นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๕ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๕
ข�าวนาว�รอบโลกคอลัมน�ประจำ
พลเร�อตร� จร�นทร� บุญเหมาะ[email protected]
Service Industriel I’Aeronautique (SIAe) ได้เริ่มดำเนินการปรับปรุงให้ทันสมัย เครื่องบินรบ Dassault Rafale F1 ของ ทร.ฝรั่งเศส จำนวน ๑๐ ลำ โดยดำเนินการที่ I’Atelier Industriel de I’Aeronautique (AIA) เมือง Clermont - Ferrand ทั้งนี้ตามการประกาศเมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๕ เครื่องบินรุ่นดังกล่าวข้างต้นซึ่งส่งมอบให้แก่ ทร.ฝรั่งเศสเป็นครั้งแรกเมื่อต้นปี พ.ศ.๒๕๔๓ จะได้รับการปรับปรุงให้เป็นเครื่องแบบมาตรฐาน Rafale F3 ภายใต้สัญญาดำเนินการมูลค่า ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งทำกับสำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์
ฝรั่งเศส การปรับปรุงเครื่องบิน Rafales รุนเกา
Direction Generale de l’Armement (DGA) เมื่ อได้ รับการปรับปรุ ง ให้ เป็นเครื่ องแบบมาตรฐาน Rafa le F3 แล้ว เครื่องบินจะมี ขีดความสามารถโจมตี เรือผิวน้ำ โดยใช้อาวุธ ปล่อยนำวิถี MBDA AM39 (Block 2 Mod 2) Exocet การลาดตระเวนด้วยการติดตั้งกระเปาะตรวจการณ์ Thales Reco - NG นอกจากนั้นยังสามารถ ติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีหัวรบนิวเคลียร์ Air - Sol Moyenne Portee - Ameliore (ASMP - A) อีกด้วย เครื่ อ งบินที่ ได้ รั บการปรับปรุ งแล้ ว เสร็ จ กำหนดกลับเข้าประจำการใน ทร.ฝรั่งเศสช่วงปี พุทธศักราช ๒๕๕๗ - ๒๕๖๐
๐68
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๕ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๕
เยอรมนี การสั่งตอเรือรบอเนกประสงค
สำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ กห.เยอรมนี (Bundesamt fur Wehrtechnik und Beschaffung - BWB) ได้กำหนดความต้องการในการออกแบบเรือรบอเนกประสงค์ (Multi Purpose Combat Ship MPCS 180) ซึ่งแต่เดิมเรียกว่าโครงการเรือคอร์เวต K131 ทั้งนี้ BWB มีแผนสั่งต่อเรือขึ้นทั้งหมด จำนวน ๖ ลำ โดยมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ ทร.เยอรมนีกำหนดคุณลักษณะเฉพาะที่สำคัญ ของเรือไว้ดังนี้ ด้านภารกิจ มีขีดความสามารถในการลาดตระเวนตรวจการณ์ ควบคุมการขนสินค้าต้องห้าม และปฏิบัติการเคลื่อนย้ายกำลังทหาร มีขีดความสามารถในการป้องกันตนเอง ลำเลียงหน่วยรบพิเศษ และยิงสนับสนุนหน่วยยกพลขึ้นบก ด้านยุทธการ สามารถออกปฏิบัติภารกิจได้ทั่วโลกอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา ๒ ปี ด้วยกำลังพลประจำเรือ ๗๐ นาย ชุดใช้โมดูลเฉพาะกิจ ๗๐ นาย
ความเร็วสูงสุด ๒๖ นอต เดินทางได้ไกล ๔,๐๐๐ ไมล์ทะเล เมื่อใช้ความเร็ว ๑๘ นอต มีโมดูลเฉพาะกิจสำหรับ การค้นหาทุ่นระเบิด ตรวจจับและวิ เคราะห์สัญญาณอิ เล็กทรอนิกส์ ลำเลียงหน่วยรบพิเศษทางเรือ สงครามปราบเรือดำน้ำ และสนับสนุนนักดำน้ำ นอกจากนั้น BWB ยังได้มีข้อกำหนดเพิ่มเติมในการออกแบบเรือดังนี้ ไม่จำกัดระวางขับน้ำเรือ ให้เรือมีขนาดใหญ่ และพื้นที่ใช้สอยมาก ใช้ระบบต่าง ๆ ที่เรียบง่าย ไม่มีความยุ่งยากซับซ้อนมาก ไม่ต้องพัฒนาสิ่งใดขึ้นมาใหม่ ให้ใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วในท้องตลาด และได้ผ่านการทดสอบ และใช้งานในทะเลมาแล้ว มีระบบสำรองต่าง ๆ ที่มากพอ เพื่อป้องกันมิให้มีระบบใดเกิดความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง BWB วางแผนให้ขั้นตอนการออกแบบเรือ ระบบอาวุธ และระบบควบคุมและสั่งการแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ.๒๕๕๖ การลงนามในสัญญารับแบบ คาดว่าจะดำเนินการในปี พ.ศ.๒๕๕๙
๐69
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๕ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๕
ตุรกี การรับมอบเรือยกพลขึ้นบกความเร็วสูง
เรือยกพลขึ้นบกความเร็วสูงขนาด ๘๐ เมตร ลำแรกจากจำนวนทั้งสิ้น ๘ ลำ ได้รับการส่งมอบให้แก่ ทร.ตุรกี โดยบริษัท ADIK เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๕ และกำหนดหมายเลขเป็น C-151 เรือติดตั้งเครื่องจักรใหญ่ดีเซล MTU 16V4000 M70 จำนวน ๒ เครื่อง ไปขับเคลื่อน ๒ เพลาขับ ให้ความเร็วสูงสุด ๑๘ นอต ที่ระวางขับน้ำเต็มที่ ๑,๑๑๕ ตัน เมื่อใช้ความเร็วเดินทางต่อเนื่อง ๑๖.๕ นอต ได้ระยะทางไกลสุด ๑,๖๐๐ ไมล์ทะเล ปฏิบัติการ ในทะเลได้นาน ๗ วัน เมื่อมีระวางขับน้ำเบาสามารถทำความเร็วได้สูงสุด ๒๐ นอต ทั้งนี้ ทร.ตุรกีกำหนดความต้องการให้เรือบรรทุกสัมภาระได้ ๓๒๐ ตัน เมื่อใช้ความเร็ว ๒๐ นอต ตัวเรือส่วนบนทั้งหมดต่อขึ้นจากเหล็กกล้าที่สามารถป้องกันการยิงด้วยกระสุนขนาด ๗.๖๒ มิลลิเมตรได้ ที่หัวติดตั้งปืนกลขนาด ๒๕ มิลลิเมตร
ควบคุมจากระยะไกลจำนวน ๒ กระบอก ควบคุมการยิงด้วยศูนย์รวบแบบ ไฟฟ้า-ทัศนะ จำนวน ๒ ชุด และติดตั้งปืนกลหนักอีกจำนวนหนึ่ง เรือได้รับการกำหนดให้มีอายุใช้งาน ๓๐ ปี เรือลำถัด ๆ ไปกำหนดทยอยส่งมอบทุก ๓ เดือนจนกระทั่งครบ ๘ ลำ
พมา การขอซื้อเรือรบเหลือใชจากจีน
ทร.พม่าขอซื้อเรือรบชั้น Jianghu II (Protect 053H1) จำนวน ๒ ลำจากจีน ซึ่งเรือดังกล่าวได้รับการประกาศว่าเหลือใช้โดยกองบัญชาการ ทร.จีน เรือขนาด ๑,๙๖๐ ตันทั้งสองลำที่จะขายให้แก่พม่าได้รับการยืนยันโดยภาพถ่ายของเรือดังกล่าว ที่ปรากฏในเว็บไซด์ของทางการจีน ซึ่งเรือได้รับการทาสีใหม่ที่ฐานทัพเรือ Huangpu หมายเลขข้างเรือเขียนใหม่เป็น F21 และ F23 และมีลูกเรือที่เป็นพม่าอยู่บนเรือทั้งสอง แสดงให้เห็นชัดเจนว่าการส่งมอบเรือน่าจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้
๐70
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๕ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๕
แหล่งข่าวในจีนกล่าวว่าเรือฟริเกตทั้งสองลำคือ Anshun (FFG 554) และ Jishou (FFG 557) ทั้ งสองลำมีความยาว ๑๐๓.๒ เมตรเป็นเรือ ชั้น Jianghu II ติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้น SY - 2 จำนวน ๔ ลูก ปืนใหญ่ขนาด ๑๐๐ มิลลิเมตร Type 79 แท่นคู่จำนวน ๒ แท่น ปืนกล ๓๗ มิลลิเมตร Type 76 แท่นคู่จำนวน ๔ แท่น ทางตอนหัว และท้ายเรืออย่างละ ๒ แท่น แท่นยิงจรวดปราบเรือดำน้ำแบบ ๖ ท่อยิงจำนวน ๒ แท่น ในปัจจุบัน ทร.พม่ามีเรือฟริเกตประจำการ อยู่ เพียง ๑ ลำคือ UMS Aung Zeya (F11) เรือคอร์เวตขนาด ๗๗ เมตร ชั้น Anawrahta จำนวน ๒ - ๓ ลำ และเรือตรวจการณ์อีกจำนวนหนึ่งประกอบด้วยเรือปืนชั้น Hainan (Type 037) จำนวน ๙ ลำ เรือยนต์เร็วโจมตีติดอาวุธปล่อยนำวิถีชั้น Housin (Type 037/1G) จำนวน ๖ ลำ ทั้งหมดที่กล่าวนี้ต่อจากจีน และเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชั้น Osprey จำนวน ๒ ลำต่อจากเดนมาร์ก และเรือ
ขนาด ๔๕ เมตรที่ต่อในพม่าจำนวน ๑๗ ลำ ซึ่งติดปืนหรืออาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้น C - 802 เรือ Aung Zeya ต่อขึ้นโดยกรมอู่ทหารเรือพม่าที่ตำบล Sinmalaik กรุงย่างกุ้ง ขึ้นระวางประจำการใน ทร.พม่าเมื่อต้นปี พ.ศ.๒๕๕๔ เรือมีความยาว ๑๐๘ เมตร ระวางขับน้ำ ๒,๕๐๐ ตัน และมีลานจอด ฮ.ท้ายเรือ อาวุธประจำเรือประกอบด้วย ปืนใหญ่ ๗๖ มิลลิ เมตร Oto Melara จำนวน ๑ กระบอก ปืน Gatling AK - Type จำนวน ๔ แท่น ปืนกลหนักจำนวนหลายกระบอก แท่นยิงจรวดปราบเรือดำน้ำจำนวน ๒ แท่น และอาวุธปล่อยนำวิถี พื้นสู่พื้น C - 602 หรือ C - 802 จำนวน ๘ ท่อยิง ติดตั้งบริเวณกึ่งกลางลำเรือ อุปกรณ์ตรวจจับเป้าประกอบด้วย เรดาร์ค้นหาระยะไกล ๑ ตัว และศูนย์รวมควบคุมการยิงจำนวน ๓ ชุด
๐71
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๕ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๕
รัสเซีย การยกเลิกโครงการปรับปรุงเรือดำน้ำชั้น Typhoon
รัส เซียเลิกล้มแผนการปรับปรุง เรือดำน้ำขีปนาวุธพลังงานปรมาณูชั้น Akula (Project 941) หรือ Typhoon จำนวน ๓ ลำ ให้ทันสมัยเนื่องจาก มีค่าใช้จ่ายที่สูงมากเกินไป แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้จากสำนักข่าว Itar - Tass กล่าวเมื่อวันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ว่าการปรับปรุงเรือ Project 941 ให้ทันสมัย ๑ ลำ มีมูลค่าเท่ากับการต่อเรือดำน้ำรุ่นใหม่ Project 995 ชั้น Yuri Dolgoruky (Borey) จำนวน ๒ ลำ เรือชั้น Akula หรือที่นาโต้เรียกว่า Typhoon จำนวน ๖ ลำต่อขึ้นที่อู่เมือง Severodvinsk ระหว่าง ปี พ.ศ.๒๕๑๙ - ๒๕๓๒ แต่ละลำบรรทุกขีปนาวุธ RSM 52 (SS - N - 20) จำนวน ๒๐ ลูก เรือมีระวางขับน้ำขณะดำ ๒๖,๙๒๕ ตัน นับเป็นเรือดำน้ำลำใหญ่ที่สุดที่เคยมีการต่อขึ้นมา เรือสองในสามลำที่ยังเหลืออยู่คือ Arkhangelsk และ Severstal ได้ถูกเก็บไว้เป็นกำลังสำรองที่เมือง Severodvinsk เป็นเวลาหลายปี และได้รับการซ่อมคืนสภาพในระหว่างปี พ.ศ.๒๕๓๗ - ๒๕๔๕ เรือลำแรก
ของชั้นคือ Dmitriy Donskoy ซึ่งอยู่ในประจำการจนถึงปลายปี พ.ศ.๒๕๕๒ ถูกใช้เป็นแท่นทดสอบระบบยิงปล่อยขีปนาวุธข้ามทวีปแบบ Bulava เพื่อพัฒนาไว้ ใช้กับเรือดำน้ำขีปนาวุธพลังงานปรมาณูรุ่นใหม่ชั้น Borey เป็นที่คาดหมายว่า Arkhangelsk และ Severstal คงได้รับการดัดแปลงให้ติดตั้งขีปนาวุธ Bulava อย่างไรก็ตามในต้นปี พ.ศ.๒๕๕๒ มีสิ่งบอกเหตุว่าเรือดังกล่าวน่าจะได้รับการดัดแปลงให้ติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีแบบร่อน ในโครงการที่คล้ายคลึงกับ ทร.สหรัฐ ฯ ดัดแปลงเรือดำน้ำขีปนาวุธพลังงานปรมาณูชั้น Ohio ให้ติดตั้ งอาวุธปล่อยนำวิถี แบบร่อน Tomahawk สำหรับการโจมตีภาคพื้นดิน ในขณะที่ Arkhangelsk และ Severstal ไม่มีทีท่าว่าจะได้รับการพิจารณาให้กลับเข้าประจำการ อีกครั้ ง Dmit r iy Donskoy ยังคงใช้ เพื่อ เป็น แท่นทดสอบระบบอาวุธและโซนาร์ ไปจนถึงปี พ.ศ.๒๕๖๒
๐72
