16 - electromagnetic wave - exercise.pdf
DESCRIPTION
Electromagnetic Wave - ExerciseTRANSCRIPT
ติวสบายฟิสกิส ์ เลม่ 4 http://www.pec9.com บทท่ี 16 คลืน่แม่เหลก็ไฟฟ้า
54
ตะลุย โจทย์ทั่ วไป ฟิสิกส์บทที่ 16 คลื่ นแม่เหล็กไฟฟ้า
การแผ่คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า
1. คล่ืนแมเ่หล็กไฟฟ้าเกดิจาก 1) การเหน่ียวน าอยา่งตอ่เน่ืองระหวา่งสนามแมเ่หล็กและสนามไฟฟ้า 2) กระแสไฟฟ้าคงท่ีไหลผา่นเส้นลวดตวัน า
ค าตอบท่ีถูกคือ 1. ขอ้ 1. 2. ขอ้ 2. 3. ขอ้ 1. และขอ้ 2. 4. ไมม่ขีอ้ถูก
2. คล่ืนแมเ่หล็กไฟฟ้ามแีหลง่ก าเนิดไดจ้าก ก. ประจุไฟฟ้าเคล่ือนท่ีดว้ยความเรง่ ข. วตัถุท่ีมอุีณหภูมสูิงมาก ๆ
ค. การสลายตวัของธาตุกมัมนัตรังสี ง. เคร่ืองปฏิกรณ์ปรมณ ู ค าตอบขอ้ใดท่ีถูกต้อง 1. ขอ้ ก. เทา่นั้น 2. ขอ้ ก. และ ค. 3. ขอ้ ก. และ ค. 4. ถูกทุกขอ้
3. การเปล่ียนแปลงสนามแมเ่หล็กจะเหน่ียวน าให้เกดิสนามไฟฟ้าข้ึน ซ่ึงจะเกดิสนามไฟฟ้าได ้กต็อ่เมือ่บริเวณนั้นเป็นอะไร
1. ตวัน า 2. ฉนวน 3. สุญญากาศ 4. ถูกทุกขอ้
4. เมือ่เกดิคล่ืนแมเ่หล็กไฟฟ้าส่ิงท่ีเคล่ือนไปกบัคล่ืนคือ 1. พลงังาน 2. ประจุไฟฟ้า 3. นิวตรอน 4. ไมม่ขีอ้ถูก
5. ทิศทางของสนามแมเ่หล็กของคล่ืนแมเ่หล็กไฟฟ้าจะอยูใ่นแนวใด 1. ขนานกบัทิศของสนามไฟฟ้า 2. ขนานกบัทิศของการเคล่ือนท่ีของคล่ืน 3. ตั้งฉากกบัทิศของคล่ืนและสนามไฟฟ้า 4. มทิีศไมแ่นน่อน
สเปกตรัมคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า
6. คล่ืนแมเ่หล็กไฟฟ้าทุกชนิดมคีณุสมบติัท่ีเหมอืนกนัคือ 1. มคีวามเร็วเทา่กบัแสง 2. มคีวามถ่ีเทา่กบัแสง 3. มคีวามยาวคล่ืนเทา่กบัแสง 4. มพีลงังานเทา่กบัแสง
ติวสบายฟิสกิส ์ เลม่ 4 http://www.pec9.com บทท่ี 16 คลืน่แม่เหลก็ไฟฟ้า
55
7. คล่ืนแมเ่หล็กไฟฟ้าตอ่ไปน้ี คล่ืนชนิดใดมพีลงังานมากท่ีสุด 1. คล่ืนวทิยุ 2. รังสีอินฟราเรด 3. แสง 4. รังสีเอกซ์
8. คล่ืนตอ่ไปน้ีชนิดใดท่ีมคีวามถ่ีสูงสุด 1. รังสีแกมมา 2. รังสีอุลตราไวโอเลต 3. ไมโครเวฟ 4. คล่ืนวทิยุ
9. ขอ้ใดเรียงคล่ืนแมเ่หล็กไฟฟ้าชนิดตา่งๆ ตามความถ่ีจากน้อยไปมากไดถู้กต้อง 1. รังสีแกมมา แสง ไมโครเวฟ คล่ืนวทิยุ 2. คล่ืนวทิยุ ไมโครเวฟ แสง รังสีแกมมา 3. คล่ืนวทิยุ แสง ไมโครเวฟ รังสีแกมมา 4. ไมโครเวฟ คล่ืนวทิยุ แสง รังสีแกมมา
10. ขนาดความเขม้ของสนามแมเ่หล็กของคล่ืนแมเ่หล็กไฟฟ้าในขณะใดๆ มคีา่ตามขอ้ใด 1. เทา่กบัสนามไฟฟ้า
2. เป็นปฏิภาคโดยตรงกบัความเข้มของสนามไฟฟ้า 3. เป็นปฏิภาคผกผนักบัความเข้มของสนามไฟฟ้า 4. ไมข้ึ่นอยูก่บัสนามไฟฟ้า
11. ถา้คล่ืนวทิยุในอากาศมอีตัราเร็ว 3 x 108 เมตร/วนิาที และความถ่ี 500 กโิลเฮิร์ตซ คล่ืน วทิยุน้ีมคีวามยาวคล่ืนเทา่ใดในหนว่ยของเมตร
1. 1.67 x 10–3 2. 3.33 x 10–5 3. 6.00 x 102 4. 8.00 x104
12. สถานีวทิยุกระจายเสียงแหง่หน่ึงออกอากาศด้วยความถ่ี 101.5 เมกะเฮิร์ตซ จงหาความ ยาวคล่ืนของคล่ืนแมเ่หล็กไฟฟ้าท่ีสง่จากสถานีนั้นมขีนาดเทา่กบักีเ่มตร
13. คล่ืนวทิยุ 2 คล่ืน มีความถ่ี 1.5 x 108 และ 3 x 107 เ ฮิ ร์ตซ ตามล าดับ คล่ืนวิทยุทั้ง สองน้ีจะมคีวามยาวคล่ืนตา่งกนักีเ่มตร 1. 1.5 2. 4.0 3. 8.0 4. 12.0
14. คล่ืนท่ีสามารถสะทอ้นได้จากบรรยากาศช ั้นไอโอโนสเฟียร์ คือ 1. เรดาร์ 2. ไมโครเวฟ 3. อลัตราไวโอเลต 4. คล่ืนวทิยุ
ติวสบายฟิสกิส ์ เลม่ 4 http://www.pec9.com บทท่ี 16 คลืน่แม่เหลก็ไฟฟ้า
56
15. คล่ืนแมเ่หล็กไฟฟ้าท่ีมไีดเ้ฉพาะคล่ืนดิน คือ 1. คล่ืนท่ีมคีวามยาวคล่ืนน้อยกวา่คล่ืนวทิยุระบบ เอฟเอ็ม 2. คล่ืนท่ีมคีวามยาวคล่ืนมากกวา่คล่ืนวทิยุระบบ เอฟเอ็ม 3. คล่ืนท่ีมคีวามยาวคล่ืนน้อยกวา่คล่ืนวทิยุระบบ เอเอ็ม 4. คล่ืนท่ีมคีวามยาวคล่ืนมากกวา่คล่ืนวทิยุระบบ เอเอ็ม
16. การตรวจหาต าแหนง่ของวตัถุด้วยเรดาร์อาศยัการสง่คล่ืนแมเ่หล็กไฟฟ้าในขอ้ใด 1. คล่ืนส้ัน 2. อินฟราเรด 3. ไมโครเวฟ 4. อลัตราไวโอเลต
17. คล่ืนท่ีใชใ้นการส่ือสารระยะทางไกลๆ ขา้มทวปีไดโ้ดยใชด้าวเทียมเป็นตวัรับสัญญาณขยาย ให้แรงข้ึน แลว้จึงสง่ตรงไปยงัสถานีรับท่ีอยูไ่กลๆ คือ คล่ืนชนิดใด
1. คล่ืนวทิยุ 2. เรดาร์ 3. ไมโครเวฟ 4. คล่ืนแสง
18. เมือ่นักบินอวกาศไปลงบนดวงจนัทร์สามารถพดูคยุกบัคนท่ีอยูบ่นโลกได ้ การติดตอ่จะตอ้ง ใชค้ล่ืนชนิดใดสง่ระหวา่งโลกกบัดวงจนัทร์
1. คล่ืนเสียง 2. ไมโครเวฟ 3. คล่ืนวทิยุและโทรทศัน์ 4. แสงเลเซอร์
19. คล่ืนแสงท่ีตาสัมผสัได้มอียูด่้วยกนัหลายสี องค์ประกอบสว่นใดของคล่ืนแสงท่ีท าหน้าท่ี ก าหนดสีของแสงแตล่ะชนิด
1. ความถ่ี 2. แอมพลิจูด 3. ความยาวคล่ืน 4. ขอ้ 1. และ 3. ถูก
โพลาไรเซชันของคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า
20. แสงไมโ่พลาไรซ์ตกกระทบผิววตัถุ โดยท ามุมตกกระทบเทา่กบั 60 องศา พบวา่แสง สะทอ้นจากผิววตัถุเป็นแสงโพลาไรซ์ ดรรชนีหักเหของวตัถุน้ีเป็นเทา่ใด