คือ Form Factor (r) ซึ่งมีค่าเท่ากันทั้งในโมเดล และในเรือจริง และสรุปได้ว่า
• และ สมมติฐานของ Hugues:
CT =CV +CW
CWs =CWm
CV = r !CF
RESISTANCE
• การคํานวณประมาณค่าแรงต้านทางการเคลื่อนที่
CTm =CVm +CWm
CTs =CVs +CWs
CTs =CTm +r ! CFs "CFm( )CWs =CWm
CV = r !CF