ฉบับที่ ๒๖ ประจำ�เดือนมีน�คม ๒๕๕๔

กิจกรรม...จ๊ะจ๋าแจกฟรีไม่คิดเงิน

อัสลามมุอลัยกุม วาเราะห์มาตุ้ลลอฮฺ วาบารากาตุฮฺ

ขอกล่าวสลามและสวัสดีทักทายพี่ๆน้องๆชาวอินซานียะห์ทุกๆท่าน เจอกันเป็น

ประจำาบนหน้านิตยสารนาซิเลอเมาะ นิตยสารของชมรมนักศึกษาไทยอินซานียะห์ที่

จะนำาสาระและอัพเดทเรื่องราวความเป็นไปในชมรมฯและมหาวิทยาลัยอินซานียะห์

ของเรามาให้ทราบโดยถ้วนหน้ากัน ๑ ปีกำาลังจะผ่านไป หากจะมองว่ามันใวมันก็ใว

แต่หากจะมองว่ามันช้ามันก็ช้า แล้วแต่ความคิดและความรู้สึกของแต่ละคน เพราะหาก

เปรียบว่าคนเราเป็นสีมันก็คงจะเป็นสีสันที่หลากหลายแตกต่างกันไป แต่สิ่งที่เราควร

จะมองหาไม่ใช่ว่าเราจะต้องไปอยู่กับคนที่มีสีเดียวกับเราหรือใกล้เคียงกับเรา แต่เรา

ควรจะคิดว่าทำาอย่างไรถึงจะอยู่รวมกับสีอื่นได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรต่างหาก

ช่วงนี้บรรยากาศทั่วโลกเป็นไปอย่างเศร้าเนื่องจากเหตุการณ์ซึนามิเข้าถล่มประเทศ

ญี่ปุ่นเมื่อหลายวันก่อนทำาให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายนับพันและอาจจะทะลุถึงหลัก

หมื่นแล้วก็เป็นได้ ดูเถิดพี่น้อง แม้แต่ประเทศที่มีความล้ำาหน้าในด้านเทคโนโลยียัง

มิอาจรอดพ้นจากภัยพิบัติจากธรรมชาติได้ นี่อาจเป็นเพียงหนึ่งในบรรดาหลายๆบท

ทดสอบจากอัลลอฮ์ที่แสดงให้มุอ์มินอย่างพวกเราได้รู้ว่าพระองค์ทรงมีอานุภาพยิ่ง

ใหญ่เพียงใด

ระหว่างกำาลังพยายามปั่นนาซิเลอเมาะฉบับนี้ได้ยินเสียงฝนตกพรำาๆอยู่นอกบ้าน

ทำาให้คิดว่าคงออกไปไหนไม่ได้ตอนนี้ ช่วงนี้ฝนตกบ้างแดดออกบ้างอากาศแปรปรวน

ไม่ปกติเหมือนก่อน

ก่อนจบนี้ขอฝากพี่น้องให้ดูแลตัวเองและคนรอบข้างให้ดีอย่าป่วยกันก่อนล่ะ เพราะ

เวลาสอบใกล้เข้ามาแล้ว นับๆแล้วก็ไม่ถึงเดือน รักษาสุขภาพให้แข็งแรงเมื่อถึงเวลา

สอบนะครับ

และสุดท้ายของสุดท้ายพวกเราคณะผู้จัดทำานาซิเลอเมาะขอกล่าวขอบคุณจากใจ

สำาหรับพี่น้องทุกท่านที่ติดตามนาซิเลอเมาะของพวกเรามาจนถึงทุกวันนี้ และขออภัย

หากสิ่งที่พวกเราเขียนไปไม่ถูกใจทุกท่าน หวังว่าทุกท่านจะอภัยและช่วยตักเตือนพวก

เรา

oบ ก o

...ขอบ่น

NASILEMAK 1

กองบรรณาธิการนาซิเลอเมาะ

NASILEMAK 2

ท่านอะนัส อิบนุ มาลิก (รด.) ได้เล่าว่า : อบูตอลฮะห์ ได้มาสู่ขอท่านหญิงอุมมุ ซุลัยม์ (รด.) ซึ่ง

อบูตอลฮะห์ในเวลานั้นยังมิได้เข้ารับอิสลาม

ท่านหญิงจึงกล่าวว่า “แท้จริง ไม่เป็นการบังควร ที่ฉันจะทำาการสมรสกับชายผู้ตั้งภาคี โอ้ อะบา

ตอลฮะห์! ท่านมิทราบดอกหรือว่า บรรดาเทพเจ้าที่ท่านสักการะนั้นทาสของตระกูลนั้นๆ เป็น

ผู้แกะสลักปั้นมันขึ้นมา และแท้จริงถ้าหากว่าพวกท่านจุดไฟสุมเจว็ดและรูปปั้นเหล่านั้นแล้วไซร้

แน่นอนมันย่อมมอดไหม้”

ท่านอะนัส (รด.) เล่าต่อว่า : เมื่ออบูตอลฮะห์ ถูกปฏิเสธดังนั้นเขาจึงจากไปโดยในใจของเขามี

สิ่งที่ต้องครุ่นคิดจากคำาพูดของท่านหญิงอุมมุ ซุลัยม์ (รด.)

ต่อมาภายหลังเขาก็ได้มาหานางอีกคราและกล่าวว่า : สิ่งที่เธอได้เสนอต่อฉันนั้น ฉันน้อมรับแต่

โดยดี (ในที่สุด อบูตอลฮะห์ก็เข้ารับอิสลาม) ท่านอะนัส (รด.) กล่าวว่า

: นางไม่ได้มีสินสมรสอันใดเลยนอกจากการเข้ารับอิสลาม (ของอบีตอลฮะห์)

(คัดจากตะบะกอตอิบนิซะอ์ดฺ(8/426/427)

และท่านอิบนุฮะญัร ได้ระบุไว้ใน “อัลอิซอบะห์” (8/243) และสายรายงานนี้ถูกต้อง)

อิสลามคือสินสมรส

NASILEMAK 3

ศรัทธาชนที่รัก

นอกจากเราทุกคนต้องดูแลสุขภาพร่างกายของเราให้แข็งแรงแล้ว เรายังต้องให้ความสำาคัญและเอาใจใส่ต่อสุขภาพหัวใจของเราด้วย มีโรคร้าย 3 โรคซึ่งเราในฐานะบ่าวผู้ศรัทธาจะต้อง

เฝ้าระวังอย่าให้มันแพร่เชื้อสู่หัวใจของเราทั้งหลายเลย โรคร้ายทั้งสามนี้คือ การโอ้อวด การหลงตน และการยโสโอหัง สำาหรับวันนี้ใคร่ขออธิบายเพียงหนึ่งโรคเท่านั้น นั่นคือ “การโอ้อวด”“การโอ้อวด” ถูกนำามาใช้ในความหมายว่า “การกระทำาการสักการะต่ออัลลอฮ์อย่างเปิดเผย โดยมีเจตนาให้ผู้อื่นเห็น เพื่อจะได้ยกย่องสรรเสริญตน”ท่านชัยค์ อบูบักร ญาบิรฺ อัลญะซาอิรีย์กล่าวไว้ว่า “มุสลิมย่อมไม่โอ้อวด เพราะมุสลิมเชื่อว่ามันเป็นสาขาหนึ่งของการกลับกลอกและการต้ังภาคี มุสลิมผู้ศรัทธาที่ยึดม่ันในอัลลอฮ์(ซบ.)ย่อมปฏิเสธมัน เพราะเขาตระหนักดีว่า อัลลอฮ์และรอซุล(ซล.)รังเกียจและประณามพฤติกรรมเช่นนี้ ท่านรอซูล(ซล.)กล่าวใว้ว่า“แน่นอน สิ่งที่ฉันเกรงว่ามันจะประสบแก่พวกท่านยิ่งนักคือ การตั้งภาคีเล็ก บรรดาซอฮาบะฮ์ถามว่า การต้ังภาคีเล็กคืออะไร ? ท่านร่อซูลกล่าวว่า “มันคือการโอ้อวดในวันกิยามะฮ์เมื่อตอนที่พระองค์ตอบแทนผลรางวัลแก่มนุษย์ตามเนื้องานของพวกเขา อัลลอฮ์จะทรงตรัสกับพวกเขา ( หมายถึงบรรดาผู้ท่ีโอ้อวด ) ว่า เจ้าทั้งหลายจงไปยังบรรดาผู้ที่พวกเจ้าเคยโอ้อวดต่อพวกเขาเถิด

และจงมองดูเถิดว่า มีรางวัลตอบแทนที่ดีงามใด ๆ ณ พวกเขาให้แก่พวกเจ้าบ้างหรือไม่ ?( แน่นอน ย่อมไม่มีรางวัลใด ๆ เลย ) ”

เราจะสร้างภูมิคุ้มกันอย่างไร

1. สำานึกถึงหลักคุณธรรมเสมอ “ท่านต้องสักการะอัลลอฮ์ประหนึ่งท่านเห็นพระองค์ หากท่านมิได้แลเห็นพระองค์ กระนั้นแน่นอนพระองค์ย่อมทรงแลเห็นท่าน” 2. ตระหนักเสมอว่า อัลลอฮ์ทรงรอบรู้ ทรงแลเห็น ทรงได้ยิน ถึงแม้ว่า ผู้คนทั่วไปอาจจะไม่รู้ ไม่เห็น และไม่ได้ยินก็ตาม3. อ่าน ท่องจำา และทบทวนอัลกุรฺอานพร้อมศึกษาความหมายเป็นประจำา เพราะมารร้ายย่อมไม่ข้องแวะหรือชักนำาผู้ที่หัวใจประจำาอยู่กับอัลกุรฺอานไปสู่สิ่งเลวร้ายเป็นแน่แท้4. รำาลึกถึงความตาย การพิพากษา และการตอบแทนความดีและความชั่วในวันกิยามะฮ์ให้มาก 5. วิงวอนดุอาอฺต่ออัลลอฮ์เสมอ ให้พระองค์ปกป้องหัวใจของเราให้บริสุทธิ์ ปราศจากการโอ้อวดและยืนหยัดในศาสนาของพระองค์เรื่อยไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งดุอาอฺที่มีตัวบทจากอัลกุรฺอานและอัลหะดีษ

การโอ้อวดโรคร้ายที่ต้องระวัง

ตุรอบุ้ลอัสวัด

NASILEMAK 4

“โอ้อัลลอฮ์ ได้โปรดทำาให้หัวใจของพวกเรายืนหยัดอยู่บนศาสนาอิสลาม ได้โปรดทำาให้อีหม่านของ

พวกเราตราตรึงอยู่ในก้นบึ้งแห่งหัวใจของพวกเรา และได้โปรดประทานความรักอย่างสมบูรณ์ที่มีต่อ

ท่านรอซู้ล(ซล.) เป็นริสกีแก่พวกเราด้วยเถิด”

คงมาถึงแล้วสินะ วันที่พวกเราใกล้จะจากกัน วันที่พี่ๆของเราจะได้สำาเร็จทางการศึกษาในระดับหนึ่ง

แต่ชีวิตทางการศึกษาของเรายังคงต้องดำาเนินต่อไปจนหมดลมหายใจ จริงอยู่ที่มีคนกล่าวว่า “คลื่นลูก

ใหม่ย่อมมาแทนคลื่นลูกเก่า”

แต่เชื่อมั๊ย? คลื่นลูกเก่านี่แหละเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้น น่าเสียดายที่เวลาของเรามีน้อยเหลือ

เกิน แต่ขอสรรเสริญต่ออัลลอฮ์(ซบ.) ที่ทรงกำาหนดให้เราได้รู้จักกันและได้เป็นพี่น้องร่วมสายเลือดแห่ง

อิสลามเหมือนกัน

แต่ก่อนจากกัน ขอฝากคำาสั่งเสียของรอซูล(ซล.) ก่อนที่ท่านจะจากโลกดุนยานี้ไปมีใจความว่า

ท่านอานัสบินมาลิกกล่าวว่า “เมื่อวิญญาณของท่านศาสดาเลื่อนมาอยู่ที่หน้าอก ท่านรอซูลกล่าว

ว่า ฉันขอเตือนท่านทั้งหลายในเรื่องละหมาดและสิ่งต่างๆที่ท่านครอบครอง ท่านอาลี(รด.) กล่าว

ว่า ฉันได้ยินท่านพูดอย่างแผ่วเบาว่า อุมมาตีย์ อุมมาตีย์(ประชาชาติของฉัน ประชาชาติของฉัน)”

จงย ืนหย ัดในศร ัทธาต ่อพระผ ู ้ เป ็นเจ ้า

จงย ึดแนวทางศาสดาเป ็นว ิถ ีช ีว ิต

จงสถ ิตย ์ในความเคารพต่อบ ิดามารดา

จงเช ื ่อฟ ังวาจาของคร ูบาอาจารย ์

จงน ำาความร ู ้ท ี ่ ได ้ร ับไปปฏิบ ัต ิ

จงปฏ ิว ัต ิส ังคมส ู ่อ ิสลาม

จงประณามในส ิ ่งอธรรม

และจงย ึดธรรมเป ็นท ี ่ต ั ้ ง

นักเดินทาง

ขอให้พี่ๆทุกคนได้ประสบคว�มสำ�เร็จในชีวิต

ทุกๆอย่�ง ไปดีๆนะ พวกเร�เป็นห่วง

พี่น้องที่รักทุกท่านทราบรึไม่ว่าหากโลกนี้จะมีใครสักคนที่อยู่อย่างตลอดกาล แน่นอนเขาคนนั้นคือศาสดามุฮัมหมัด(ซล.)

การจากกันเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเราจากกันเพื่อที่จะได้พบกันใหม่ แต่ก็รู้สึกใจหายทุกครั้งที่ต้องจากกันทั้งๆที่เรายังคงรักกัน

ในอิสลามเราก็มีการกล่าวถึงโรคนี้เช่นกัน โดยท่านอิบนิกอยยิม โดยเรียกว่าเป็นโรคหลงใหลงมงาย คือเกิดความรักความต้องการในบุคคลหนึ่ง แล้วไม่สมปรารถนา ทำาให้เกิดอาการต่างๆ นานา อาการนั้นได้แก่ ซึมเศร้า ไม่รื่นเริง หมดความสนใจใยดีในชีวิต หมดความหวังในชีวิต ไม่พบทางออกอันใด

มักจะนั่งๆนอนๆอยู่เฉยๆ บางครั้งก็ ร้องไห้ร้องห่มได้ทั้งวัน สาเหตุที่เกิดโรคนี้ขึ้นมาก็เพราะมันเป็นความดึงดูดกันระหว่าง เพศที่เป็นคู่กัน ซึ่งเป็นสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้านั้น ได้กำาหนดมาแล้วตั้งแต่แรก ดังที่พระอัลลอฮฺซุบฮาฯได้ทรงกล่าวไว้ว่า

“พระองค์คือผู้ทรงสร้างพวกท่านขึ้นมาจากชีวิตเดียว และด้วยชีวิตเดียวนั้นพระองค์ได้สร้างคู่ของมันขึ้นมา เพื่อที่จะได้อยู่ ด้วยกันอย่างมีความสุข”

อัลกุรอาน ซูเราะฮฺ อัลอะอ์รอฟ อายะฮฺที่ 189 (7:189)

วิธีการรักษาโรคอกหักนั้น วิธีที่ได้ผลดีที่สุดก็คือ ทำาให้เขาสมหวังในสิ่งนั้นถ้าทำาได้ แต่วิธีการนี้แม้จะได้ผลที่ดีที่สุด แต่มักจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นวิธีการต่อไปก็คือสอนให้เขาทำาใจหรือบังคับจิตใจตัวเอง ให้คิดในแนวทางที่ ถูกต้องต่อไป แนวทางนั้นได้แก่

1.เพิ่มความรักในอัลลอฮฺ (ซบ.) ขึ้นมาแทนที่ คนที่เป็นโรคอกหักนั้น มักจะไม่มีความรักในพระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮาฯ หรือมีอยู่น้อยเกินไป ดังนั้นเมื่อเพิ่มความรักในรูปกายอื่นๆก็จะลดลงเอง ดังเช่นที่พระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮาฯ ได้กล่าวไว้เกี่ยวกับท่านนบียูซุฟ ความว่า

NASILEMAK 5

ใครเป็น “โรคอกหัก”ยกมือขึ้น

NASILEMAK 6

“เช่นนี้แหละ ที่เราได้ทำาให้สิ่งชั่วร้ายต่างๆและความเสื่อมเสียจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ ผิดๆนั้น หลุดพ้นไปจากเขา แท้จริงเขานั้นเป็นหนึ่งจากบรรดาบ่าวที่มี

จิตใจบริสุทธิ์ของเรา”อัลกุรอาน ซูเราะฮฺญูซุฟ อายะฮฺที่24 (12:24)

2. แต่ถ้าคู่กันแล้ว ก็จะไม่มีใครสามารถมาแยกจากกันได้ ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุด คือ การมอบความต่ออัลลอฮฺและทำาหน้าที่บ่าวของพระองค์ให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง การพยายามกระทำาในสิ่งที่อัลลอฮฺไม่ทรง อนุญาตนั้นเป็นสิ่งที่บ่าวของอัลลอฮฺ จะต้องห่างไกลมันออกไปและคิดว่ามันเป็นสิ่งต้องห้ามที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้

3.ถ้ายังไม่ได้ผล ก็ขอให้เขานึกถึงความน่าเกลียดของสิ่งที่เขารักดูบ้าง เขาจะพบว่าการคิดเช่นนี้จะช่วยลดความดีงามที่เขามองเห็นจากคนที่เขารัก และให้เขาถามเพื่อนบ้าน ของเขาในสิ่งที่พวกเหล่านั้น อาจจะปกปิดไว้เกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ดีของเขา

4.ถ้ายังไม่ได้ผล เขาก็จะต้องกลับไปหาพระผู้เป็นเจ้าผู้ที่จะช่วยเขาเสมอ เมื่อเขาได้ร้องขอ และจะต้องนำาตัวเขาเข้าไปสู่เบื้องหน้าของ พระองค์ ขอความช่วยเหลือจากพระองค์ด้วยความสุภาพและถ่อมตัว เมื่อใดก็ตามที่เขาได้ทำาดังนี้ แล้วประตูแห่งความสำาเร็จย่อมเปิดให้กับเขา

เหล่านี้แหละคือวิธีการแก้ไขโรคอกหักในอิสลามและสิ่งสำาคัญที่จะป้องกันโรคอกหักได้ก่อนที่มันจะเกิดก็คือ เราจะต้องมีความรักใน พระผู้เป็นเจ้าและในศาสนาของเราให้เต็มเปี่ยมอยู่ใน หัวใจก่อน การเติมเต็มเช่นนี้จะทำาให้ความรักที่จะมีสิ่งอื่นที่จะเกิดขึ้นภายหลังเป็น เพียงความรักเล็กๆ ที่ไม่สามารถจะทำาอันตรายต่อหัวใจเราได้อีก เท่านี้เราก็จะปลอดภัยจากโรคอกหักแล้วค่ะ

NASILEMAK 7

เกร็ดความรู้ที่เกี่ยวกับอัลกุรอาน1. คัมภีร์อัลกุรอานเริ่ม

ประทานลงมาแก่ท่านนบีมุฮำามัด

(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)

เป็นครั้งแรกในเดือนร่อมาฎอน ปีที่ท่านมีอายุได้ 40 ปี และประทานลงเรื่อยมาจนถึงวันที่ 9 ซุ้ลฮิจญะฮฺ ปีฮ.ศ.ที่

10 อายุขัยของท่านนบีได้ 63 ปี นั่นหมายความว่า อัลกุรอานถูกประทานลงมาตลอดระยะเวลา 22 ปี กับอีก 3

เดือน

2. อายะฮฺ (โองการ) ของอัลกุรอานชุดแรกถูกประทานลงมาแกท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ในถ้ำาฮิ

รออฺ ภูเขาอันนูร (ภูผารัศมี) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับนครมักกะฮฺ, ในเดือนร่อมาฎอน 13 ปีก่อนการอพยพ (ฮิจเราะฮฺ)

ตรงกับเดือนกรกฎาคม ปีคศ.610

3. สิ่งแรกที่ถูกประทานลงมาจากคัมภีร์อัลกุรอาน คือ โองการที่ 1-5 จากบทอัลอะลัก

4. จำานวนบท (ซูเราะฮฺ) ของคัมภีร์อัลกุรอานมีทั้งหมด 114 บท เป็นบทมักกียะฮฺ 86 บท และมะดะนียะฮฺ 28 บท

5. จำานวนอายะฮฺ (โองการ) มีทั้งหมด 6,236 อายะฮฺ

6. จำานวนภาค (ญุซฺอ์) มีทั้งหมด 30 ภาค แต่ละภาคมี 2 ฮิซฺบ์ รวมมี 60 ฮิซฺบ์, แต่ละฮิซฺบ์ แบ่งเป็น 4 รุบอ์ รวม

มี 240 รุบอฺ

7. บทที่ยาวที่สุดของคัมภีร์อัลกุรอาน คือ อัลบะกอเราะฮฺ มีจำานวน 286 อายะฮฺ, มีคำาทั้งหมด 6,121 คำา, มี

อักษรทั้งหมด 25,000 อักษร, บทนี้กินเนื้อความถึง 2 ภาคครึ่งจากอัลกุรอาน

8. บทที่สั้นที่สุดในคัมภีร์อัลกุรอาน คือ บทอัลเกาซัร มีจำานวน 3 อายะฮฺ, มีคำาทั้งหมด 10 คำา, มีอักษร 42 อักษร

9. โองการ (อายะฮฺ) ที่ยาวที่สุดในคัมภีร์อัลกุรอาน คือ อายะฮฺอัดดัยน์ หรือ อัลมุดายะนะฮฺ, โองการที่ 282 ใน

บทอัลบะกอเราะฮฺ

10. โองการ (อายะฮฺ) ที่สั้นที่สุดในคัมภีร์อัลกุรอาน คือ วัฎฎุฮา ในบทอัฎฎุฮา, วัลฟัจร์ ในบทอัลฟัจร์ และ

วัลอัซรฺ ในบทอัลอัซรฺ

11. โองการ (อายะฮฺ) ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคัมภีร์อัลกุรอาน หรือ นายของโองการอัลกุรอาน คือ โองการอัลกุรซีย์

ในบทอัลบะกอเราะฮฺ

12. บท (ซูเราะฮฺ) ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคัมภีร์อัลกุรอาน คือ บทอัลฟาติฮะฮฺ

13. บทที่ยาวมี 7 บท คือ อัลบะกอเราะฮฺ, อาลิ อิมรอน, อันนิซาอฺ, อัลมาอิดะฮฺ, อัลอะอฺร๊อฟ, อัลอันอาม และยู

นุส

14. บท (ซูเราะฮฺ) ที่เท่ากับ 1 ใน 3 ของอัลกุรอ่านคือ บทอัลอิคลาศ (กุลฮุวัลลอฮฺ)

15. บทที่ไม่มีบิสมิลลาฮฺ ในตอนเริ่มบท คือ บทอัตเตาบะฮฺ

16. บทที่มีการระบุ บิสมิลลาฮฺ ไว้ถึง 2 ครั้งคือ บทอันนัมลฺ

17. คำาที่ถูกระบุมากที่สุดในคัมภีร์อัลกุรอาน คือ คำาว่าอัลลอฮฺถูกระบุไว้ถึง 2,697 ครั้ง

18. นามของศาสดาที่ถูกระบุเอาไว้มากที่สุดในคัมภีร์อัลกุรอาน คือ มูซา (อ.ล.) มีระบุไว้ถึง 136 ครั้ง

19. บทที่มีคำาว่า อัลลอฮฺ ถูกระบุไว้ในทุกโองการของบทนั้น คือ บทอัลมุญาดะละฮฺ

NASILEMAK 8

20. บรรดาบทที่ถูกเรียกชื่อด้วยนามของบรรดาศาสดา (อ.ล.) คือ บทยูนุส, ฮูด, ยูซุฟ, อิบรอฮีม, มุฮำามัด และ

นูฮฺ

21. บรรดาบทที่ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ระบุว่า “ผู้ใดยินดีที่จะมองดูวันกิยามะฮฺเหมือนเห็นกับตา

เขาจงอ่านมันเถิด” คือ บทอัตตักวีร, อัลอิมฟิฏ๊อร, อัลอินชิกอก ทั้งนี้เนื่องจากในเนื้อความของบทเหล่านี้มีการ

ระบุถึงความน่าสะพรึงกลัวของวันกิยามะฮฺและบรรดาเหตุการณ์ที่จะบังเกิดขึ้น

22. บทที่ท่านอิหม่ามอัชชาฟิอีย์ (ร.ฮ.) ได้ระบุว่า : “หากมาตรแม้นมนุษย์ได้พินิจพิเคราะห์บทนี้แล้วไซร้ ย่อม

เป็นการเพียงพอแล้ว” คือ บทอัลอัศรฺ

23. บรรดาบทซึ่งท่านศาสดา (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้ระบุว่า เป็นบทที่ทำาให้ท่านต้องผมหงอก คือ บทฮูด

อัลวากิอะฮฺ, อัลมุรสะลาต, อันนะบะอฺ และอัตตักวีร

24. บทที่เริ่มต้นด้วยการระบุถึงผลไม้ 2 ชนิด คือ บทอัตตีน (มะเดื่อ-มะกอก)

25. บทที่ลงท้ายด้วยการระบุถึงเวลาละหมาด 1 ใน 5 เวลา คือ บทอัลกอดร์ (ระบุถึงละหมาดอัลฟัจรฺ-ซุบฮฺ)

26. บทที่ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ระบุว่า : “ฉันรักที่ให้บทนั้นอยู่ในหัวใจของผู้คนทุกคนจาก

ประชาชาติของฉัน” คือ บทยาซีน

27. ในซูเราะฮฺ (บท) อัลหะดีด มีอายะฮฺ (โองการ) หนึ่งที่ประเสริฐกว่าพันโองการ คือ อายะฮฺที่ 3

28. เรื่องเล่าของศาสดาที่ถูกระบุมากที่สุดในคัมภีร์อัลกุรอาน คือ เรื่องราวของท่านศาสดามูซา (อ.ล.) จนกระทั่ง

นักวิชาการบางท่านถึงกับกล่าวว่า : อัลกุรอานทั้งหมดเกือบเป็นของมูซา (อ.ล.)

29. เรื่องเล่าที่ยาวที่สุดในคัมภีร์อัลกุรอาน คือ เรื่องราวของท่านศาสดายูซุฟ (อ.ล.) ซึ่งถูกระบุเอาไว้ในบทยูซุฟ

30. ซูเราะฮฺซึ่งไม่ปรากฏมีอักษรมีมฺเลยคือ ซูเราะฮฺอัลเกาซัรฺ

31. อายะฮฺที่มีอักษรมีมฺ ( م ) ถึง 16 อักษร คือ อายะฮฺที่ 48 จากบทฮู๊ดฅ

32. ซูเราะฮฺที่มีจำานวนอายะฮฺมากกว่า 100 อายะฮฺ แต่ไม่มีการระบุถึงสวรรค์หรือนรกเลย คือ ซูเราะฮฺยูซุฟ

33. อายะฮฺที่รวมพยัญชนะภาษาอาหรับเอาไว้ทั้งหมดคือ อายะฮฺที่ 29 จากบทอัลฟัตฮฺ

34. ซูเราะฮฺที่ถูกเรียกชื่อด้วยชื่อสัตว์ คือ ซูเราะฮฺอัลบะกอเราะฮฺ (วัว), และซูเราะฮฺอัลฟีล (ช้าง)

35. ซูเราะฮฺที่ถูกเรียกชื่อด้วยชื่อของแมลง คือ ซูเราะฮฺอันนะฮฺล์ (ผึ้ง), อันนัมล์ (มด), และอัลอังกะบูต (แมงมุม)

36. ซูเราะฮฺที่ถูกเรียกชื่อด้วยชื่อของสตรี คือ ซูเราะฮฺมัรยัม (พระนางมาเรีย มารดาของศาสดาอีซา (อ.ล.) หรือ

พระเยซูคริสต์)

NASILEMAK 9

อัสลามมุอลัยกุม วาเราะห์มาตุลลอฮ์ วาบารอกาตุฮ์

อัลฮัมดุลิลลาฮ์ เราก็กลับมาพบกันอีกครั้งนะครับกับนาซิเลอเมาะ (ฉบับ สุดท้ายของปีการศึกษานี้) ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลงานของพวกเราที่ฝากใว้

บนหน้ากระดาษฉบับที่ผ่านๆมาจะถูกอกถูกใจพี่ๆน้องๆทุกท่านไม่มากก็ น้อยนะครับ สำาหรับนาซิเลอเมาะที่พวกท่านกำาลังถืออยู่นี้เป็นส่วนหนึ่งจาก

เจตนารมย์และความตั้งใจที่รุ่นพี่รุ่นก่อนๆตั้งใจทำาขึ้นเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ ข่าวสารต่างๆในมหาวิทยาลัยและภายในชมรมฯให้นักศึกษาไทยส่วนใหญ่ได้

รับรู้ เป็นการให้พวกเราค้นคว้าหาสิ่งดีๆที่มีประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นในด้านการ เรียน ความรู้ในแต่ละคณะ ตลอดจนความรู้ทั่วๆไปเพื่อพี่ๆน้องๆของเราจากรุ่น

สู่รุ่น ซึ่งจากวันนั้นจนถึงวันนี้ จากอิฐก้อนแรก ปัจจุบันอิฐก็เริ่มก่อตัวเรียงกันเพิ่ม มากขึ้น มากขึ้น จนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา เป็นสิ่งปลูกสร้างที่จะเกิดขึ้นที่นี่ต่อไป

เรื่อยๆ อินชาอัลลอฮ์....อิฐก้อนนี้อาจจะไม่ได้เป็นกำาแพงที่ใหญ่โต อาจจะไม่ค่อยมีคนเห็นคุณค่าและความสำาคัญ อิฐก้อนนี้อาจจะไม่ได้สวยงามเริดหรูเหมือนที่ทุก

คนตั้งใจ หรืออาจจะไม่ได้ดีมีพร้อมไปซะทุกสิ่งที่ทุกคนต้องการ แต่อิฐก้อนนี้ก็จะคอยทำาหน้าที่เชื่อมต่อไปเรื่อยๆระหว่างอิฐก้อนเก่าและอิฐก้อนใหม่โดยไม่มีเหนื่อย

สำาหรับสกู๊ปฉบับอยากจะพูดถึงบรรยากาศกิจกรรมที่ผ่านมา เริ่มกันที่งานแรกเลยนะครับ “บางคนคิดถึง คิดถึงบางคน” บรรยากาศภายใน

งานนั้นต้องขอบอกก่อนว่าดูเป็นกันเองมาก โดยให้ผู้ร่วมงานนั่งบนพื้นดูสนิทสนมสบายดี นี่คือในมุมมองส่วนตัวของผมนะ บรรยากาศภายในงานผู้ร่วมงานได้

พบกิจกรรมมากมายเช่นการบรรยายศาสนธรรมจากนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ต่อด้วยกิจกรรมโต้วาทีของน้องๆปี 1 ที่ขอบอกว่าเด็ดและเผ็ดร้อนมาก ต่างฝ่ายต่างัดลีลา

และทีเด็ดมาประชันกันชนิดที่ว่าไม่มีใครออมมือให้กันเลย และกิจกรรมนี้ยังเรียกเสียงฮาจากผู้ชมทุกท่านได้เป็นอย่างดี ต่อกันด้วยกิจกรรมจากนักศึกษาชั้นปีที่ 2

ครั้งนี้ที่มงาน Kacau Jung ออกโรงอีกแล้วแต่ครั้งนี้มาแปลกเป็นรายการท่องเที่ยว ส่วนกิจกรรมสุดท้ายของงาน “บางคนคิดถึง คิดถึงบางคน” เป็นแนวคิดดีๆข้อคิดงามๆจากรุ่นพี่ชั้นปีที่ ๔ ที่เคารพรัก...

และสำาหรับกิจกรรมต่อมาที่จัดติดต่อกันกับกิจกรรม “บางคนคิดถึง คิดถึงบางคน” คือกิจกรรม “กีฬาสีสัมพันธ์ ชมรมนักศึกษาไทยอินซานียะห์”

กิจกรรมดำาเนินไปอย่างสนุกสนานพี่น้องชาวไทยก็มาร่วมงานอย่างคึกคักถึงแม้ว่าช่วงเช้าจะดูเงียบเหงาไปบ้าง เนื่องจากมีเหตุขัดข้องบางประการ แต่ก็สามารถเรียก

เสียงฮือฮาปนรอยยิ้มได้อย่างมากมายทั้งในช่วงสายและช่วงบ่าย ก็เป็นการผ่อนคลายและคลายเครียดก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงสอบปลายภาคกันครับ และสีฟ้าฝ่ายชายและสีเขียว

ฝ่ายหญิงก็แสดงความสามรถทางด้านกีฬาจนได้ที่ 1 ไปทั้งคู่ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ทางชมรมฯก็ต้องขอบคุณนักศึกษาไทยทุกท่านที่ให้ความร่วมมือและร่วมสร้าง

บรรยากาศและสีสันที่สนุกๆในกิจกรรมกีฬาสีครั้งนี้...

ส่วนกิจกรรมสุดท้ายที่จะกล่าวถึง คือกิจกรรม Night Of UNity ที่จัดโดย Berdikir SelataN ณ เดวันใหญ่ บรรยากาศภายในงานดูยิ่งใหญ่

มาก มีการแสดงลิเกฮูลู และการขับร้องอนาชีด ต้องขอบอกว่าดูแล้วเพลิดเพลินดีครับ....

และกิจกรรมที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นแต่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้คืองานอำาลารุ่นพี่ ก็ขอฝากพี่ๆน้องๆชาวไทยในอินซานียะห์ทุกท่านมาร่วมงานกันเยอะๆและอย่าลืมบอกต่อกันด้วยนะครับ มาขอมะอัฟบรรดารุ่นพี่ที่ใกล้จะ

จบและมาเป็นกำาลังใจให้พวกพี่ๆก่อนจะเข้าสู่ช่วงสอบสุดท้ายกัน ในงานมีกิจกรรมมากมายแต่ต้องขออุบใว้ก่อนว่ามีอะไรบ้าง อยากรู้ต้องตามไปดูภายในงานกันครับ

ฉบับสุดท้ายของปีการศึกษานี้ ก็ต้องขอมะอัฟพี่ๆน้องๆด้วยนะครับ สำาหรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นภายในนิตยสารนาซิเลอเมาะทุกๆฉบับที่ผ่านมา และหวังเป็นอย่างยิ่ง

ว่า นาซิเลอเมาะ ในขบวนต่อไปปีการศึกษาหน้าจะได้เจอกันอีก

ใกล้สอบแล้วอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบสอบกันได้แล้วนะครับและขอให้สอบผ่านกันทุกท่าน ...อามีน

“กำาแพงที่ยิ่งใหญ่จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ถ้าไม่มีอิฐก้อนแรก”

แล้วพบกันใหม่กับนาซิเลอเมาะฉบับเปิดเทอมนะครับ

NASILEMAK 10SCOOP

อัสลามมุอลัยกุม วาเราะห์มาตุลลอฮ์ วาบารอกาตุฮ์

อัลฮัมดุลิลลาฮ์ เราก็กลับมาพบกันอีกครั้งนะครับกับนาซิเลอเมาะ (ฉบับ สุดท้ายของปีการศึกษานี้) ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลงานของพวกเราที่ฝากใว้

บนหน้ากระดาษฉบับที่ผ่านๆมาจะถูกอกถูกใจพี่ๆน้องๆทุกท่านไม่มากก็ น้อยนะครับ สำาหรับนาซิเลอเมาะที่พวกท่านกำาลังถืออยู่นี้เป็นส่วนหนึ่งจาก

เจตนารมย์และความตั้งใจที่รุ่นพี่รุ่นก่อนๆตั้งใจทำาขึ้นเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ ข่าวสารต่างๆในมหาวิทยาลัยและภายในชมรมฯให้นักศึกษาไทยส่วนใหญ่ได้

รับรู้ เป็นการให้พวกเราค้นคว้าหาสิ่งดีๆที่มีประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นในด้านการ เรียน ความรู้ในแต่ละคณะ ตลอดจนความรู้ทั่วๆไปเพื่อพี่ๆน้องๆของเราจากรุ่น

สู่รุ่น ซึ่งจากวันนั้นจนถึงวันนี้ จากอิฐก้อนแรก ปัจจุบันอิฐก็เริ่มก่อตัวเรียงกันเพิ่ม มากขึ้น มากขึ้น จนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา เป็นสิ่งปลูกสร้างที่จะเกิดขึ้นที่นี่ต่อไป

เรื่อยๆ อินชาอัลลอฮ์....อิฐก้อนนี้อาจจะไม่ได้เป็นกำาแพงที่ใหญ่โต อาจจะไม่ค่อยมีคนเห็นคุณค่าและความสำาคัญ อิฐก้อนนี้อาจจะไม่ได้สวยงามเริดหรูเหมือนที่ทุก

คนตั้งใจ หรืออาจจะไม่ได้ดีมีพร้อมไปซะทุกสิ่งที่ทุกคนต้องการ แต่อิฐก้อนนี้ก็จะคอยทำาหน้าที่เชื่อมต่อไปเรื่อยๆระหว่างอิฐก้อนเก่าและอิฐก้อนใหม่โดยไม่มีเหนื่อย

สำาหรับสกู๊ปฉบับอยากจะพูดถึงบรรยากาศกิจกรรมที่ผ่านมา เริ่มกันที่งานแรกเลยนะครับ “บางคนคิดถึง คิดถึงบางคน” บรรยากาศภายใน

งานนั้นต้องขอบอกก่อนว่าดูเป็นกันเองมาก โดยให้ผู้ร่วมงานนั่งบนพื้นดูสนิทสนมสบายดี นี่คือในมุมมองส่วนตัวของผมนะ บรรยากาศภายในงานผู้ร่วมงานได้

พบกิจกรรมมากมายเช่นการบรรยายศาสนธรรมจากนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ต่อด้วยกิจกรรมโต้วาทีของน้องๆปี 1 ที่ขอบอกว่าเด็ดและเผ็ดร้อนมาก ต่างฝ่ายต่างัดลีลา

และทีเด็ดมาประชันกันชนิดที่ว่าไม่มีใครออมมือให้กันเลย และกิจกรรมนี้ยังเรียกเสียงฮาจากผู้ชมทุกท่านได้เป็นอย่างดี ต่อกันด้วยกิจกรรมจากนักศึกษาชั้นปีที่ 2

ครั้งนี้ที่มงาน Kacau Jung ออกโรงอีกแล้วแต่ครั้งนี้มาแปลกเป็นรายการท่องเที่ยว ส่วนกิจกรรมสุดท้ายของงาน “บางคนคิดถึง คิดถึงบางคน” เป็นแนวคิดดีๆข้อคิดงามๆจากรุ่นพี่ชั้นปีที่ ๔ ที่เคารพรัก...

และสำาหรับกิจกรรมต่อมาที่จัดติดต่อกันกับกิจกรรม “บางคนคิดถึง คิดถึงบางคน” คือกิจกรรม “กีฬาสีสัมพันธ์ ชมรมนักศึกษาไทยอินซานียะห์”

กิจกรรมดำาเนินไปอย่างสนุกสนานพี่น้องชาวไทยก็มาร่วมงานอย่างคึกคักถึงแม้ว่าช่วงเช้าจะดูเงียบเหงาไปบ้าง เนื่องจากมีเหตุขัดข้องบางประการ แต่ก็สามารถเรียก

เสียงฮือฮาปนรอยยิ้มได้อย่างมากมายทั้งในช่วงสายและช่วงบ่าย ก็เป็นการผ่อนคลายและคลายเครียดก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงสอบปลายภาคกันครับ และสีฟ้าฝ่ายชายและสีเขียว

ฝ่ายหญิงก็แสดงความสามรถทางด้านกีฬาจนได้ที่ 1 ไปทั้งคู่ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ทางชมรมฯก็ต้องขอบคุณนักศึกษาไทยทุกท่านที่ให้ความร่วมมือและร่วมสร้าง

บรรยากาศและสีสันที่สนุกๆในกิจกรรมกีฬาสีครั้งนี้...

ส่วนกิจกรรมสุดท้ายที่จะกล่าวถึง คือกิจกรรม Night Of UNity ที่จัดโดย Berdikir SelataN ณ เดวันใหญ่ บรรยากาศภายในงานดูยิ่งใหญ่

มาก มีการแสดงลิเกฮูลู และการขับร้องอนาชีด ต้องขอบอกว่าดูแล้วเพลิดเพลินดีครับ....

และกิจกรรมที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นแต่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้คืองานอำาลารุ่นพี่ ก็ขอฝากพี่ๆน้องๆชาวไทยในอินซานียะห์ทุกท่านมาร่วมงานกันเยอะๆและอย่าลืมบอกต่อกันด้วยนะครับ มาขอมะอัฟบรรดารุ่นพี่ที่ใกล้จะ

จบและมาเป็นกำาลังใจให้พวกพี่ๆก่อนจะเข้าสู่ช่วงสอบสุดท้ายกัน ในงานมีกิจกรรมมากมายแต่ต้องขออุบใว้ก่อนว่ามีอะไรบ้าง อยากรู้ต้องตามไปดูภายในงานกันครับ

ฉบับสุดท้ายของปีการศึกษานี้ ก็ต้องขอมะอัฟพี่ๆน้องๆด้วยนะครับ สำาหรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นภายในนิตยสารนาซิเลอเมาะทุกๆฉบับที่ผ่านมา และหวังเป็นอย่างยิ่ง

ว่า นาซิเลอเมาะ ในขบวนต่อไปปีการศึกษาหน้าจะได้เจอกันอีก

ใกล้สอบแล้วอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบสอบกันได้แล้วนะครับและขอให้สอบผ่านกันทุกท่าน ...อามีน

“กำาแพงที่ยิ่งใหญ่จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ถ้าไม่มีอิฐก้อนแรก”

แล้วพบกันใหม่กับนาซิเลอเมาะฉบับเปิดเทอมนะครับ

ผู้คนมักชอบพูดว่าโลกเราคือสิ่งที่สวยงาม ที่ที่รวบรวมใว้ซึ่งสิ่งมีชีวิตต่างๆมากมาย แล้ว

ตอนนี้ล่ะ โลกของเรายังสวยงามเหมือนเดิมอยู่มั๊ย?

จากเหตุการณ์ต่างๆมากมายภัยพิบัติต่างๆที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ วันเดียวมีสามฤดูได้

เพียงในหนึ่งวัน คิดดูว่าโลกของเราคงจะแย่มากแค่ไหนแล้ว และคงอีกไม่นานดังที่

พระองค์ทรงตรัสใว้ชัดแจ้งวันสิ้นโลก วันที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะดับสูญ ภูเขาจะแตกสลาย

อย่างปลิวนุ่น ผู้คนจะกระจัดกระจาย แม่จะทิ้งลูก ซึ่งเราคงต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อ

รับกับวันนั้นแล้ว สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นบนโลกทุกวันนี้มันเป็นสิ่งเตือนใจพวกเรา มันเป็น

เวลาที่เราต้องย้อนกลับไปถามตัวเองว่า เราจะอยู่บนโลกใบนี้ได้อีกนานแค่ไหน วันหนึ่งที่

เราจะต้องกลับไปหาพระองค์อย่างแน่นอน แล้วความดีหรือความชั่วที่เราจะพาติดตัวไป

จากโลกดุนยานี้ จะอยู่อย่างทุกข์ทรมานหรือสุขสันในสุสานอันคับแคบ จะเป็นผู้ที่ได้รับ

ชัยชนะหรือผู้แพ้ในวันแห่งการตัดสิน และ ณ ที่พระองค์อัลลอฮ์ ดังคำาพูดของท่าน อาลี

บิน อบีฏอลิบที่กล่าวใว้ว่า

รู้ใว้เถิดว่าดุนยากำาลังถดถอย แต่อาคีเราะห์กำาลังมุ่งหน้ามา

ดั่งดุนยาและอาคีเราะห์ล้วนต่างมีทายาทสืบสกุล

ดังนั้นจงเป็นทายาทของอาคิเราะห์เถิด อย่าเป็นทายาทของดุนยาเลย

เพราะในวันนี้มีแต่การกระทำาไม่มีการคิดบัญชี

แต่สำาหรับพรุ่งนี้ มีแต่การคิดบัญชี ไม่มีการกระทำา

ท่านทั้งหลายอยู่ในทางผ่านของกลางวันและกลางคืนอยู่ในกำาหนดชีวิตที่น้อยลง การงาน

ล้วนถูกบันทึกและความตายกำาลังก้าวเข้ามาอย่างฉับพลัน ใครท่ีเพาะปลูกความดีก็ใกล้

แล้วที่เขาจะได้เกี่ยวสิ่งที่เขาปรารถนา

ใครที่เพาะปลูกความชั่วก็ใกล้แล้วที่เขาจะได้เก็บเกี่ยวความทุกข์ระทม ใครที่เพาะปลูกสิ่ง

ใดเขาย่อมจะได้รับสิ่งนั้น

ใครที่ล้าช้าเขาย่อมไม่มีทางล้ำาหน้าด้วยสิทธิพิเศษใดๆ

และใครที่ละโมบ เขาก็ย่อมไม่มีทางได้รับในสิ่งที่ไม่ได้ถูกลิขิตใว้ ดังนั้นคนที่ให้ในสิ่งที่

ดี อัลลอฮ์จะทรงตอบแทนให้กับเขา และคนที่ป้องกันตนจากสิ่งที่ไม่ดีพระองค์ก็จะทรง

ปกป้องรักษาเขา

NASILEMAK 11

วิธีการดูแลเส้นผม

1. เมื่อกลับมาถึงบ้านให้คุณเร่งทำาความสะอาดเส้นผม ด้วยการสระผมด้วย

แชมพูสระผมหรือผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมไปเลย

2. จำาเป็นอย่างยิ่งที่คุณอาจจะต้องใช้แชมพูสระผมที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา นั่นเป็นเพราะ

ว่าการที่คุณเดินตากฝนนั้น อาจจะมีเชื้อโรคปะปนมา และการที่คุณไม่ยอมสระผมในค่ำาคืน

นั้นเลยเส้นผมของคุณอาจเกิดอาการได้รับเชื้อราและรังแคได้ เพราะฉะนั้นให้สระผมหลังจาก

ที่คุณเพิ่งเดินตากฝน

3. ที่สำาคัญก็คือคุณไม่ควรนอน ในขณะที่เส้นผมยังเปียกน้ำาฝนอยู่

ช่วงนี้ฝนตกบ่อยๆนึกเป็นห่วงพี่น้องชาวไทยกลัวจะป่วยกัน วันนี้มีเคล็ดลับการดูแลตัวเองง่ายๆ มาฝากกัน

โดยเฉพาะในช่วงที่ฝนตกบ่อยๆ แบบนี้ ส่งผลให้ใครหลายคนเปียกฝนไปตามๆ กัน ขณะที่ปั่นจักรยานกลับ

บ้าน ฝนบังเอิญตกลงมาพอดี และบังเอิญคุณหาที่หลบฝนไม่ทัน หลายคนบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะเป็นพระเอก-

นางเอกMVสักหน่อย แต่ทำาไงได้ฝนบังเอิญตกลงมาพอดี ถ้ารอให้ฝนหยุดก็อาจจะถึงบ้านช้ากลับไปดูซีรีย์

เกาหลีที่ชอบไม่ทันพอดี ก็เลยมีบางครั้งที่ทำาให้เราจำาเป็นต้องเดินตากฝนโดยไม่ตั้งใจ ผลที่เกิดขึ้นนอกจาก

เสื้อผ้าจะเปียกชื้น และร่างกายของคุณหนาวเหน็บแล้ว ยังเป็นการเสี่ยงต่อการติดเชื้อ อันเป็นต้นเหตุของการ

เกิดโรคผิวหนังอีกด้วย

วิธีการดูแลรักษากรณีเดินลุยฝน 1. เริ่มต้นจากการทำาเสื้อผ้าให้แห้งสนิทโดยเร็ว

2. เมื่อกลับถึงบ้านให้คุณรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทันที เหตุผลก็คือการใส่เสื้อผ้าเปียกๆ ทำาให้เกิดการหมักหมม

และอาจกลายเป็นแหล่งเชื้อราโดยที่เราไม่รู้ตัวก็ได้ และอาจทำาให้คุณไม่สบายเป็นหวัด รวมไปถึงเป็นปอดบวม

ได้อีกด้วย

3. แน่นอนที่ถุงเท้ากับรองเท้าย่อมเปียกฝน เพราะฉะนั้นให้คุณถอดออกทันที และควรเร่งทำาให้แห้งแต่โดยเร็ว

4. เราควรเรียนรู้ว่าการปล่อยให้เท้าเปียกชื้นนานๆ ส่งผลให้เท้าซีด และอาจลอกเป็นขุย

ได้

5. คุณต้องเข้าใจว่าหากปล่อยให้เท้าชื้นนานๆ อาจจะทำาให้ติดเชื้อราได้ง่าย ทั้งนี้ โรคเชื้อ

ราที่พบบ่อยคือ ฮ่องกงฟุต โดยเฉพาะที่บริเวณซอกนิ้วเท้า

6. เมื่อกลับมาถึงบ้าน และเท้ายังเปียกชื้น อันเป็นผลมาจากการลุยน้ำาในซอย ให้คุณ

เร่งทำาความสะอาดที่เท้าด้วยการฟอกสบู่ จากนั้นก็ล้างด้วยน้ำาสะอาด ต่อมาก็เช็ดเท้าให้

แห้ง

7. การใช้แป้งฝุ่นทาที่เท้าหลังทำาความสะอาดจะช่วยให้เท้าสบายมากขึ้น

NASILEMAK 12

วิธีดูแลตัวเองเมื่อต้องเดินตากฝน

และที่สำาคัญเลยอย่าลืมดูแลเพื่อนๆของคุณด้วยล่ะข้อมูลจาก http://variety.mwake.com/story

NASILEMAK 13

นาฬิกาชีวิต

ในการดำาเนินชีวิตของเราทุกคน คงเกี่ยวข้องกับ

เวลา เวลาที่จึงมีส่วนสำาคัญกับชีวิตของเราอย่าง

มาก แต่เราเคยรู้ไหม ว่าระบบในร่างกายของเราก็มี

เวลาการทำางานเหมือนกัน ทุกๆวัน ร่างกายของคน

เราก็จะทำางานตามหน้าที่ ที่ถูกสร้างขึ้นมาตามกลไกของธรรมชาติ วันนี้ นาซิเลอเมาะมี

ตารางการทำางานของร่างกายมาให้ท่านผู้อ่านบริโภคกันนะคะ

01.00 น. – 03.00 น. เป็นเวลาของตับขอบอกเลยว่า . . . ทุกคนควรนอนหลับพักผ่อน

ให้เป็นประจำาในช่วงเวลานี้ให้ได้ เพราะตับจะหลั่งสาร มีราโทนิน ที่จะทำาให้หน้าอ่อน

กว่าวัย เห็นมั้ยละว่าสำาคัญแค่ไหน ที่สำาคัญห้ามกินเด็ดขาดในเวลานี้เพราะจะทำาให้ตับ

ต้องทำางานหนักและเสื่อมเร็ว

03.00 น. – 05.00 น. เป็นเวลาของปอด

สิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำาคือ ตื่นนอน ลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์

ซะหน่อย เขาบอกว่าถ้าตื่นนอนช่วงนี้เป็นประจำาจะทำาให้ผิวพรรณดี

05.00 น. – 7 .00 น. เป็นเวลาของลำาไส้ใหญ่

เพราะฉะนั้นควรขับถ่ายให้เป็นนิสัยทุกเช้า ถ้าคนไหนมีโรคประจำาตัวคือท้องผูก

กว่าจะถ่ายแต่ละทียากเย็นเหลือเกิน แนะนำาว่าให้ลองดื่มน้ำาผึ้งผสมมะนาว น้ำา 1 แก้ว +

น้ำาผึ้ง 1 ช้อน + น้ำามะนาว 4-5 ลูก

07.00 น. – 09.00 น. เป็นเวลาของกระเพาะอาหาร จึงควรกินอาหารเช้าในช่วงเวลานี้

ทุกวัน เพราะถ้าปล่อยให้ท้องว่าง กระเพาะอาหารจะอ่อนแอกลายเป็นคนตัดสินใจช้าขี้

กังวล ที่สำาคัญจะหน้าแก่เร็วกว่าไว น่ากลัวมากๆๆ

09.00 น. – 11.00 น. เป็นเวลาของม้าม

พูดน้อย กินน้อย และไม่นอนหลับ

11.00 น. – 13.00 น. เป็นช่วงเวลาที่หัวใจทำางานหนัก

ที่สุด

ควรทำาใจให้สบาย หลีกเลี่ยงสิ่งทึ่จะทำาให้เครียด

NASILEMAK 14

พยายามไม่ใช้ความคิดหนัก ถ้าต้องเครียดกับงานตรง

หน้ามากนักก็ผ่อนคลายซะบ้าง

13.00 น. – 15.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำาไส้เล็ก

งดกินอาหารทุกประเภทให้ลำาไส้เล็กได้พักผ่อน

15.00 น. – 17.00 น. เป็นเวลาของกระเพาะปัสสาวะ

ออกกำาลังกายหรืออบตัวให้เหงื่อออก อย่ากลั้น

ปัสสาวะ

17.00 น. – 19..00 น. เป็นเวลาของไต

อาบน้ำาทำาให้ร่างกายสดชื่น ไม่ควรออกกำาลัง

กายหนัก

19.00 น. – 21.00 น. เป็นเวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ

ควรหยุดทำางาน พักผ่อนทำาสมาธิ

21.00 น. – 23.00 น. เป็นเวลาของพลังงานรวม

ทำาให้ร่างกายอบอุ่นนอนหลับให้ร่างกายพักผ่อนเต็มที่

23.00 น. – 01.00 น. เป็นเวลาของถุงน้ำาดี

นอนหลับให้สนิท (ถ้าไม่หลับช่วงนี้มีโอกาสเกิดโรคมากมายและร่างกายจะทรุด

โทรมไว)

รู้อย่างนี้แล้ว ทุกคนก็น่าจะหันมาดูแลสุขภาพร่างกาย

ของเราบ้างน่ะค่ะ พักผ่อนร่างกายให้ถูกเวลา ร่างกาย

ของเราจะได้แข็งแรง ห่างไกลจากโรคภัยน่ะค่ะ

อิสลามมิใช่ศาสนาที่ครอบคลุมแค่เพียง

ในด้านอิบาดะห์เท่านั้น แต่อิสลามคือ

ศาสนาที่เป็นวิถีแห่งการดำาเนินชีวิตของมนุษย์และเป็นแบบอย่างในทุกๆ ด้านของการใช้ชีวิตของมนุษย์

รวมทั้งด้านการกีฬาเพราะอิสลามเป็นศาสนาที่ยึดความสำาคัญอย่างยิ่งเกี่ยวกับจิตใจ ร่างกาย และ

สติปัญญาเพื่อให้มนุษย์เกิดความยำาเกรงต่อพระองค์ให้สอดคล้องกับความสมบูรณ์ ความฉลาดและ

ระเบียบวินัย พร้อมด้วยจุดยืนที่มั่นคง พระองค์อัลลอฮฺต้องการให้บ่าวของพระองค์มีร่างกายที่แข็งแรง

สมบูรณ์ ปราศจากโรคภัยต่างๆ เพื่อจะได้เป็นตัวแทนของอัลลอฮฺในพิภพนี้โดยการเคารพกฎเกณฑ์ของ

พระองค์ และห่างไกลจากข้อห้ามต่างๆ ที่อัลลอฮฺได้ทรงห้ามไว้อย่างชัดแจ้ง หน้าที่ของมุสลิมนั้นอัลกุ

รอานระบุว่า

“พวกเจ้านั้นเป็นประชาชาติที่ดียิ่งซึ่งถูกให้อุบัติขึ้นสำาหรับมนุษย์ชาติ โดยที่พวกเจ้าใช้ให้ปฏิบัติสิ่งที่ชอบ

และห้ามปฏิบัติสิ่งที่มิชอบ และศรัทธาต่ออัลลอฮฺ”

อิสลามต้องการให้มวลมนุษย์ปฏิบัติตามหลักการและนำาอิสลามเป็นแบบอย่างในการดำาเนินชีวิตทุกๆ

ด้าน ดังนั้นกิจกรรมการกีฬาจึงเป็นอีกส่วนหนึ่งของอิบาดะห์ และอัลลอฮฺทรงยอมรับ ์ดังนั้นจำาเป็น

อย่างยิ่งสำาหรับเราที่จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเกี่ยวกับกิจกรรมการกีฬาดังต่อไปนี้

1. เราจะต้องตั้งเจตนาว่า การเล่นกีฬาของเรานั้นเพื่อให้ร่างกายมีความสมบูรณ์และได้รับความยินยอม

จากพระองค์อัลลอฮฺ

2. กิจกรรมการกีฬานั้นไม่ได้อยู่ในสถานที่ที่ต้องห้ามตามหลักการของอิสลามอัลลอฮฺทรงกำาหนดให้ใน

แต่ละคน มีความสามารถพิเศษ เราจะต้องใช้ความสามารถของเราให้กว้างขวางตามที่อัลลอฮฺได้ทรงให้

ไว้นั้นโดยถูกต้องกับหลักการหรือบทบัญญัติของศาสนาอิสลามดังนั้นจงใช้ความสามารถที่พระองค์ได้

ทรงให้ไว้นั้นเพื่อเชิญชวนมวลมนุษย์กลับสู่การใช้ชีวิตแบบอิสลามดังที่อัลลอฮฺได้ตรัสว่าความว่า

“และพวกเจ้าจงเตรียมไว้สำาหรับพวกเขา (พวกศัตรูที่คอยรุกราน) สิ่งที่พวกเจ้าสามารถ”

อัลมัรฮูม อับดุลเลาะฮ นาซีห์ อุลวาน ได้เขียนในหนังสือของท่านที่ชื่อว่า “การอบรมเลี้ยงดูเด็กใน

ทัศนะของศาสนาอิสลาม เล่มที่ 1” า ศาสนาอิสลามส่งเสริมให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับการว่ายนำ้า การยิงธนู

การขี่ม้า และอื่นๆมีหะดีษรายงานว่า ท่านรอซูลเคยอยู่กับศอฮาบะฮ์หลายๆ คนที่มีความรู้เกี่ยวกับการ

ยิงธนู และท่านได้ส่งเสริมบรรดาศอฮาบะฮ์ให้มีการยิงธนู โดยกล่าวว่า

“พวกเจ้าจงยิงธนูเถิด และฉันเองก็จะยิงธนูพร้อมๆ กับพวกเจ้า”

จากหะดีษที่ได้ยกมานั้นไม่ได้มีความหมายว่า ศาสนา

อนุมัติให้ประชาชาติมีการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมต่างๆ จนทำาให้ลืมภาระ

หน้าที่อื่นๆ พระองค์อัลลอฮฺทรงห้ามมุสลิมที่มีความสุขมากเกินไปกับการ

เล่นกีฬาจนกระทั่งลืมเวลาละหมาด หรือว่ามุสลิมที่เล่นกีฬาโดยไม่ได้

คำานึงการแต่งกายของการเล่นกีฬาว่าการแต่งกายนั้นสมควรหรือไม่ และ

NASILEMAK 15

อิสลามกับกีฬา

FAIR PLAY

NASILEMAK 16

ได้ปกปิดอวัยวะที่ศาสนาได้กำาหนดไว้เป็นอย่างดีหรือไม่ อิสลามต้องการให้ปกปิดอวัยวะต่างๆ ที่ยั่วยุ

ให้เกิดอารมณ์ต่อเพศตรงข้ามที่ไม่ใช่สามีภรรยากัน เพราะเป็นสิ่งที่จะสร้างความเสียหายให้แก่สองฝ่าย

การดูแลสุขภาพและการออกกำาลังกายเพื่อสุขภาพ หากไม่ได้มีเจตนาเพื่ออัลลอฮฺแล้ว อิสลามถือว่า

การกระทำาดังกล่าวเป็นการศูนย์เปล่าในอัลกุรอานได้ตรัสโดยมีความว่า

“เมื่อฉัน (มุฮัมมัด)มีการเจ็บป่วย พระองค์อัลลอฮฺเป็นผู้ที่ทำาให้หายจากความเจ็บป่วยนั้น”

ดังนั้น สมควรสำาหรับเราที่จะขอความช่วยเหลือจากพระองค์เพราะอัลลอฮฺเป็นผู้ยิ่งใหญ่และเป็นผู้ที่

ทรงให้กับผู้ที่ขอความช่วยเหลืออิสลามทรงสั่งให้บ่าวของพระองค์รักษาความเจ็บป่วยนั้นหลายๆ รูป

แบบ โดยการไปพบแพทย์ โดยการเล่นกีฬารับประทานอาหารที่ฮะลาล แม้ว่าความเจ็บป่วยนั้นมา

จากพระองค์ก็ตามด้วยเหตุนี้เราจะต้องขอบคุณต่ออัลลอฮฺและหวังที่จะได้รับผลคือ ความช่วยเหลือ

จากอัลลอฮฺผู้มาร่วมละหมาดที่มีเกียรติทั้งหลายเราต้องมีกิจกรรมกีฬาต่างๆ เพื่อความแข็งแรงและ

สมบูรณ์ของร่างกาย เพื่อให้สุขภาพสมบูรณ์ร่างกายแข็งแรงให้ถึงจุดมุ่งหมายในโลกนี้และโลกหน้า

เราอย่าลืมว่าอัลลอฮฺทรงมองการกระทำาของบ่าวของพระองค์ไม่ว่าจะดีหรือเลว (ชั่ว) มันจะได้รับผล

ตอบแทนอย่างแน่นอน

อินซานแปลว่ามนุษย์ มาจากคำาว่า นาซียา แปลว่าหลงลืม

มนุษย์ = หลงลืม

หลงลืมว่าใครสร้างเขามา หลงลืมว่าเกิดมาเพื่ออะไร อะไรคือหน้ที่ของตัวเอง ลืมว่าเรา

จะต้องกลับไปหาใคร หรือแม้กระทั่งลืมว่าใครคือพระเจ้า

พวกเราทุกคนเป็นอินซาน สิ่งที่ถูกสร้างโดยพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ พระเจ้ารู้ดีว่ามนุษย์จะ

หลงลืมมากแค่ไหน พระองค์จึงสร้างก้อนเนื้อก้อนหนึ่งที่มีชื่อว่า “หัวใจ” เนื้อก้อนนี้เป็น

สิ่งที่คอยเยียวยาความหลงลืมของมนุษย์ที่ดีที่สุด ถึงแม้ว่าสมองจะสามารถจดจำาข้อมูล

ได้มหาศาล เช่นเดียวสมองก็ลืมได้ง่าย แต่ถ้าเราจดจำาทุกอย่างด้วยหัวใจ เราก็จะไม่ลืม

และถ้าเราจดจำาอิสลามด้วยหัวใจที่รักมัน เราก็จะรู้ว่าอิสลามมีค่ามากที่สุดในชีวิตเรา

เพราะเราจดจำามันด้วยความผูกพันธ์และความรัก จดจำามันด้วยหัวใจที่รักมัน แล้วเรา

จะไม่มีวันลืม อินชาอัลลอฮ์

จงรักษาการหลงลืมด้วยหัวใจ

เล็กๆน้อยๆที่ไม่ควรมองข้าม

กาลครั้งหนึ่งมีชายคนหนึ่งซึ่งเป็นศัตรูต่ออิสลาม เขามีคำาถามอยู่

๓ ข้อซึ่งไม่มีใครตอบได้ ดังนั้นเขามักจะเยาะเย้ยอิสลามและมุสลิม

ต่อสาธารณชน อยู่มาวันหนึ่งเด็กน้อยคนหนึ่งอายุ ๑๐ ขวบ ได้มาพบ

และได้ยินชายผู้นั้นแผดเสียงดังลั่นกำาลังท้าทายบรรดามุสลิมบนท้อง

ถนนด้วยปัญหา ๓ ข้อนั้น เด็กน้อยยืนดูอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ตัดสินใจรับ

คาท้าของชายผู้นั้น “ฉันรับคาท้าของท่าน” ชายผู้นั้นหัวเราะเด็กน้อยและ

บรรดามุสลิมที่รายล้อมอยู่นั้น แล้วก็กล่าวว่า เจ้าเด็ก ๑๐ ขวบนี่หรึอ ที่

บังอาจมารับคำาท้าของข้า พวกท่านไม่มีใครแล้วหรือไง!

NASILEMAK 17

เด ็กน ้อย ๑๐ ขวบ สยบกา เฟรจอมอห ังการ

แต่ทว่าเด็กน้อยยังมีท่าทีสงบนิ่งเยือกเย็น หนูน้อยนี้ประสงค์ท้าชนชายผู้นั้น โดยหวังในความช่วยเหลือและทาง

นำาจากอัลลอฮฺ เขาต้องการให้เรื่องจบลงโดยให้ชายผู้นั้นยอมรับโดยดุษฎี ผู้คนทั้งเมือง ต่างพากันมามุงดูกัน

ล้อมเนินแห่งหนึ่ง ชายผู้นั้นก็ปืนขึ้นไปยืนบนยอดเนิน แล้วก็เปล่งเสียงถามคำาถามข้อแรกอย่างดังว่า ตอนนี้

พระเจ้าของเจ้ากำาลังทำาอะไร?” เด็กน้อยคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงขอให้ชายผู้นั้นลงมาจากเนิน แล้วขอขึ้นไปเพื่อตอบ

ชายผู้นั้นกล่าวว่า “อะไรกัน เจ้าต้องการให้ข้าลงไปรึ?” เด็กน้อยตอบว่า “ใช่แล้วครับ ถึงคราวที่ฉันต้องตอบ

มิใช่หรือ?” ชายผู้นั้นจึงลงมาแล้วเด็กน้อย ๑๐ ขวบก็ขึ้นไป และตอบว่า “อัลลอฮุอักบัร ขอพระองค์ทรงเป็น

พยานของฉันต่อหน้าหมู่ชนเหล่านี้ด้วยว่า พระองค์ทรงประสงค์พึ่งจะให้กาฟิรผู้นั้นลงไปอยู่ในระดับต่ำาและนำา

มุสลิมผู้หนึ่งขึ้นสู่ระดับที่สูงกว่า!” ฝูงชนที่รายล้อมอยู่นั้นก็ตะโกนอย่างดังว่า “ตักบีร! อัลลอฮุอักบัร” ชายผู้

นั้นอับอายขายหน้าเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังทำาใจดีสู้เสือถามคำาถามที่สองว่า “มีอะไรอยู่ก่อนหน้าพระเจ้าของเจ้า?”

เด็กน้อยคิดอีก สักพักหนึ่งจึงขอให้ชายผู้นั้นนับถอยหลัง ขอให้ท่านช่วยกรุณานับเลขถอยหลัง เริ่มจาก ๑๐

ด้วยเถอะครับ ชายผู้นั้นก็นับ ๑๐ , ๙, ๘, ๗, ๖, ๕, ๔, ๓, ๒, ๑, ๐

เด็กน้อยจึงถามว่า มีอะไรก่อนหน้า ๐ หรือเปล่าครับ?” ชาย ผู้นั้นตอบว่า ข้าไม่รู้ คงไม่มีอะไรมั้ง เด็กน้อยจึง

กล่าวว่า ถูกต้อง แน่นอนเหลือเกินว่าไม่มีอะไรอยู่ก่อนหน้าอัลลอฮฺ เพราะพระองค์คือผู้ทรงมีอยู่ตลอดกาล

ผู้ทรงสมบูรณ์ยิ่ง ฝูงชนที่รายล้อมอยู่ตะโกนอย่างดังอีกว่าตักบีร! อัลลอฮุอักบัร!!! มาบัดนี้ชายผู้นั้นเริ่ม

รู้สึกหมดท่าจริงๆ แต่ก็ยังถามคำาถามสุดท้ายอีกว่า “ทิศทางใดที่พระเจ้าของเจ้ากำาลังมองดูอยู่?” เด็กน้อยคิด

อยู่ครู่หนึ่งจึงขอเทียนไข ๑ อัน เมื่อได้แล้ว เด็กน้อยก็ส่งเทียนไขให้กับชายผู้นั้น และขอให้เขาจุดมัน ชายผู้นั้นก็จุด

เทียนจนมีเปลวไฟแล้วถามอย่างสงสัยว่า “นี่เจ้าจะพิสูจน์อะไร?” เด็กน้อยจึงถามว่า ท่านว่าแสงของเทียนไข มัน

ส่องแสงไปทิศใดครับ?” ชายผู้นั้นตอบว่า มันก็ส่องไปทุกทิศทางนั่นแหละ เด็กน้อยจึงกล่าวว่า “ท่านครับ ท่าน

ได้ตอบคำาถามของท่านแล้วล่ะครับ รัศมีของอัลลอฮฺ(นูร) มีในทุกทิศทางแหละครับ พระองค์ทรงเห็นทุกสิ่งทุก

อย่าง ทุกซอกทุกมุมในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้ในเวลาเดียวกัน ไม่มีที่แห่งหนใดในจักรวาลนี้จะเล็ดลอดไปจาก

พระองค์ได้แม้เพียงพริบตาเดียว” ฝูงชนที่รายล้อมอยู่นั้นก็ตะโกนอย่างดังอีกว่าตักบีร! อัลลอฮุอักบัร!!

ชายผู้นั้นประทับใจเด็กน้อยอย่างมากในความรู้และความมีคุณธรรม และแล้วเขาก็ยอมเข้ารับอิสลามด้วยความ

ยินยอมพร้อมใจ ไม่เท่านั้น เขายังกลายมาเป็นลูกศิษย์ของเด็กน้อยผู้นั้นอีกด้วย

เด็กน้อยผู้นั้นคือใคร ? เด็กน้อยผู้นั้นก็คือผู้นำาคนหนึ่งของเรา เป็นหนึ่งในอิม่ามผู้ยิ่งใหญ่

ท่านอิม่ามอบู หะนีฟะฮ์ (ขออัลลอฮฺทรงประทานความจาเริญและความเมตตาแก่ท่าน)

NASILEMAK 18

กิจกรรม....จ๊ะจ๋า

NASILEMAK 19

oTNewsH- ประธานอิคลาสจะวางมือแล้ว เชิญพี่น้องนักศึกษาไทยร่วมลงคะแนนเลือก

ประธานคนใหม่ในวันที่ ๓1 มีนาคมนี้

- ภาคการศึกษาหน้าค่าเทอมจะขึ้นสำาหรับนักศึกษาใหม่แล้วฝากบอกต่อกัน

ด้วย

- วันสอบใกล้เข้ามาแล้วอ่านหนังสือกันแล้วรึยัง?

- ปิดเทอมนี้ใครว่างไปร่วมงานวาลีมะห์ของบังอัดนานกันด้วยน่ะ

- งานอำาลารุ่นพี่จัดโดยชมรมนักศึกษาไทย comming soon....

- ประเทศน้ำา้ท่วมและอากาศหนาวในบางพื้นที่ขอดุอาอฺให้พี่น้องเรากันด้วยน่ะ

- สถานการณ์ในลิเบียยังไม่คลี่คลายแว่วมาว่าสหรัฐส่งกองทัพบุกแล้ว

- ช่วงนี้มาเลเซียฝนตกบ่อยๆรักษาสุขภาพกันด้วยน่ะครับ