antidesma sp
TRANSCRIPT
นำำโดย
ผูอ้ำำนวยกำร มำโนช นำคสมบูรณ์
โรงเรียนนำโพธิ์พิทยำคม
เขม่ำป่ำ
ชื่อพื้นเมือง : หมำกเหม่ำ
ชื่อวิทยำศำสตร ์ : Antidesma sp.
ชื่อวงศ์ : EUPHORBIACEAE
ชื่อสำมัญ : -
ชื่ออื่นๆ : หมำกเหม่ำ(อิสำน), สม้กุ้ง(โครำช)
ชื่อ
เขม่ำป่ำเป็นพืชพื้นเมืองของภำคตะวนัออกเฉียงเหนือ เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ ชอบขึ้นตำมป่ำรว่มกับพนัธุ์ไม้ชนิดอื่นในลักษณะพึง่พำอำศัยซึง่กันและกัน คนในท้องถิน่นิยมนำำผลมำรับประทำนเล่นเป็นของวำ่งจิ้มพรกิเกลือเพรำะมีรสเปรี้ยว เป็นยำระบำยและเปลือกสำมำรถนำำมำเป็นสยี้อมผ้ำให้สนีำ้ำตำลอ่อนที่สวยงำม
ลักษณะ
กำรศึกษำเขม่ำป่ำครั้งนี้เรำได้แบ่งหัวข้อในกำรศึกษำเป็น 3 ด้ำน ดังนี้
กำรศึกษำเขม่ำ
ด้ำนรูปร่ำงลักษณะด้ำนคุณสมบัติด้ำนพฤติกรรม
กำรศึกษำ
เป็นไม้ต้น รูปทรงลำำต้นตั้งตรง รูปร่ำงทรงพุ่มเป็นรูปโดมสำมเหลี่ยมกำรแตกกิ่งของลำำต้นเป็นแบบแตกกิ่งมำก (Deliquescent branching) ลำำต้นไม่มีข้อปล้อง
ลักษณะ
คุณสมบัติของรำก ระคำยเคืองเมื่อสมัผัส สขีองนำ้ำยำงขำวใส ลักษณะกำรแตกกิ่งก้ำนเป็นร่ำงแห มีกลิ่นอ่อนๆ ไม่มีพษิ ทนทำนต่อแมลงคุณสมบัติทำงเคมีเป็นเบส
รำก
เป็นลำำต้นเหนือดินตั้งตรงเองได้ ลำำต้นมียำง สขีองนำ้ำยำงใส ผิวของลำำต้นขรุขระแตกเป็นสะเก็ด สกีิ่งเป็นสีเทำดำำกลำงๆ
ลำำต้น
ใบเดี่ยวลักษณะกำรเรียงตัวของเส้นใบ เรียงแบบร่ำงหำควำมยำวของก้ำนใบ ประมำณ 0.5 เซนติเมตร สขีองก้ำนใบสีเขียวแก่ไม่มีหูใบ
ลักษณะรูปร่ำงของใบเป็นรูปไข่หรือไข่กลับ ลักษณะปลำยใบเป็นแบบติ่งหนำม ลักษณะโครงใบมน ลักษณะขอบใบเป็นขนครุยขนำดของใบ ควำมยำว 2-3 นิ้ว ควำมกวำ้ง 1 – 1.5 นิ้ว
ใบ
สขีองใบ ใบอ่อนสเีขียวอ่อนของ ใบแก่สเีขียวแก่ ลักษณะกำรเรียงตัวของใบ เรียงสลับในระนำบเดียวกันผิวใบเกลี้ยงหรือมีขนขึ้นเล็กน้อยตำมเสน้ใบและด้ำนหลังใบ ควำมเหนียวของใบปำนกลำง
สีของใบ
ชนิดของดอก เปน็ดอกช่อชนิดที่เรียกว่ำ รำซีม (Raceme) ตำำแหน่งที่ออกดอก ซอกใบและปลำยยอด รูปทรงของดอก และดอกย่อย ไม่สมมำตร สขีองดอก เมื่ออ่อนสีจะเหลืองนวลและจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสแีดงเมื่อใกล้จะร่วง
ดอก
จำำนวนเกสรเพศผู้ ในแต่ละดอกย่อยมี 4 – 5 อัน และแต่ละชอ่มีดอกย่อยอยู่ 45 – 50 ดอก กลิ่นของดอก มีกลิ่นหอมซึ่งสำมำรถไล่แมลงได้ ดอกเป็นดอกไม่สมบูรณ์เพศ แยกเพศ แยกต้น ขนำดของดอกเล็กมำก ควำมยำวของก้ำนดอก 0.2 เซนติเมตร
จำำนวนเกสร
ชนิดของผล ผลสด ออกเปน็กลุ่ม รูปทรงของผลกลมเบี้ยว สขีองผลอ่อนสเีขียวและสขีองผลแก่เขียวแก่และเมื่อสกุจะมีสีแดงคลำ้ำเกือบดำำ ลักษณะพเิศษของผล อยู่รวมกันเป็นชอ่ ขนำดของผล ประมำณ 0.5 เซนติเมตร
ผล
เมล็ด จำำนวน 1 เมล็ด/ผล รูปร่ำงของเมล็ดกลม ขนำดของเมล็ดเล็กมำก สขีองเมล็ด สีนำ้ำตำลอ่อน กำรงอกของเมล็ด ใบเลี้ยงอยู่เหนือดิน สำมำรถใชข้ยำยพนัธุ์ได้
เมล็ด
รสชำติใบฝำดอมเปรี้ยวเล็กน้อย ใบไม่ระคำยเคืองเมื่อสัมผัส ใบเขม่ำป่ำไม่มีพษิ กลิ่นของใบหอมอ่อนๆ ควำมเหนียวของใบปำนกลำง ใบเขม่ำป่ำไม่ทนทำนต่อแมลง ผิวของใบเกลี้ยงแต่ใต้ใบมีขนเล็กๆ
คุณสมบัติ
คนในท้องถิน่นิยมนำำผลมำรับประทำนเป็นของวำ่ง ต้นใช้เป็นร่มเงำ เปลือกสำมำรถนำำมำเป็นสีย้อมผ้ำให้สีม่วงอมชมพู เปลือกต้นฝำดสมำนลิ้น ใช้บำำรงุกำำลัง ใบทำแก้ปวดศีรษะ แก้โรคผิวหนัง ท้องบวม
พฤติกรรม
แมลงบำงชนิด เช่น ด้วงงวงชำ้งชอบเจำะกินใบเป็นรอยหยักลึกจนถงึเส้นกลำงใบ เมื่อออกดอกมี แมลงหวี่, แมลงวัน, ผึ้ง, แมลงวันหัวเขียวมำตอมดอกบำนตลอดทั้งวนั โดยดูดนำ้ำหวำนจำกเกสร เป็นจำำนวนมำกซึ่งเป็นกำรช่วยผสมเกสรในกำรขยำยพนัธุ ์
พชืกับสัตว์
เขม่ำจะขึ้นได้ดีในบริเวณที่มีต้นกล้วย ต้นกระถนิ ต้นขี้เหล็กสำร ไม้เหล่ำนี้มีอิทธิพลต่อกำรเจริญเติบโตของเขม่ำป่ำเพรำะชอบอยู่ร่วมกับพนัธุ์ไม้ชนิดอื่น และนอกจำกนี้ยังมีต้นไม้อื่นมำพึ่งพำ เชน่ กำฝำก เถำวลัย์ และไม้อื่นๆ
พชืกับพืช
มีจุลนิทรีย์ขึ้นที่เปลือกของลำำต้น เมื่อต้นโตขึ้นจะแตกเปน็สำยและหลุดลอกหรือผลัดเปลือกใหม่ จุลนิทรีย์ที่ย่อยสลำยส่วนเปลือกมีกำรย่อยสลำยมำกในฤดูฝน เพรำะควำมชื้นมีอิทธิพลในกำรย่อยสลำยของเปลือกมำก
พชืกับจุลินทรยี์
ต้นเขม่ำปำ่ใช้เป็นร่มเงำ ผลรับประทำนเป็นของวำ่งและเป็นยำระบำย เปลือกของลำำต้นใช้ทำำเป็นสยี้อมผ้ำโดยให้สีนำ้ำตำลอ่อน
ประโยชน์