Transcript
Page 1: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55
Page 2: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55

VIBHAVADI

2

บรรณาธิการ

สวัสดีค่ะ ทุกท่าน

ช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งร้อน

และฝน จึงจำเป็นที่ทุกท่านควรหันมาสนใจดูแลสุขภาพ

ตนเองใหม้ากขึน้นะคะ เพือ่ใหร้า่งกายสามารถปรบัสภาพ

ตอ่การเปลีย่นแปลงของอากาศได ้ โดยเฉพาะ ผูท้ีเ่ปน็โรค

ภมูแิพ ้ อาจจะตอ้งดแูลตวัเองเปน็พเิศษ มเิชน่นัน้อาการ

ภมูแิพอ้าจจะกำเรบิได ้

Vibhavadi.com ฉบับนี ้ เรามีวิธีดูแลสุขภาพใน

ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างนี้มาเพื่อให้คุณได้เตรียม

พรอ้มสขุภาพ ไมว่า่จะเปน็โรคขาประจำทีเ่ปน็ทกุฤดกูาล

อย่างไข้หวัด รวมถึงยังมีวิธีดูแลสุขภาพ รับหน้าฝน

และสำหรับช่วงกลางวันที่อากาศร้อนจัด เราก็ไม่ควร

ละเลยทีจ่ะดแูลตวัเอง เพราะไมว่า่จะเปน็ โรคอาหารเปน็พษิ

หรืออาการที่ควรระวังในเด็กเล็ก เรื่องของการเลือก

รบัประทานอาหารในชว่งอากาศรอ้นๆ เรากม็มีาฝากกนั

แถมดว้ยเมนอูาหารสขุภาพ ทีท่ำรบัประทานไดท้กุฤดกูาล

อยา่ง กว๋ยเตีย๋วหลอดฮอ่งเต ้ เรยีกวา่ครบทกุสาระสขุภาพ

ในเลม่นีเ้ลยคะ่

สดุทา้ยเปน็ขา่วดคีะ่ website www.vibhavadi.com

ของเราไดร้บัรางวลั Truehis Web Award 2011 คอืเปน็

website อันดับ 1 ในหมวดโรงพยาบาลที่มีผู้เยี่ยมชม

สูงสุด โดยท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาล รับรางวัลจาก

คุณปลอดประสพ สุรัสวด ี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง

วทิยาศาสตรแ์ละเทคโนโลย ี เมือ่เรว็ๆนี ้ โดย web เราได้

รางวัลนี้มา 5 ป ี ซ้อนแล้วค่ะ รายละเอียดดูในรอบรั้ว

วภิาวด ี ไดเ้ลยนะคะ ทา้ยสดุขอฝากไวว้า่ การทีเ่ราดแูล

สขุภาพของเราใหแ้ขง็แรง จะเปน็วธิทีีร่บัมอืกบัชว่งอากาศ

เปลี่ยนแปลงมากที่สุด การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา

นะคะ พบกนัใหมฉ่บบัหนา้คะ่

คลิก Like

vibhavadi fan page ที่

www.facebook.com/hospital4

FOLLOW@vibhavadiHosp

Editor talk

แนะวิธีดูแลสุขภาพ รับหน้าฝน

ไข้หวัด

การเลือกรับประทานผลไม้หน้าร้อน

วิธีเลือกซื้อครีมกันแดด

การดูแลสุขภาพเด็กเล็กในช่วงหน้าร้อน

เคล็ดลับลดน้ำหนัก ช่วงหน้าร้อน

ปวดศีรษะไมเกรน

โรคอาหารเป็นพิษ

พลังงาน และไขมันอาหารจานเดียว

ก๋วยเตี๋ยวหลอดฮ่องเต้

อุบัติเหตุของฟัน และขากรรไกร

แฝด 5...สิ่งมหัศจรรย์ ในชีวิต

มาตรวจสุขภาพตามความเสี่ยงกันเถอะ

แนะนำแพทย์ ใหม่

ตอบดีมีรางวัล

รอบรั้ววิภาวดี

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

16

18

18

19

Page 3: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55

แนะวิธีดูแลสุขภาพ รับหน้าฝน

ทีมอายุรแพทย์ รพ.วิภาวดี ช่วงนี้ เป็นช่วงที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย

เพราะฉะนั้น คุณควรหันมาดูแลสุขภาพตนเองมากขึ้น

โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ และเพื่อป้องกัน

การเกิดโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดย

เฉพาะโรคไข้หวัดเพราะหากป่วยเป็นไข้หวัดและไม่มีการ

ดูแลสุขภาพที่ดี อาจส่งผลให้กลายเป็น โรคหลอดลม

อักเสบและโรคปอดบวมได้ในที่สุด และสำหรับผู้ที่เป็น

โรคภูมิแพ้ ควรต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษมากกว่าคนอื่น

และควรที่จะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะการ

ออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง แล้ว

ยงัชว่ยเสรมิสรา้งภมูคิุม้กนัตอ่โรคอกีดว้ย การออกกำลงักาย

สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การเต้นแอโรบิค การเดิน

เร็วๆ การวิ่งเหยาะ การขี่จักรยาน หรือการเล่นกีฬาที่มี

การเคลื่อนไหวต่อเนื่อง และการออกกำลงักายทีเ่หมาะสม

คอื การออกกำลงักาย สปัดาหล์ะ 5 วัน อย่างน้อยวันละ

30 นาที แค่นี้ก็เพียงพอ ที่จะเกิดภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

การเริ่มต้นออกกำลังกาย ควรเริ่มจากเบาๆ ระยะ

เวลาน้อยๆ ก่อนแล้วค่อยเพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละ

สัปดาห์เพื่อให้ร่างกาย ปรับตัว จากนั้นจึงเพิ่มความแรง

หรือความหนัก และย้ำว่าไม่จำเป็นต้องหนักหรือเหนื่อย

มาก การออกกำลังกายมากเกินไป โดยเฉพาะในอากาศที่

ร้อนจัด จะทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า โรคฮีทสโตรก (Heat

Stroke) ได้ง่าย และเป็นโรคที่อันตรายมาก ผู้ป่วยจะมี

อุณหภูมิร่างกายสูงมาก เหงื่อไม่ออก หมดสติ ไต หัวใจ

ตบัวาย อาจมเีลอืดออกทกุอวยัวะ ถงึแกช่วีติได ้นอกจากนี ้

ระหว่างออกกำลังกาย ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยเฉพาะ

น้ำที่มีเกลือแร่ด้วย สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงนอกจากการ

ออกกำลังกาย คือ การรับประทานอาหาร ควรเน้นการ

รับประทานผัก ให้หลากหลายทั้งสดและลวก ต้ม ผัด

และรบัประทานผลไมท้ีม่วีติามนิซสีงู เชน่ สม้ ฝรัง่ มะเขอืเทศ

องุ่น สัปปะรด มะละกอ เป็นต้น เพราะจะช่วยสร้าง

ภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ดังนั้น หากเราดูแลสุขภาพ

ตนเองได้ตามข้อปฏิบัติดังกล่าว ไม่เพียงแต่จะช่วยให้มี

สุขภาพดีในช่วงหน้าฝนเท่านั้น แต่ยังจะส่งผลต่อการมี

สุขภาพดีในระยะยาวด้วย

VIBHAVADI

ปรับตัว...รับหน้าฝน

3

วิธีการดูแลสุขภาพในช่วงหน้าฝน

คุณสามารถทำได้ โดยให้เน้นการออกกำลัง

อย่างน้อยวันละ 30 นาที

และควรเลือกบริโภคผักและผลไม้

ที่ ให้วิตามินสูง

ซึ่งจะช่วยป้องกันไข้หวัดได้ดี

Page 4: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55

ดูแลโรคไข้หวัด อย่างถูกวิธี

VIBHAVADI

4

ไข้หวัด

โรคไข้หวัด เป็นการติดเชื้อของจมูก และคอ

ส่วนใหญ่ 75-80% เกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งรวมเรียก

ว่า Coryza viruses ประกอบด้วย Rhino-viruses

เป็นสำคัญ เชื้อชนิดอื่นๆ มี Adenoviruses, Respiratory

syncytial virus เมื่อเชื้อเข้าสู่จมูก และคอจะทำให้เยื่อ

จมูกบวมและแดง มีการหลั่งของเมือกออกมาแม้ว่าจะ

เป็นโรคที่หายเองใน 1 สัปดาห์ แต่เป็นโรคที่นำผู้ป่วยไป

พบแพทย์มากที่สุด โดยเฉลี่ยเด็กจะเป็นไข้หวัด 6-12

ครั้งต่อปี ผู้ใหญ่จะเป็น 2-4 ครั้ง ผู้หญิงเป็นบ่อยกว่า

ผู้ชายเนื่องจากใกล้ชิดกับเด็ก คนสูงอายุอาจจะเป็นปีละ

ครั้ง

อาการ

ผู้ใหญ่ มีอาการจาม และน้ำมูกไหลนำมาก่อน

อ่อนเพลีย ปวดศีรษะเล็กน้อย แต่มักไม่ค่อยมีไข้ เชื้อจะ

ออกจากทางเดินหายใจของผู้ป่วย 2-3 ชั่วโมงและหมด

ใน 2 สัปดาห์ บางรายอาจมีอาการปวดหู เยื่อแก้วหูมี

เลือดคั่ง บางรายเยื่อบุตาอักเสบ เจ็บคอกลืนลำบาก โรค

มักเป็นไม่เกิน 2-5 วัน แต่อาจมีน้ำมูกไหลนานถึง

2 สัปดาห์ ในเด็กอาจจะรุนแรง และมักมีการแพร่ไปเป็น

หลอดลมอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น

การติดต่อ

โรคนี้มักจะระบาดฤดูหนาว เนื่องจากความชื้นต่ำ

และอากาศเย็น เราสามารถติดต่อจากน้ำลาย และ

เสมหะผู้ป่วย นอกจากนั้นมือที่เปื้อนเชื้อโรคก็สามารถ

ทำให้เกิดโรคได้โดยผ่านทางจมูกและตา ผู้ป่วยสามารถ

แพร่เชื้อได้ก่อนเกิดอาการและ 1-2 วันหลังเกิดอาการ

ผู้ที่มีโอกาสเป็นไข้หวัดง่ายคือ เด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี

เด็กที่ขาดอาหาร เด็กที่เลี้ยงในสถานเลี้ยงเด็ก

วิธีการติดต่อ

1. มือของเด็ก หรือผู้ใหญ่ที่สัมผัสเชื้อจากเสมหะ

ของผู้ป่วยหรือสิ่งแวดล้อม แล้วขยี้ตาหรือเอาเข้าปาก

หรือจมูก

2. หายใจเอาเชื้อ ที่ผู้ป่วยที่ไอออกมา

3. หายใจเอาเชื้อที่กระจายอยู่ในอากาศ

การรักษา

ไมม่ยีารกัษาเฉพาะ ถา้มไีขใ้หย้าลดไข ้Paracetamol

ห้ามให้ Aspirin

ให้ยาช่วยรักษาตามอาการ เช่น ยาลดคัดจมูก

ลดน้ำมูก ยาแก้ไออ่อนๆ

ให้พัก และดื่มน้ำมากๆ

โดยทั่วไปจะเป็นมาก 2-4 วัน หลังจากนั้นจะดีขึ้น

ในเดก็โรคแทรกซอ้นทีส่ำคญัคอื หชูัน้กลางอกัเสบ ตอ้งได้

รับยาปฏิชีวนะรักษา

การป้องกัน

หลีกเลี่ยงที่ชุมชน เช่น โรงภาพยนต์ ภัตราคาร

ในช่วงที่ไข้หวัดกำลังระบาด

ไอหรือจามให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือ ทิสชูปิดปาก

ให้ล้างมือบ่อยๆ

ไม่เอามือเข้าปากหรือขยี้ตาเพราะอาจนำเชื้อเข้าสู่

ร่างกายได้

อย่าอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นหวัดเป็นเวลานาน

เป็นการยาก ที่จะป้องกันการติดเชื้อไข้หวัด และ

ยังไม่มีวัคซีนที่ป้องกันไข้หวัด ดังนั้นการดูแลสุขภาพ

ตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

นพ.ชิดเวทย์ วรเพียรกุล

อายุรแพทย์ รพ.วิภาวดี

Page 5: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55

VIBHAVADI

5

ผลไม้ มีดีกว่าที่คิด

ช่วงฤดูร้อนที่มีอากาศร้อนจัดอย่าง

ประเทศไทย ร่างกายของคนเราต้องสูญเสียน้ำมาก

กว่าปกติ นอกจากการดื่มน้ำเพื่อทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้น

แล้ว การเลือกรับประทานผักผลไม้ที่มีคุณสมบัติในการ

ลดอุณหภูมิความร้อนของร่างกายก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่จะ

ช่วยให้ร่างกายและจิตใจสดชื่นและยังให้คุณค่าทาง

โภชนาการแก่ร่างกายด้วย

ผลไม้คลายร้อนที่เหมาะแก่การรับประทานในฤดูที่

มีอากาศร้อนอบอ้าวเช่นบ้านเรา การทราบสรรพคุณทาง

ยาของผลไม้ชนิดต่างๆ ย่อมเกิดประโยชน์แก่ท่านผู้อ่าน

ไม่มากก็น้อย มารู้จักคุณค่าของผลไม้ใกล้ตัวเพื่อสุขภาพ

ของเราทั้งหลายกันเถิด

กล้วย

สรรพคุณทางยา ใช้รักษาภาวะความดันโลหิตสูง

ลดภาวะความเป็นพิษของร่างกาย

ช่วยให้ปอดชุ่มชื้นและแก้กระหายน้ำได้เป็นอย่างดี

ขนุน

สรรพคุณทางยา ช่วยย่อยอาหาร

แก้กระหายน้ำได้ดี

ชมพู่

สรรพคุณทางยา ทำใหร้า่งกายแขง็แรงเพราะมวีติามนิ และเกลอืแรส่งู

เป็นยาระบายอ่อนๆ

แตงไทย

สรรพคุณทางยา ช่วยดับกระหาย ลดอุณหภูมิความร้อนในร่างกาย

ขับปัสสาวะ

เป็นยาระบายอ่อนๆ

แตงโม

สรรพคุณทางยา เป็นยาบำรุงร่างกาย ช่วยให้เจริญอาหาร

ช่วยย่อย รักษาโรคไต

บรรเทาอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

ลดความดันโลหิต

ลดความร้อนในร่างกาย แก้กระหายน้ำ

มะพร้าว

สรรพคุณทางยา เนื้อมะพร้าวแก้อาการอ่อนเพลีย

น้ำมะพร้าวช่วยลดอุณหภูมิของร่างกาย ดับ

กระหาย

จาวมะพร้าวใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ

มะม่วง

สรรพคุณทางยา แก้ไอ ละลายเสมหะ

แก้คลื่นไส้ อาเจียน ขับปัสสาวะ

ช่วยให้เลือดลมและประจำเดือนของสตรีเป็นปกติ

บรรเทาอาการแพ้ต่างๆ ของร่างกาย

ดับกระหาย

*ผู้ป่วยด้วยโรคไต ไม่ควรรับประทานมะม่วงมาก

เกินไป เพราะจะทำให้อาการของโรคเป็นมากขึ้น

ระกำ

สรรพคุณทางยา ป้องกันไข้หวัด

ช่วยย่อยอาหาร ทำให้เจริญอาหาร

บรรเทาอาการกระหายน้ำ

ลองกอง

ลดอุณหภูมิความร้อนภายในร่างกาย

แก้อาการร้อนในในช่องปาก

การเลือกรับประทาน

ผลไม้หน้าร้อนคุณนวลกมล ช่อเจริญรัตน์ นักกำหนดอาหาร หน.แผนกโภชนาการ รพ.วิภาวดี

Page 6: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55

นพ.ธัญธรรศ โสเจยยะ

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์

รพ.วิภาวดี

รู้จักเลือก...เพื่อสุขภาพ

VIBHAVADI

6

ในแสงแดดมีรังสีอยู่หลายชนิด

นะครับ ที่รู้จักกันดีก็คือ อุลตราไวโอเลต (UV) ซึ่งรังสี

นี้จะถูกดูดซับโดยชั้นโอโซน มีแค่ UVA และ UVB ที่ลง

มาถึงพื้นโลก ซึ่งรังสีทั้ง 2 ชนิดนี้มีผลต่อผิวหนังโดย

เฉพาะ UVA มีผลทำให้เกิด กระ ฝ้า เหี่ยว แก่ก่อนวัย

UVB มีผลทำให้เกิดการ แดง แสบ ไหม้ ของผิวหนัง

และรังสีทั้ง 2 ชนิดนี้ยังทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งจะ

ทำลายโปรตีนพันธุกรรม ทำให้เกิดเนื้องอกผิวหนังได้

ครับ แต่ไม่ต้องตกใจนะครับเพราะว่า... วันนี้ผมมีวิธี

เลือกซื้อครีมกันแดดมาฝากกันครับ

1. SPF (Sun Protective Factor) ซึ่งเป็นตัวบอก

ว่า ป้องกัน UVB ได้กี่เท่าส่วน UVA ยังไม่มีค่ามาตรฐาน

ปัจจุบันนิยมใช้ PA และเครื่องหมาย + ปกติคนไทยมีผิว

คล้ำซึ่งเม็ดสีสามารถป้องกัน UVB ได้บ้างแล้ว ดังนั้น SPF

มากกว่า 15 และ PA++ ขึ้นไป ก็เพียงพอ

2. ดูที่กิจกรรม ถ้าออกกำลังกลางแจ้ง มีเหงื่อ

ว่ายน้ำ ทำงานกลางแดด ต้องใช้ SPF ที่สูงขึ้นและเลือก

ประเภทที่กันน้ำได้ (Water P roof หรือ Water

Resistance)

3. ปริมาณ ควรใช้ปริมานที่ไม่น้อยเกินไป เพราะ

สารเคมีอาจทำปฏิกิริยากันทำให้ลดคุณภาพลงไป

4. จำนวนครั้งที่ทาต่อวันก็สำคัญ ถ้าอยู่ในออฟฟิศ

ห้องแอร์ วันละครั้งก็เพียงพอ แต่ถ้าต้องทำงานกลางแดด

โดนลม อาจจะทาเติม ถ้าว่ายน้ำต้องทาทุก 2-3 ชั่วโมง

5. ทาแล้วก็ต้องเลี่ยงแดดด้วย ใส่แว่น ใส่หมวก

เนื่องจากครีมกันแดดไม่ได้กันได้ 100%

6. ยี่ห้อ ราคา ไม่สำคัญ ขอให้มีคุณสมบัติครบ

ไม่มีปฏิกิริยาต่อผิวหนัง เช่น คัน ผื่น

7. อาหาร อย่าลืมทานอาหารที่มีความสามารถ

กำจัดอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน เกลือแร่ ในผักทุกชนิด

และผลไม้ด้วย

วิธีเลือกซื้อ

ครีมกันแดด

ถา้คณุ..รูจ้กัเลอืกใชค้รมีกนัแดดใหเ้หมาะสมกับกิจกรรมชีวิตประจำวันของคุณแล้ว.... คุณก็ จะสามารถปกป้ องผิ วสวยจากแสงแดดได้สบายเลยครับ

สอบถามข้อมูลเพ่ิมเติมได้ท่ี ศูนย์ผิวหนังและเลเซอร์

ช้ัน 17 รพ.วิภาวดี โทร. 0-2561-1111 ต่อ 3718-9

Page 7: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55

VIBHAVADI

สุขภาพเด็กเล็ก ในช่วงหน้าร้อน

7

เสื้อผ้า ควรเลือกผ้าฝ้ายที่ดูดซับเหงื่อและระบาย

ความร้อนได้ดี เสื้อผ้าต้องหลวม ไม่คับ เพราะจะทำให้

เด็กรู้สึกอึดอัด และควรระวังเรื่องการอับชื้นจากปัสสาวะ

เพราะจะทำให้ผิวหนังเกิดผดผื่นคันได้

อาหาร ในหน้าร้อนระบบการย่อยอาหารจะ

ทำงานน้อยลง และติดเชื้อได้ง่าย เพราะฉะนั้น อาหารจึง

ต้องสุกและสะอาดเสมอ น้ำแข็ง น้ำอัดลม ไอศกรีม

ที่เป็นของโปรดของเด็กๆ นั้นไม่ดี เพราะความเย็นก็จะ

ทำให้ระบบการย่อย การดูดซึมอาหารผิดปกติ จึงไม่ควร

ให้เด็กๆ กินบ่อย

ที่อยู่อาศัย การระบายความร้อนในห้องนอนมี

ความสำคัญต่อเด็กมาก ถ้าหากไม่มีเครื่องปรับอากาศ

การใช้พัดลมต้องระมัดระวังไม่ให้พัดลมถูกตัวเด็ก

โดยตรง ไม่ควรให้เด็กนอนในที่เปียกชื้น บนพื้นปูน หรือ

พื้นที่เย็น ในกรณีที่เด็กมีเหงื่อออกมาก ต้องพลิกตัวเด็ก

บ่อยๆ เพื่อระบายความร้อนและใช้ผ้าผืนบางๆ เล็กๆ

ปิดบริเวณหน้าอกและบริเวณท้อง เพื่อป้องกันการกระทบ

ความเย็น

การเดินทาง ในแสงแดดมีรังสีอินฟราเรดและ

รังสีอัลตร้าไวโอเลต ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย ดังนั้น

เมือ่ตอ้งเดนิทางไปไหน โดยเฉพาะในชว่งปดิเทอม คณุพอ่

คุณแม่จึงควรให้ลูกสวมหมวก ใส่เสื้อแขนยาว และ

กางเกงขายาวเพื่อช่วยป้องกันแสงแดด โดยสามารถใช้

ครีมกันแดดที่เป็นของเด็กโดยเฉพาะได้ โดย SPF ไม่ควร

เกิน 15

ดว้ยความปรารถนาดจีาก ศนูยก์มุารเวช รพ.วภิาวดี

โทร. 0-2561-1111 ตอ่ 2226-8

การดูแลสุขภาพเด็กเล็ก

ในช่วงหน้าร้อน

การปรับตัวของร่างกายเด็ก

จะยังไม่สมบูรณ์เหมือนผู้ ใหญ่

เด็กๆ จึงเจ็บป่วยได้ง่ ายโดย

เฉพาะในชว่งหนา้รอ้น ซึง่คณุพอ่

คุณแม่จะต้องให้ความเอาใจใส่

ดูแลลูกในเรื่องสำคัญๆ ดังนี้

Page 8: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55

VIBHAVADI

หุ่นสวย...ไม่ ใช่เรื่องยาก

8

ถึงหน้าร้อนทีไร ใครๆ ก็คงอยากจะมีหุ่น

สวย ใส่บิกินีตัวจิ๋วไปอวดสรีระของตัวเอง แต่ถ้า

ยังมีพุงกะทิน้อยๆ อยู่ คุณลองพลิกวิกฤตให้เป็น

โอกาส โดยการใช้ซัมเมอร์นี้มาลดความอ้วนกันซะ

เลย ด้วย 4 วิธี นี้ครับ

ดื่มน้ำเยอะๆ เข้าไว้ ยิ่งร้อนก็ยิ่งกระหายน้ำ

ดื่มเข้าไปเยอะๆ เลยครับ เพราะนอกจากน้ำ

จะไม่มีแคลอรี ยังทำให้ระบบการย่อยอาหารของคุณดี

ด้วย ควรหลีกเลี่ยงน้ำหวาน น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่ม

ชูกำลังเมื่อเสียเหงื่อมากๆ เพราะความหวานจากน้ำตาล

คือ ตัวการสำคัญที่ทำให้อ้วนเลยล่ะครับ

ลงไปว่ายในสระน้ำ แทนการว่ายน้ำในทะเล

ถ้าคุณอยากลดน้ำหนักให้ไปว่ายน้ำในสระน้ำ

แทน เพราะการว่ายในสระ จะได้ท่วงท่าและวัดปริมาณ

การออกกำลังได้มากกว่า ด้วยขนาดจำกัดของพื้นที่สระ

ทำให้ได้ผลที่รวดเร็ว

ออกไปเรียกเหงื่อข้างนอก แดดอ่อนๆ นั่น

แหละดี ควรไปออกกำลังกาย ด้วยการเดิน

หรือวิ่งในสวนก็ได้ หน้าร้อนแบบนี้ การออกกำลังกาย

กลางแจ้งกลับได้ผลดีกว่าการไปฟิตเนส และต้องอย่าลืม

พกน้ำดื่มติดตัวไปด้วย เพราะหน้าร้อนจะยิ่งทำให้คุณเสีย

เหงื่อมาก และอาจจะเป็นลมกลางแดดได้

หลกีเลีย่งเครือ่งดืม่ทีม่แีอลกอฮอล ์งานปารต์ี ้

หน้าร้อน ขาดไม่ได้ที่จะต้องมีเครื่องดื่มมึีนเมา

แต่รู้ไหมว่าเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นี่แหละ เป็นตัว

กักเก็บระบบเผาผลาญไขมันของคุณดีทีเดียว ที่สำคัญ

แอลกอฮอล์ยังทำให้คุณรู้สึกกระหายน้ำตลอดเวลาด้วย

แต่ถ้าหลีกเลี่ยงปาร์ตี้ไม่ได้จริงๆ แนะนำให้ดื่มน้ำสะอาด

ตามไปพร้อมๆ กัน

ออกกำลังกาย แล้วอย่าลืมทานอาหารให้ครบ

5 หมู่ เน้นผักสด ผลไม้รสหวานน้อย พักผ่อนให้เต็มที่

ที่สำคัญต้องทาโลชั่นกันแดดและโลชั่นบำรุงผิวทุกวัน

ด้วยครับ

เคล็ดลับ

ลดน้ำหนักช่วงหน้าร้อน

1.

2.

3.

4.

สอบถามข้อมูลเพ่ิมเติมได้ท่ี ศูนย์ผิวหนังและเลเซอร์

ช้ัน 17 รพ.วิภาวดี โทร. 0-2561-1111 ต่อ 3718-9

ด้วยความปรารถนาดีจาก

ศูนย์ผิวหนังและเลเซอร์ รพ.วิภาวดี

Page 9: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55

9

VIBHAVADI

ไมเกรน...ควบคุมได้

สาเหตุของปวดศีรษะไมเกรน เชื่อว่าสมองของ

ผู้ป่วยที่เป็นไมเกรน มีการไวในการตอบสนองต่อ

สิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจจะอยู่นอกร่างกายหรืออยู่ภายใน

รา่งกาย

อาการและอาการแสดง

ปวดศรีษะมากจนทำงานไมไ่ด ้ บางคนปวดจนน้ำตา ไหล สว่นใหญป่วด 4-72 ชัว่โมง ปจัจยัทีท่ำใหป้วดศรีษะมากขึน้ คอื การเคลือ่นศรีษะ ปวดศรีษะอาจมอีาการคลืน่ไส ้ถา้เปน็มากจะอาเจยีน โดยมากจะมสีิง่ทีก่ระตุน้ทำใหป้วดศรีษะไดแ้ก ่ แสงจา้ เยน็หรอืรอ้นจดั เสยีงดงั โดยมากเปน็ในอายนุอ้ย

ชนิดของไมเกรนที่พบบ่อย

1. Classic migrain : อาการมกัเกดิในชว่งวยัรุ่น เมื่ออายุมากขึ้นอาการปวดศีรษะจะลดลงจนกระทั่งหายขาด แต่ผู้ป่วยบางคนอาจจะมีอาการนำมาก่อน เช่น เหน็แสงแลบ ตามองไมเ่หน็ ชาซกีใดซกีหนึง่เราเรยีก classic migrain 2. Common migrain : อาการแสดงมักเกิดบริเวณหนา้ผาก รอบดวงตา ขมบัและขากรรไกร ปวดมกัเป็นข้างใดข้างหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ไม่มีอาการนำเรียก common migrain ไมเกรนเปน็โรครกัษาไมห่ายขาดแตถ่า้เขา้ใจและปฏบิตัติามคำแนะนำ สามารถทำใหค้วบคมุโรคได ้

ชนิดของไมเกรนที่พบไม่บ่อย

Hemiplegic migraine ออ่นแรงของแขนขาขา้งหนึง่ เปน็ระยะเวลาชว่งสัน้ๆ Ophthalmoplegic migraine ปวดศรีษะรว่มกบัหนงั ตาตก เหน็ภาพซอ้น Basilar artery migraine ก่อนปวดศรีษะจะมีอาการ เวยีนศรีษะ ทรงตวัไมไ่ด ้เหน็ภาพซอ้น Status migrainosus ผูป้ว่ยจะมอีาการปวดศรีษะนาน กวา่ 72 ชัว่โมงและมอีาการมากกวา่ปกต ิ

การวินิจฉัย อาศัยประวัติและการตรวจร่างกายเป็นส่วนใหญ ่เกณฑก์ารวนิจิฉยั ดงันี ้ จะตอ้งมอีาการปวดศรีษะ อยา่งนอ้ย 5 ครัง้ ปวดศรีษะนาน 4-72 ชัว่โมง ลกัษณะปวดศรีษะตอ้งประกอบดว้ยลกัษณะอยา่งนอ้ย 2 ประการ ปวดขา้งเดยีว และมอีาการปวดตุบ๊ๆๆ ปวดตุบ๊ๆๆ ปวดมากจนทำงานประจำไมไ่ด ้ ขึน้บนัไดหรอืเคลือ่นไหวทำใหป้วดมากขึน้ ขณะปวดศรีษะจะตอ้งมอีาการขา้งลา่งนีอ้ยา่งใดอยา่ง หนึง่ คลืน่ไสห้รอือาเจยีน แสงจา้หรอืเสยีงดงัทำใหป้วดศรีษะ

การรักษาในผู้ป่วยไมเกรน

1. รักษาด้วยการควบคุมอาการ

การควบคมุปจัจยัชกันำ หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นไมเกรน เช่น แอลกอฮอล ์ โดยเฉพาะไวน์แดง ผงชูรส เนย นม ช็อคโกแลต กล้วยหอม ผงชรูส ผลไม้ประเภทส้ม กาแฟและชา การนอน ควรนอนใหเ้ปน็เวลา งดการใชฮ้อรโ์มน เชน่ ยาคมุกำเนดิ ควบคมุความเครยีด เชน่ ออกกำลังกาย ทำสมาธ ิ ควบคุมปัจจัยสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงของ อณุหภมู ิอากาศ แสงไฟกระพรบิ กลิน่ทีฉ่นุเฉยีว 2. การรักษาด้วยการให้ยา

ส่วนมากเป็นยาลดและบรรเทาอาการปวด ซึ่งถ้า รับประทานเป็นเวลานานอาจส่งผลกระทบกับร่างกาย เช่น ระคายเคอืงกบักระเพาะอาหาร มผีลทำลายตบั เปน็ตน้ 3. การรักษาโดยไม่ต้องใช้ยา

มีรายงานว่าการรักษาโดยไม่ต้องใช้ยาก็สามารถบรรเทาอาการปวดศรีษะ การทำสมาธ ิ การจดัการกบัความเครยีด การฝงัเขม็ การออกกำลงักาย

ปวดศีรษะไมเกรนทีมอายุรแพทย์ระบบประสาทวิทยา รพ.วิภาวดี

Page 10: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55

VIBHAVADI

10

อาหารเป็นพิษ เกิดจากการรับประทาน

อาหาร หรือน้ำที่มีการปนเปื้อน หรือเกิดจากการ

ปนเปื้อนของสารเคมี

ลักษณะโรค มีอาการถ่ายอุจจาระเป็นน้ำและ

ปวดมวนท้องรุนแรงเป็นส่วนใหญ่ บางครั้งมีคลื่นไส้

อาเจียน เป็นไข้และปวดศีรษะ บางครั้งมีอาการคล้าย

เป็นบิด ถ่ายอุจจาระปนเลือดหรือมูก ไข้สูง ตรวจเลือด

พบจำนวนเม็ดเลือดขาวสูง เป็นโรคที่ไม่ค่อยรุนแรง

จนถึงเสียชีวิตได้ นอกจากกรณีที่มีการสูญเสียน้ำมาก มี

ระยะเวลาดำเนินโรค 1-7 วัน การติดเชื้อในระบบอื่นของ

ร่างกายและการตายพบได้น้อยมาก

ระยะฟักตัว ปกติ 12-24 ชั่วโมง หรืออยู่ในช่วง

4-30 ชั่วโมง

อาการ มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดมวนท้อง คลื่นไส้

อาเจียน ถ่ายเป็นน้ำ อาจมีมูกเลือดปน ส่วนใหญ่มี

อาการภายหลังรับประทานอาหารทะเล ที่ปรุงไม่สุกพอ

หรือ อาหารที่ปนเปื้อนอาหารทะเลหรือชะล้างด้วยน้ำ

ทะเลที่ปนเปื้อนเชื้อ

วิธีติดต่อ โดยการรับประทานอาหารที่ถูกเก็บไว้

ณ อุณหภูมิห้องหลังจากปรุงแล้ว ซึ่งทำให้เชื้อโรคมีการ

แบ่งตัวเพิ่มจำนวนขึ้น การระบาดที่มีอาการอาเจียนร่วม

ด้วย ส่วนมากพบเกี่ยวข้องกับข้าว (เช่น ข้าวผัดในร้าน

แบบบรกิารตนเอง) ผกัและอาหาร เนือ้ทีเ่กบ็รกัษาไมถ่กูตอ้ง

หลังจากปรุงแล้วก็เป็นสาเหตุได้

การรักษา รักษาตามอาการ ทดแทนด้วยน้ำและ

เกลือแร่ ด้วยสารละลายเกลือแร่ และน้ำตาลทางปาก

สามารถใช้ได้กับผู้ป่วยเกือบทุกราย การให้สารน้ำทาง

เส้นเลือดคงจำเป็นในผู้ป่วยที่มีการช็อค ในรายที่มีลำไส้

เน่าต้องให้ยาปฏิชีวนะ นาน 14 วัน และพิจารณาผ่าตัด

เมื่อมีข้อบ่งชี้

การป้องกัน โรคอาหารเป็นพิษทุกสาเหตุ

มาตรการปอ้งกนัโดยใชก้ฎหลกั 10 ประการ ในการเตรยีม

อาหารที่ปลอดภัย ดังนี้

1. เลือกอาหารที่ผ่านการเตรียมเป็นอย่างดี

2. ปรุงอาหารที่สุก

3. ควรกินอาหารที่สุกใหม่ๆ

4. ระมัดระวังอาหารที่ปรุงสุกแล้วอย่าให้มีการปน

เปื้อน

5. อ าหารที่ ค้ า งมื้ อ ต้ อ งทำ ให้ สุ ก ใหม่ ก่ อน

รับประทาน

6. แยกอาหารดิบและอาหารสุก ให้ระมัดระวัง

การปนเปื้อน

7. ล้างมือก่อนจับต้องอาหารเข้าสู่ปาก

8. ให้พิถีพิถันเรื่องความสะอาดของห้องครัว

9. เก็บอาหารให้ปลอดภัยจากแมลง หนู หรือสัตว์

อื่นๆ

10. ใช้น้ำสะอาด

โรคระบบทางเดินอาหาร

โรคอาหารเป็นพิษ

พญ.ดวงพร โชคมงคลกิจ อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหาร รพ.วิภาวดี

Page 11: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55

VIBHAVADI

พลังงาน และไขมันอาหารจานเดียว

11

ชนิดอาหาร

ชนิดอาหาร

ข�าวยำป�กษ�ใต�

ข�าวขาหมู

ข�าวแกงเขียวหวานไก�

ข�าวหมกไก�

ข�าวหมูแดง

ข�าวผัดใบกระเพราไก�

ข�าวผัดหมูใส�ไข�

ข�าวราดหน�าหน�อไม�ผัด

ข�าวหมูทอด

ข�างแกงไตปลา-หมูทอด

ข�าวไข�พะโล�

ข�าวมันไก�

ข�าวคลุกกะป�

โจ�กหมู

189

289

318

316

320

293

315

720

404

229

316

300

296

415

248

438

483

534

540

554

557

462

587

380

577

596

614

253

6.5

16.4

16.3

13.4

18

21.2

26.6

5

14

15

20

24.7

24.3

12

24

34

30

23

30

34

43

10

21

36

31

37

36

43

อาหารประเภทขาว

น้ำหนักตอจาน

(กรัม)

พลังงาน

(กิโลแคลอรี)

ไขมัน

(กรัม)

ไขมัน

(%)

น้ำหนักตอจาน

(กรัม)

พลังงาน

(กิโลแคลอรี)

ไขมัน

(กรัม)

ไขมัน

(%)

ก�วยเตี๋ยวเส�นใหญ�เย็นตาโฟน้ำ

ก�วยเตี๋ยวเส�นใหญ�ราดหน�าไก�

ก�วยเตี๋ยวเนื้อสับ

ก�วยเตี๋ยวเส�นเล็กแห�งหมู

ก�วยเตี๋ยวผัดไทยใส�ไข�

ก�วยเต๋ียวเส�นใหญ�ผัดซีอ้ิวหมูใส�ไข�

ก�วยเตี๋ยวหลอด

ก�วยจั๊บน้ำข�น

เส�นหมี่ลูกชิ้นน้ำ

เส�นหมี่เนื้อสดน้ำ

เส�นหมี่เนื้อเป��อยน้ำ

เส�นใหญ�หมูน้ำ

เส�นเล็กหมูแห�ง

บะหมี่หมูแดงน้ำ

บะหมี่หมูแห�ง

หมี่กรอบ

หมี่กะทิ

ผัดมักกะโรนีหมู

ขนมจีนน้ำพริก

ขนมจีนน้ำเงี้ยว

ขนมจีนน้ำยาป�กษ�ใต�

ขนมจีนน้ำยา

494

354

381

235

244

350

216

346

380

380

404

390

265

415

204

114

272

180

367

323

305

435

352

385

417

530

577

679

266

279

256

256

298

278

488

294

471

574

466

296

497

243

256

332

13.2

20.2

15.3

28.6

30

34

9

13

7

7

8

12

22

11

28

33.5

18.1

12

16.9

8.4

9.2

9.6

34

47

33

49

47

45

30

16

25

25

24

39

41

34

54

53

35

36

31

31

32

26

อาหารประเภทขาว

พิซซ�ารวมมิตร

(ขนาดกลาง 4 คน)

พิซซ�าทะเล

(ขนาดกลาง)

แซนด�วิชไก�

แซนด�วิชแฮม

แฮมเบอร�เกอร�เนื้อ

แฮมเบอร�เกอร�ไก�

ฮอทดอก

มันทอด

373

347

122

108

150

147

149

94

876

781

287

235

385

450

398

314

48

37

15

11

21

26

22

18

49

43

47

42

49

52

50

52

อาหารฟาสตฟูด

กระเพาะปลาปรุงสำเร็จ

หอยแมลงภู�ทอดใส�ไข�

ขนมผักกาดใส�ไข�

392

197

298

239

428

582

10.3

27.8

34.2

39

58

53

อาหารคาวอ�นๆ

พลังงานและไขมัน

ของอาหารจานเดียว

ดว้ยความปรารถนาดจีาก รพ.วภิาวดี

Page 12: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55

VIBHAVADI

อาหารเพื่อสุขภาพ

12

เครื่องหมักหมู

เนื้อหมูสันใน 100 กรัม

ซีอิ๊วขาว , แป้งข้าวโพด 2 ช้อนชา

น้ำมันหอย 1 ช้อนชา

เครื่องปรุงอื่น

กุ้งชีแฮ้สับละเอียด 50 กรัม

เห็ดหอม 2 ดอก

หน่อไม้ไผ่ตงสุก 100 กรัม

กุยช่ายขาวหรือถั่วงอก 100 กรัม

ต้นหอมหั่นเป็นทอนยาว 1 นิ้ว 6 ต้น

ขิงอ่อนซอยละเอียด 10 กรัม

ตับอ่อนหั่นแฉลบบางๆ 100 กรัม

เต้าหู้แผ่นหั่นเต๋า 100 กรัม

น้ำมันหอย, ซีอิ๊วขาว, น้ำตาล 2 ช้อนชา

แป้งข้าวโพด 2 ช้อนชา

พริกไทยป่น, น้ำมันงา 1 ช้อนชา

น้ำ ¼ ถ้วยตวง

แผ่นก๋วยเตี๋ยวแบบยังไม่ได้ตัด ½ กิโลกรัม

งาขาวคั่ว ¼ ถ้วยตวง

ซอสเปรี้ยว

วิธีทำ

1. หมักหมูส่วนแรกกับซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และ

แป้งข้าวโพด ทิ้งไว้ 20 นาที

2. ผัดเนื้อหมูที่หมักไว้กับน้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ ใส่กุ้ง

ผัดจนกระทั่งสุก ใส่ตับหมูและเต้าหู้ตักขึ้นให้สะเด็ด

น้ำมัน

3. ผัดส่วนผสมที่เหลือใช้ไฟแรงและเร็ว แล้วใส่หมู

กุง้ทีผ่ดัแลว้ เตมินำ้มนัหอย ซอีิว๊ขาว พรกิไทยปน่ นำ้มนังา

ใส่แป้งข้าวโพดที่ละลายน้ำไว้ผัดต่อจนสุก พักให้เย็น

จึงนำมาห่อ

วิธีห่อ

แผ่แป้งก๋วยเตี๋ยวตัดเป็นแผ่นขนาด 6x6 นิ้ ว

ตักส่วนผสมใส่ ม้วน 1 รอบ แล้วพับริมซ้ายและขวาเข้า

มาข้างละ ½ นิ้ว แล้วจึงม้วนให้แน่น นำไปนึ่งประมาณ

5 นาที โรยงาขาวคั่ว รับประทานกับซอสเปรี้ยว

ก๋วยเตี๋ยว

หลอด

ฮ่องเต้นายธีระเดช สวนเส

นักกำหนดอาหาร รพ.วิภาวดี

Page 13: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55

13

อุบัติเหตุของฟัน

และขากรรไกร

ทพ.ณพงษ์ พัวพรพงษ์

ทันตแพทย์จัดฟัน รพ.วิภาวดี

VIBHAVADI

รับมืออุบัติเหตุที่ ไม่คาดคิด

แล้วรีบไปพบทันตแพทย์ให้เร็วที่สุด ทันตแพทย์จะใส่ฟัน

กลับที่ เดิมแล้วยึดเอาไว้ไม่ให้หลุดออกมา การไปพบ

ทันตแพทย์ยิ่งไปเร็วเท่าไหร่ ความสำเร็จในการรักษาก็ยิ่งดี

มากขึ้นเท่านั้น โดยทั่วไปไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมง ภายหลัง

จากได้รับอุบัติเหตุ

ขากรรไกรหัก การจะดูว่าขากรรไกรหักหรือไม่

นั้น โดยมากจะสังเกตได้จาก เวลากัดฟันลงมาแล้ว ฟันไม่

ลงล็อคหรือตำแหน่งเดิม คางเบี้ยว อ้าปากหุบปากลำบาก

กลืนลำบาก การแก้ไขเบื้องต้น ทำได้โดยใช้ผ้าพันจากคาง

ขึ้นไปจนถึงกลางศีรษะ แล้วอ้อมลงมาอีกข้าง ให้เป็น

วงกลมแล้วมัดเอาไว้ เพื่อไม่ให้ขากรรไกรมีการขยับตัว

ห้ามพูดและห้ามใช้งาน วิธีนี้ผู้ป่วยอาจจะรู้สึกเหมือนกับ

กัดฟันเอาไว้ตลอดเวลา จากนั้นให้รีบมาพบทันตแพทย์

จะเห็นได้ว่า การแก้ปัญหาภายหลังที่เกิดอุบัติเหตุ

มักจะยุ่งยาก และผลของการรักษาอาจไม่เหมือนเดิม

ทางที่ดี เราควรป้องกันตัวเองไม่ให้เกิดอุบัติเหตุหรือถึงแม้

เกิดอุบัติเหตุ ก็จะช่วยบรรเทาไม่ให้มีอาการรุนแรงมากนัก

เช่น การสวมหมวกกันน็อค การคาดเข็มขัดนิรภัย การใส่

ฟันยางขณะเล่นกีฬา เป็นต้น และพึงระลึกอยู่เสมอว่า

“อุบัติเหตุป้องกันได้ ถ้าไม่ประมาท”

ถึงแม้ว่าไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุ แต่ทุกคนคงต้องยอมรับว่าอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่

ทุกเวลา การเตรียมพร้อมและรับทราบวิธีปฏิบัติตัวภายหลังเกิดอุบัติเหตุ จะช่วยลดความสูญเสียที่จะ

ตามมาในภายหลังได้

อุบัติเหตุที่เกิดบริเวณใบหน้ามักจะส่งผลกระทบมา

ที่ฟันและขากรรไกรด้วย อาการที่พบได้บ่อยๆ และวิธี

ปฏิบัติตัวหลังจากเกิดอุบัติเหตุบริเวณนี้มีดังต่อไปนี้

มีเลือดออก อาจมีสาเหตุมาจากปากแตก

เหงือกฉีกขาด ฟันหักหรือหลุดออกมา การบรรเทาอาการ

สามารถทำได้โดย การใช้ผ้าก๊อซสะอาด หรือถ้าหาไม่ได้ก็

ให้ใช้ผ้าสะอาดชิ้นเล็กๆ กดบริเวณแผลนั้นไว้นิ่งๆ หยุดพูด

และหยุดใช้งานปาก จากนั้นให้รีบพบทันตแพทย์

ฟนัหกัหรอืฟนับิน่ ถ้ามอีาการปวดฟนัรว่มดว้ย

อาจบรรเทาอาการปวดในขั้นแรกด้วย การรับประทานยา

แก้ปวดก่อน จากนั้นให้รีบมาพบทันตแพทย์เพื่อทำการ

รักษา ถ้าสามารถหาชิ้นส่วนฟันที่หักหรือบิ่นได้ให้นำติดตัว

มาด้วย การรักษาฟันหักหรือฟันบิ่นนั้นมีได้ตั้งแต่ การอุด

ฟัน การรักษารากฟัน หรือการถอนฟัน ขึ้นอยู่กับความ

รุนแรงที่เกิด

ฟันหลุดออกมาทั้งซี่ ในขั้นแรกควรเก็บฟัน

ที่หลุดออกมาแล้วนำไปล้างน้ำสะอาด ให้เศษดินทรายและ

ฝุ่นผงต่างๆหลุดออกไป แต่สิ่งสำคัญคิือ ห้ามขัดฟันเพื่อ

เอาเศษเนื้อเยื่อต่างๆ รอบฟันออก จากนั้นให้นำฟันที่ล้าง

น้ำแล้วนั้นไปแช่ในน้ำนม หรือถ้าหาไม่ได้ก็ให้อมไว้ในปาก

Page 14: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55

VIBHAVADI

เติมเต็ม...ให้กับชีวิตครอบครัว

แฝด 5...ส่ิงมหัศจรรย์ในชีวิต “ผมและภรรยา เรามีความพร้อม และเราก็อยาก

มีลูกมากๆ เราลองปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติมา

ประมาณ 3-4 ปีแล้ว แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จมีลูก

สมใจซักที อาจจะเป็นเพราะผมและภรรยาอายุห่างกัน

พอสมควร เลยทำให้มีลูกยาก เรา 2 คน จึงตัดสินใจมา

พบแพทย์ที่ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากฯ รพ.วิภาวดี”

ทราบได้อย่างไรคะว่า รพ.วิภาวดีมีศูนย์รักษา

ผู้มีบุตรยากฯ ?

“ทราบจากป้ายโฆษณา ที่ติดอยู่บนตึกของ

รพ.วิภาวดี แล้วก็หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตด้วยครับ”

ทีมสูติ-นรีแพทย์ ของ ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากฯ

รพ.วิภาวดี แนะนำว่าอย่างไรบ้างคะ ?

หลังจากที่ เรา 2 คนตรวจเช็คร่างกายอย่าง

ละเอียดแล้ว ไม่พบความผิดปกติใดๆ ของร่างกาย แต่

ด้วยอายุที่ห่างกันของเรา ทำให้มีบุตรยาก คุณหมอจึง

ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก รพ.วิภาวดี ประสบ-

ความสำเรจ็ไดท้ารกแฝด 5 คน เปน็เดก็ผูช้าย 2 คน

และเด็กผู้หญิง 3 คน ทั้ง 5 คนปลอดภยัด ีคณุธง

หรอืคณุปฐมพล ศรบิญัชาวรรณ วัย 54 ปี และ

คุณเกี้ยวกุ้ง หรือนางสาวจิตติกานต์ แก้วงาม

วัย 23 ปี คุณพ่อคุณแม่ของทารกแฝด 5 ได้บอก

กับเราว่า พวกเขาคือสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในชีวิต

และจะมาเล่าถึงความประทับใจให้ฟังค่ะ

แนะนำให้ทำ อิ๊กซี่ (อิ๊กซี่ คือการยิงสเปิร์มของผู้ชาย

เข้าไปในไข่ของผู้หญิง 5 วัน เมื่อปฏิสนธิแล้ว นำกลับมา

ฉีดในโพรงมดลูกของผู้หญิง ราคาจะสูงกว่า การทำเด็ก

หลอดแก้วนิดหน่อย แต่มีความชัวร์มากกว่า และเป็นวิธีที่

เหมาะสำหรับผู้ชายที่ค่อนข้างมีอายุหรือว่ามีสเปิร์ม

ไม่มาก แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายหญิงด้วย) เราทำตาม

คำแนะนำของแพทย์ หลังจากนั้นประมาณ 3 เดือน

ก็ทราบว่าภรรยาท้องแล้วครับ คุณธงกล่าว

ถามคุณเกี้ยวกุ้งบ้างนะคะว่า ความรู้สึกครั้งแรก

ที่รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง ?

“ดีใจมากๆ เลยค่ะ และแพ้ท้องมากเหมือนกัน

ทานอะไรก็อาเจียนออกมาหมดเลย คุณธงดูแลดิฉันดีมาก

พยายามหาของกินทุกอย่างมาให้ทาน ทั้งๆ ที่ตอนนั้น

เป็นช่วงน้ำท่วมพอดี ของกินหายากมากๆ แต่เรา 2 คนก็

มีความสุขท่ามกลางบรรยากาศน้ำท่วมได้”

14

คุณธง และคุณเกี้ยวกุ้ง

บิดา มารดา ของทารกแฝด 5 คน

Page 15: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55

15

ทราบตอนไหนคะว่า ได้น้องแฝด 5 คน ?

“ตั้งครรภ์ได้ 3-4 เดือน ก็ทำอัลตร้าซาวด์ดูค่ะ

แล้วทราบว่าได้ลูกแฝด 4 คน ผู้ชาย 2 คน ผู้หญิง

2 คน”

...พูดถึงตอนนี้แล้วเราก็ชักงงๆ ว่า.. แล้วแฝด

คนที ่ 5 มาไดอ้ยา่งไร เราจงึถามตอ่ไปวา่... แลว้

น้องคนที่ 5 มาได้อย่างไรคะ ?

“ ต้องบอกก่อนนะครับว่า เรา 2 คน ก็คิดว่าเรา

ได้ลูกแฝด 4 คน มาตลอด และเราเพิ่งทราบว่า เราได้

น้องคนที่ 5 ในวันที่ผ่าตัดคลอดครับ เพราะว่า ลูกคนที่

5 เค้าซ่อนตัวเองแบบมิดชิดมาก อัลตร้าซาวด์ทุกครั้งไม่

เคยเห็นเค้าเลย ซึ่งมันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มากเลยครับ

สำหรับผม แต่ว่าผมก็ชื้อเครื่องฟังหัวใจทารกมาฟังใน

ขณะที่พวกเค้าอยู่ในท้องแม่ ผมได้ยินเสียงหัวใจพวกเค้า

เต้น ผมฟังแล้วผมก็แอบคิดไปว่า.. น่าจะมีมากกว่า 4

คน และแล้วมันก็ เป็นอย่างที่ผมคิดไว้จริงๆ ด้วย

เพราะผมได้ลูกแฝด 5 คนครับ” (พูดด้วยสีหน้าที่อมยิ้ม

แบบมีความสุข)

..มาถึงวันที่ผ่าตัดคลอดนะคะ คุณเกี้ยวกุ้งช่วย

เล่าถึงความรู้สึกวันนั้นให้ฟังหน่อยค่ะ...

ตอนผ่าตัดคลอดดิฉันรู้สึกตัวตลอด ทั้งดีใจและ

กังวลใจว่าลูกจะปลอดภัยไหม... พวกเค้าทั้ง 4 คน จะ

แข็งแรงไหม... และยิ่งดีใจและตกใจสุดๆ เมื่อคุณหมอ

บอกว่า... คุณแม่ได้ลูกสาวเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 5 คน

ซึ่งดิฉันตกใจมาก เพราะไม่เคยรู้เลยว่า..ในท้องมีเค้าอยู่

ด้วย และแอบกังวลว่า เค้าจะปลอดภัยไหม แข็งแรงไหม

พอคุณหมอบอกว่าเค้าแข็งแรงดี และแถมยังมีน้ำหนัก

มากที่สุดอีกด้วย ดีใจแบบสุดๆ เลยค่ะ คุณเกี้ยวกุ้ง

กล่าว

คณุธง ละ่คะ ทราบตอนไหนวา่ไดล้กูสาวเพิม่อกี

1 คน ?

“วันที่คลอดครับ เพราะผมยืนรออย่างตื่นเต้นที่

หน้าห้องผ่าตัด ผมทราบตอนที่ พยาบาลเข็นลูกๆผม

ออกมา แล้วตากล้องที่ถ่าย VDO ของรพ. บอกกับผม

ว่า.. ตกลงมีน้องแฝด 5 คนนะครับ ไม่ใช่แค่ 4 คน ผม

ดีใจและตกใจมาก ขนลุกไปหมดเลย ดีใจมากๆ ผมคิด

ว่า...มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่สุดในชีวิตเลย แถมลูกสาว

ของผม คนที่ 5 นอกจากจะแข็งแรงดีแล้ว ยังมีน้ำหนัก

มากที่สุดอีกด้วย มหัศจรรย์มากๆ เลยครับ เค้าคงตั้งใจ

ที่จะเกิดมาเป็นลูกของเรา 2 คนจริงๆ”

วางแผนที่จะเลี้ยง พวกเค้าทั้ง 5 คน อย่างไร

บ้างคะ?

เราเตรียมพร้อมทุกอย่าง ตั้งแต่วันที่เราตั้งใจจะมี

บุตรแล้วครับ ขอแค่ให้พวกเค้าปลอดภัยและแข็งแรงดี

รวมถึงเติบโตขึ้นมาเป็นลูกๆ ที่น่ารักก็เพียงพอแล้ว.... อ้อ

แต่ก็เตรียมตั้งชื่อลูกทั้ง 5 คนไว้แล้วครับ ผู้หญิงคนโตชื่อ

น้องเอวี่ คนที่ 2 ชื่อ น้องแอลลี่ ผู้ชายคนที่ 3 ชื่อ น้อง

แอนดรูล์ ผู้ชายคนที่ 4 ชื่อ น้องแอนดริว และลูกสาวคน

ที่ 5 ชื่อ น้องเอมม่า คุณธงกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

สุดท้าย อยากให้ฝากบอกอะไรกับ คู่รักทุกคู่ที่

แต่งงานกันมานานแล้วยังไม่มีบุตร และฝากบอก

อะไรกับรพ.วิภาวดี หน่อยค่ะ

“สำหรับคู่ที่แต่งงานแล้วยังไม่มีบุตร แนะนำว่าควร

ที่จะมาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพราะว่ามัน

อาจจะเกิดจากปัจจัยหลายๆ อย่าง เพราะฉะนั้นควร

เลือก โรงพยาบาลที่มีความพร้อม และมีศักยภาพในการ

รักษาด้วยครับ” ...คุณเกี้ยวกุ้งล่ะคะ? “ดิฉันอยากจะ

ขอบคุณ ทีมแพทย์ของศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากฯ และ

รพ.วิภาวดีมากๆ ที่ทำให้เรา 2 คนมีลูก สมหวังเหมือนที่

ตั้งใจไว้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”

ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากและผ่าตัดผ่านกล้อง

รพ.วิภาวดี รู้สึกดีใจและภูมิใจ ที่เราเป็นส่วนหนึ่งที่

เติมเต็ม ครอบครัวศิริบัญชาวรรณ ให้สมบูรณ์

ด้วยของขวัญที่มหัศจรรย์ที่สุด รพ.วิภาวดี ภูมิใจที่ได้ดูแลคุณ Info. No.3

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก

และผ่าตัดผ่านกล้อง รพ.วิภาวดี

โทร. 0-2561-1111 ต่อ 1235

Page 16: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55

VIBHAVADI

ความเสี่ยงจากการทำงาน

16

พูดถึงการตรวจสุขภาพตามความเสี่ยง

หลายท่านอาจนึกถึง ความเสี่ยงจากการที่ เรามี

ประวัติครอบครัว (บิดา, มารดา) เป็นโรคเรื้อรัง

ต่างๆ ที่อาจส่งผลมาถึงเรา ความเสี่ยงจากการใช้

ชวีติ เชน่ การดืม่สรุา การสบูบหุรี ่การทานอาหารมนั

หรือความเสี่ยงจากสภาวะสุขภาพ เช่น หลายท่าน

อาจรู้สึกเหนื่อยง่าย ใจสั่น ซึ่งอาจสัมพันธ์กับโรค

ทางระบบหายใจหรือระบบหัวใจและหลอดเลือด

เป็นต้น แต่ในหัวข้อนี้ จะขอพูดถึงการตรวจสุขภาพ

ตามความเสี่ยงจากการทำงาน

ความเสี่ยงจากการทำงานเกิดขึ้น จากการสัมผัส

สิ่งคุกคามในรูปแบบต่างๆ ตามลักษณะงานที่อาจส่งผล

กระทบต่อสุขภาพได้ เช่น สิ่งคุกคามทางกายภาพ (การ

ทำงานในที่เสียงดัง การทำงานกับรังสี การทำงานที่มี

แรงสั่นสะเทือน etc.) สิ่งคุกคามทางชีวภาพ (เชื้อโรค

ต่างๆ) สิ่งคุกคามด้านสารเคมีประเภทต่างๆ รวมถึงการ

ทำงานที่ผิดหลักการยศาสตร์ เป็นต้น ดังนั้นการตรวจ

สุขภาพตามความเสี่ยง จึงถือเป็นการเฝ้าระวังความ

ผิดปกติของสุขภาพ ที่อาจเกี่ยวเนื่องจากการทำงานได้

แต่เนิ่นๆ ซึ่งประกอบด้วย

1. การตรวจรา่งกายโดยแพทยอ์าชวีเวชศาสตร ์

(Physical Examination)

แพทยจ์ะทำการซกัประวตักิารทำงาน และตรวจ

รา่งกาย เพือ่คน้หาอาการและอาการแสดงทีส่มัพนัธก์บั

ความผดิปกตทิีเ่กดิขึน้ เชน่ การตรวจการทำงานของ

ระบบประสาท ในผูท้ีท่ำงานสมัผสักบัสารตวัทำละลาย

การตรวจหาโรคผวิหนงัอกัเสบ ในผูท้ีท่ำงานสมัผสัสาร

ระคายเคอืงและสารกอ่ภมูแิพ ้เปน็ตน้

2. การตรวจสมรรถภาพการไดย้นิ

(Audiometry)

ตรวจในผูท้ีท่ำงานสมัผสัเสยีงดงั โดยพบวา่ในผู้

ที่ทำงานสัมผัสเสียงดังนั้น การได้ยินที่เสียงความถี่สูง

จะเริ่มแย่ลงก่อน จากนั้นถ้ายังสัมผัสเสียงดังต่อไป

เรือ่ยๆโดยไมม่กีารใชอ้ปุกรณป์อ้งกนัเสยีงดงั การไดย้นิ

ทีค่วามถีเ่สยีงพดูคยุจะแยล่งตามมา (หตูงึ)

การตรวจสมรรถภาพการไดย้นิ จะชว่ยบอกถงึ

ความสามารถในการไดย้นิเสยีงทีค่วามถีต่า่งๆ ดงันัน้

จงึมปีระโยชนใ์นการชว่ยคดักรองความผดิปกต ิ ทีเ่กดิ

ขึ้นได้แต่แรกเริ่มจากการสัมผัสเสียงดัง เพื่อป้องกันมิ

ใหเ้กดิภาวะประสาทหเูสือ่ม จากการสมัผสัเสยีงดงัขึน้

มาตรวจสุขภาพ

“ตามความเส่ียง”

กันเถอะนพ.ณัฐพล ประจวบพันธ์ศรี

แพทย์อาชีวเวชศาสตร์ (วุฒิบัตร)

ผูอ้ำนวยการศนูยส์ขุภาพและอาชวีอนามยั

รพ.วิภาวดี

Page 17: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55

17

3. การตรวจสมรรถภาพปอด

(Spirometry)

การทำงานบางประเภท อาจต้องสัมผัสกับสารที่ส่ง

ผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น ผู้ที่ทำงานสัมผัส

กับฝุ่นฝ้ายอาจมีอาการไอ แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก

หรือการทำงานสัมผัสสารบางประเภท (เช่น แป้งสาลี

สารจำพวก latex, isocyanate) อาจกระตุ้นให้เกิดภาวะ

หอบหืดได้ เป็นต้น

การตรวจสมรรถภาพปอด จึงเป็นการคัดกรอง

ความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ จากการสัมผัส

สารต่างๆ ดังที่ได้ยกตัวอย่างมา

4. การตรวจสมรรถภาพสายตาทางอาชีวเวช-

ศาสตร ์(Occupational Vision Test)

เนื่องจากงานในแต่ละประเภทจำเป็นต้องใช้

สมรรถภาพของสายตาทีแ่ตกตา่งกนัออกไป เชน่ พนกังาน

ขับรถ อาจต้องใช้ความคมชัดของสายตาในการมองภาพ

ระยะไกล การกะระยะความชัดลึก การมองภาพสี และ

ลานสายตาที่ดีพอ ในขณะที่ผู้ที่ทำงานเจียระนัยเพชร

พลอย อาจต้องใช้ความคมชัดของสายตาในการมองภาพ

ระยะใกล้ที่ดี

การตรวจสมรรถภาพสายตา ทางอาชีวเวชศาสตร์

จึงเป็นการตรวจเพื่อประเมินว่า สมรรถภาพสายตาของ

ผูเ้ขา้รบัการตรวจนัน้ ดเีพยีงพอกบัลกัษณะงานทีท่ำหรอืไม่

เนื่องจากเครื่องมือดังกล่าวสามารถประเมินได้ถึง ความ

คมชัดของสายตาทั้งระยะไกลและระยะใกล้ ลานสายตา

การกะระยะความชัดลึก การมองภาพสี ตลอดจนความ

สมดุลของกล้ามเนื้อตา

5. การตรวจสารบง่ชีท้างชวีภาพ

(Biomarkers)

การทำงานในหลายๆ กิจการ ล้วนต้องมีการสัมผัส

สารเคมีประเภทต่างๆ เช่น สารโลหะหนัก (ตะกั่ว,

สารหนู etc.), สารตัวทำละลาย (เบนซีน, โทลูอีน etc.),

สารปราบศัตรูพืช เป็นต้น ซึ่งถ้าได้รับในปริมาณที่สูง

อาจก่อให้เกิดภาวะเป็นพิษจากสารเคมีต่างๆ เหล่านั้น

โดยเราสามารถตรวจระดับการรับสัมผัสสารนั้นๆ ว่าเข้าสู่

ร่างกายสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่หน่วยงานต่างๆ กำหนด

ไว้หรือไม่ด้วยการตรวจสารบ่งชี้ทางชีวภาพ ผ่านทางเลือด

หรือปัสสาวะ ในรูปของสารนั้นโดยตรงหรือผ่านทาง

เมตาโบไลท์ของสารนั้นๆ

การตรวจสารบ่งชี้ทางชีวภาพ จะช่วยคัดกรองถึง

ระดับการรับสัมผัสสารนั้นๆ เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเป็นการเฝ้า

ระวังทางสุขภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดปกติจาก

การสัมผัสสารเคมีต่างๆ เหล่านั้น

6. การตรวจอืน่ๆ

การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ในผู้ที่ทำงาน

สัมผัสกับรังสี การตรวจเอกซเรย์ปอด ในผู้ที่ทำงานสัมผัส

กับฝุ่นซิลิกา เป็นต้น

ในการตรวจสุขภาพ แพทย์อาชีวเวชศาสตร์จะเป็น

ผู้แนะนำรายการตรวจที่เหมาะกับผู้ทำงานในแต่ละท่าน

โดยดูจากความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากลักษณะงาน

หวังว่าอ่านบทความนี้แล้ว ทุกท่านคงหันมาให้

ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพตามความเสี่ยงซึ่ง

แตกต่างกันในแต่ละประเภทของงาน ทั้งนี้เพื่อป้องกัน

ปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นแต่เนิ่นๆ และช่วยให้ทุกท่าน

สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพต่อไป

Page 18: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55

VIBHAVADI

แนะนำแพทย์ใหม่

แพทยศาสตร์บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อพ.ศ. 2545

วุฒิบัตร สาขาจักษุวิทยา จากรพ.เมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง ) เมื่อพ.ศ.2551

ประกาศนียบัตร Orbital and Ophthalmic Plastic and Reconstructive Surgery

จาก Newyork, USA.

เวลาออกตรวจ วันอาทิตย์ เวลา 09.00-12.00 น. (1, 2, 3, 5)

แพทย์หญิงอารีย์ นิมิตรวงศ์สกุล AREE NIMITWONGSAKUL, M.D จักษุแพทย์

18

เพียงคุณร่วมสนุก ตอบคำถามชิงรางวัล พร้อมกับแสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับวารสาร Vibhavadi.com

มีรางวัล

ตอบดี

การเลือกซื้อครีมกันแดด SPF ที่เหมาะสม คือ

ค่าเท่าไหร่?

คำถามประจำฉบับนี้คือ

ส่งคำตอบพร้อมกับเบอร์โทรศัพท์ มาที่

คุณธีรวดี ยิ่งมี แผนกประชาสัมพันธ์ (ชั้น 4) รพ.วิภาวดี

51/3 ถ.งามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. 10900

(วงเล็บมุมซองว่า ตอบคำถามชิงรางวัล) หรือ Fax. 0-2561-1462

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ แผนกประชาสัมพันธ์

โทร. 0-2561-1111 ต่อ 2410, 2432

คุณจะได้รับเสื้อ Happy & Healthy ฟรี

(10 ท่านแรก)

Page 19: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55

รางวัล website อันดับ 1 (5 ปี ซ้อน)

www.vibhavadi.com รับรางวัล Truehis Web Award 2011 เป็น website อันดับ 1 ในหมวดโรงพยาบาลที่มีผู้เยี่ยมชมสูงสุด 5 ปี ซ้อน โดย นพ.พร้อมพงษ์ พีระบูล ผอ.รพ.วิภาวดี เป็นตัวแทนในการรับมอบ จาก ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ณ โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ รัชดา เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา

เดอืนของวนัผูส้งูอาย ุ

รพ.วิภาวด ี จัดกิจกรรมสุขภาพ เดือนเมษายน

“เดือนของวันผู้สูงอายุ” เพื่อให้ทุกคนตระหนักและหันมา

ดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุกันมากขึ้น ภายในงาน พบกับ

กิจกรรมสุขภาพมากมาย อาท ิHealth Talk จากแพทย ์

ผู้เชี่ยวชาญรพ.วิภาวด ี เรื่อง “ปัญหากระดูกและข้อของ

ผูส้งูอาย”ุ และการออกกำลงักายของผูส้งูอาย ุ ฯลฯ พรอ้ม

ใหบ้รกิาร ตรวจวดัมวลกระดกูขอ้เทา้ และวดัความดนัโลหติ

ณ บรเิวณหนา้บนัไดเลือ่น ชัน้ G รพ.วภิาวดี

รวมพลคน Rh

รพ.วิภาวด ี ร่วมกับ สภากาชาดไทย จัดงาน

“รวมพล หมูเ่ลอืดคนหายาก” โดยที ่รพ.วภิาวด ีใหบ้รกิาร

ตรวจสขุภาพเบือ้งตน้ อาท ิ ตรวจดชันมีวลกาย ตรวจวดั

ปรมิาณไขมนัใตผ้วิหนงั ตรวจวดัมวลกระดกูขอ้เทา้ ฯลฯ

ณ ธ.ไทยพาณชิยส์ำนกังานใหญ ่(SCB) พหลโยธนิ เมือ่

วนักอ่น

19

VIBHAVADI

รอบรั้ววิภาวดี

คลินิกลอยฟ้าเฉลิมพระเกียรต ิ

นพ.ชยัสทิธิ ์คปุตว์วิฒัน ์รองกรรมการ

ผู้จัดการ รพ.วิภาวดี ร่วมเปิดงาน “คลินิก

ลอยฟ้าเฉลิมพระเกียรติ” ครั้งที่ 10 โดย

รพ.วิภาวดี ให้บริการตรวจสุขภาพให้กับ

ประชาชน ฟรี เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนมี

สุขภาพที่ดี ณ สถานีรถไฟฟ้าพญาไท

เมื่อเร็วๆ นี้

Page 20: วารสารความรู้ โรงพยาบาลวิภาวดี ฉบับ เม.ย.-มิ.ย. 55

Top Related