สถานนที่ท่องเที่ยว ที่จะเรียกว่า ทั้งชายหาดมีแต่

รีสอร์ทก็ว่าได้ หรือเป็นเพราะธรรมชาติเลือกพวก

เค้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ดูแล้วการท่องเที่ยวกับ

ธรรมชาติที่นี่ไปด้วยกันจะเรียกว่าสมบูรณ์ก็ไม่ผิดเลย

ทีเดียว

ที่นี่อากาศค่อนข้างดี ลมเย็นๆ บวกกับ ไอเกลือ

จากดินแดนทะเลใต้ ช่างทำาให้นักเดินทางมือใหม่

อย่างฉัน เริ่มหลงใหลในสเน่ห์ของความความเงียบงัน

ที่รื่นรมณ์ แม้จะได้ข่าวมาว่า คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์

เต็มดวง ฉันถึงได้ร้อง “อ๋อ” ในใจ ว่าทำาไมที่นี่ถึงได้

เงียบ แอบคิดเล็กว่า คนที่นี่ เขาคงชอบมองพระจันทร์

กันเนอะ

ปุ๊บปั๊บ ฉันก็ต้องออกจากพะงัน ไปยัง สมุย

แล้วสิ สมุยเป็นเกาะที่ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว ใน

บรรดาเกาะที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวกัน หนึ่งใน

นั้นก็คือ เกาะสมุยแห่งนี้แหละ ฉะนั้น มันจะต้องมี

อะไรดีๆ ฉันแอบคิดในใจ

“การเดินทางกำาลังจะเริ่มขึ้นแล้ว” เสียงนี้ดังอยู่

ในใจตลอดสัปดาห์แห่งการเตรียมตัวเพื่อจะไปเที่ยว

ในทริป เยือนสมุย – พะงัน และอีกไม่กี่อึดใจหลังจาก

นั้น ก็ได้มายืนบนเรือเฟอร์รี่ มุ่งหน้าไปยังเกาะพะงัน

“อุ้ย นั่นมันปลาโลมานี่” ฉันอุทานเบาๆหลัง

จากเห็นปลาตัวใหญ่ยักษ์กำาลังไล่จับปลาเล็กปลา

น้อย อยู่ตรงท่าเรือ หลายคนกำาลังถ่ายรูปปลาตัวนั้น

แต่ฉันกำาลังคิดว่า เพราะอะไร มันถึงได้มาอยู่ใกล้

ชายฝั่งขนาดนี้ ยิ่งมองไปที่ผืนน้ำา เห็นคราบน้ำามันจาก

อุตสาหกรรมการเดินเรือด้วย ยิ่งเริ่มสะเทือนใจ ใน

นิสัยสัตว์สองเท้าเช่นเดียวกับเรา

ไม่นานเท้าเล็กๆของเราก็วางอยู่บนหากทราย

สีขาวแสนนุ่ม ของ หาดสลัดพะงัน ซึ่งนุ่มราวกับไย

ไหม ไม่รู้หรอกว่าทรายที่นี่นุ่มเท่าที่อื่นไหม แม้ที่นี่จะ

เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่ก็ยังคงความ

เงียบสงบมาก

ธรรมชาติที่นี่ ยังไม่ถูกทำาลายมากนักแม้เป็น

สมุย - พะงัน ...ลมเย็นดี~

เรื่อง/ภาพ : จุฑารัตน์์ หัสจุมพล

ที่สมุยมีต้นมะพร้าวเยอะแยะ ฉันเคย

เห็นในทีวี วันนี้ได้มีโอกาสมาเห็นด้วยตาจริงๆ

ว่าที่นี่มีต้นมะพร้าวเยอะมาก ฉันแอบคิดว่า ยัง

ไงก็ต้องลองชิมมะพร้าวสมุยซะหน่อย ว่าจะ

อร่อยสู้มะพร้าวน้ำาหอมสามพรานได้ไหม

หาดเฉวงลมเย็นมาก ที่นี่ลมเย็นจริงๆ

เล่นเอาฉันไม่มีจิตใจจะทำาอะไร นอกจากนั่ง

ตา-กลม หาดเฉวงมีชายหาดที่ขาวและกว้าง

มาก นักท่องเที่ยวก็เดินกันอยู่ไม่ขาดสาย และ

ที่สำาคัญ สิ่งมีชีวิตที่นี่ ยังสัมผัสกับวิถีธรรมชาติ

อยู่เสมอ เรือประมงหลายลำาจอดอยู่ และยง

มีร่องรอยการใช้งานมานาน แสดงให้เห็นว่า

ที่นี่ยัง เป็นแหล่งหาปลาที่ค่อนข้างสมบูรณ์

ประกอบกับนักท่องเที่ยวที่เดินถือเบ็ดตกปลา

ไปมา ยิ่งย้ำาภาพให้เห็นชัดว่า ธรรมชาติที่นี่

เลือกพวกเค้าจริงๆ

เกาะสมุยเราได้พบกันหาดทรายขาวๆ คลื่นทะล

ไม่แรงมากนัก เหมาะกับการเล่นน้ำาทะเล หรือ

พักผ่อนสบายริมหาด ซึ่งชาวต่างชาติส่วนใหญ่

ก็จะนิยมอาบแดดกันบริเวณนี้

ที่ชายหาดที่นี่มีปูตัวน้อยๆ เยอะมาก ถึง

จะเป็นสัตว์เล็กๆแต่ก็เลือกที่ เฉพาะที่ๆมันชอบ

เท่านั้น ที่มันจะไปขุดทราย ทำาทราบเป็นก้อนๆ

และผผลุบเข้าผลุบออกจากรู เล็กที่มันสร้าง

และแถมมันทำาเหมือนไม่มีใครเห็นมันด้วยสิ

ยิ่งฉันก้มหน้าไปดูมัน มันก็ทำาราวกับว่ามันเป็น

เพียงอากาศเท่านั้น มันนิ่งงัน ราวกับว่า เป็นคน

ที่เจอหมีแล้วต้องแกล้งตายอย่างไรอย่างนั้น

วัดแหลมสุวรรณาราม เป็นสถานที่แรก

ที่เราจะไปเยือนกัน บรรยากาศที่นี่ค่อนข้าง

เงียบสงบมากเลยทีเดียว ที่นี่มีประติมากรรม

แบบผสมผสาน ไทยจีน หากก้าวเข้ามาก็จะเห็น

องค์เจ้าแม่กวนอิ่มขนาดใหญ่ยักษ์ ตั้งอยู่กลาง

น้ำา นอกจากนั้นยังมีพระสังจายน์ ให้ได้สักการ

บูชา ขอพรก่อนเดินทางกลับ ฉันเหลือบไปมอง

ทางด้านหลังขององค์เจ้าแม่กวนอิ่ม ดูๆไป ช่าง

คลับคล้ายกับดินแดนลุ่มแม่น้ำาภาคกลางที่ฉัน

เคยคุ้นเคย ด้านหลังเต็มไปด้วยนกกระยาง นก

พิราบหลากสี ที่อาศัยดินแดนแห่งพระพุทธ

ศาสนาแห่งนี้ พักพิงอาศัย

จะจะนับบนเกาะ วัดแหลมสุวรรณาราม

หรือวัดท้ายแหลม มีบริเวณค่อนข้างใหญ่และ

อลังการมากเลยทีเดียว ยิ่งมาอยู่บนเกาะด้วย

สมุย - พะงัน ...ลมเย็นดี~

เรื่อง/ภาพ : จุฑารัตน์์ หัสจุมพล

แล้ว ยิ่งทำาให้ทั้งสองประการข้างต้นยิ่งทวีขึ้นเรื่อยๆ

เหมือนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามากราบไหว้อย่างไม่

ขาดสาย

หลังจากนั้นไม่นาน เราก็เดินทางมาถึงวัดพระ

ใหญ่ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธโคดม พระพุทธ

รูปปางมารวิชัยสูง 12 เมตร ดพระใหญ่สร้างขึ้นในปี

พุทธศักราช 2515 ทางปลายสุดด้านเหนือของเกาะใกล้

กับหาดบ่อผุด ซึ่งเป็นที่เคารพสักระของพุทธศาสนิกชน

ชาวสมุยจนถึงปัจจุบัน และถือเป็นพระพุทธรูปองค์

ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ ที่ประดิษฐานไว้กลางแจ้งบนยอด

เขา พวกเราขับรถยนต์เข้าไปจอดที่บริเวณลาดจอดรถ

ของวัด ไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธ์ และพบกับจุดชมวิว

ทิวทัศน์ที่สวยงามรอบบริเวณองค์พระใหญ่

ไปลุยที่ต่อไปกันดีกว่า ฉันได้ยินพี่คนขับรถบอก

ว่าตะพาเราไป น้ำาตกหน้าเมือง เป็นเป็นน้ำาตกที่มีชื่อ

เสียงของอำาเภอเกาะสมุย ที่เกิดจากภูเขาใหญ่ใจกลาง

เกาะ ความสูงของน้ำาตกประมาณ 30-40 เมตร กว้าง 20

เมตรค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว ปัจจุบันกรมป่าไม้ได้จัด

ให้เป็นวนอุทยานน้ำาตกหน้าเมือง มีเนื้อที่ประมาณ 10

ไร่ รัชกาลที่ 5 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาล

ที่ 9 ได้เคยเสด็จมาทอดพระเนตรน้ำาตกแห่งนี้แล้ว แอ่ง

น้ำาขนาดใหญ่ที่เห็นในรูปสามารถลงไปเล่นได้ แต่ต้อง

ระมัดระวังอันตรายจากโขดหินในแอ่งน้ำา แต่เสียดาย

ในช่วงที่เราไปค่อนข้างแล้ง น้ำาน้อยอย่างเห็นได้ชัด แต่

ความงามของโขดหินตะปุ่มตะป่ำาก็ทำาให้ฉันเริ่มจะลืม

เลือนสิ่งอื่นๆ

เป้าหมายต่อไปของเรา ก็คือ หินตาหินยาย ซึ่งมี

รูปลักษณะแปลกๆ อยู่บริเวณอ่าวละไม มีนิทานท้องถิ่น

เล่ากันต่อๆ มาว่า นานมาแล้ว มีตายายคู่หนึ่ง ชื่อ ตาเครง

ยายเรียม เป็นชาวปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช

เดินทางโดยเรือใบเพื่อมาสู่ขอลูกสาวของตาม่องล่าย ที่

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้กับลูกชาย เรือแล่นมาถึง

บริเวณแหลมละไม เกิดพายุทำาให้เรือล่ม ทั้งตาและยายก็

เสียชีวิตลง ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยหาด กลายเป็นหินตาหิน

ยาย อย่างที่เห็นในปัจจุบัน หินตาอยู่ห่างไกลจากหินยาย

นิดหน่อย ที่โดดเด่นคงเป็นก้อหินรูปประหลาดที่ดูไป

คล้ายๆกับปิ๊กาจูผู้ชายอย่างไรอย่างนั้น ก็ดึงดูดนักท่อง

เที่ยวทั้งไทยและเทศมากมายให้มาดู

เกาะสมุย แฝงความเป็นอุตสาหกรรมการท่อง

เที่ยวกับการรักษาธรรมชาติได้อย่างสมดุล ตามถนน

หนทางที่ผ่าน จะเห็นต้นมะพร้าว ต้นไม้เขียวชอุ่มตลอด

เวลา คงเป็นสิ่งนี้เองที่ธรรมชาติยอมเลือกสมุย และสมุย

ยอมเลือกเรา