nu skin - rebirth

4
เรื่อง: ปฏิคม พลับพลึง Nu Skin…Rebirth เปลี่ยนธุรกิจ Anti-aging มีการคาดการณ์ว่า ตลาดผลิตภัณฑ์ Anti- aging ทั่วโลกในปี 2013 จะมีมูลค่ามากกว่า 270,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เฉพาะในภาคพื้น เอเชียแปซิฟิก ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้จะมีอัตราการ เติบโตมากกว่า 80% ในปี 2015 Anti-aging Company นู สกิน (Nu Skin) บริษัทผู้ผลิตและ ผู้ขาย เครื่องสำอาง ที่ทำธุรกิจในระบบขายตรงแบบ MLM ของอเมริกา เป็นหนึ่งในธุรกิจเครื่อง สำอางที่บุกธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง Anti-aging อย่างจริงจังต่อเนื่องมาหลายปี ปี หน้า นูสกินจะมีอายุครบ 30ปี นับแต่เริ่ม ก่อ ตั้งธุรกิจของตนในอเมริกา และ 15 ปีสำหรับ การดำเนินธุรกิจในไทย ธุรกิจ Anti-aging ในไทยมีมูลค่า ประมาณสี่พันกว่าล้านบาท และกำลังมีอัตราเติบโต อย่างรวดเร็ว เพราะคนปัจจุบันทั้ง ชายหญิงที่มีรายได้ดี มีกำลังซื้อสูง ต่างให้ความสนใจกับการ Anti-aging เพื่อให้ใบหน้ายังคงดูอ่อนเยาว์ อยู่เสมอมากขึ้น ทำให้ผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอางกลุ่ม Anti-aging เติบโต ในอัตราที่สูงมาก 043 THE COMPANY

Upload: joy-marzilli

Post on 06-Mar-2016

227 views

Category:

Documents


0 download

DESCRIPTION

Nu Skin...Rebirth Anti-Aging

TRANSCRIPT

Page 1: Nu Skin - Rebirth

เรื่อง: ปฏิคม พลับพลึง

Nu Skin…Rebirth เปลี่ยนธุรกิจ Anti-aging

มีการคาดการณ์ว่า ตลาดผลิตภัณฑ์ Anti-aging ทั่วโลกในปี 2013 จะมีมูลค่ามากกว่า 270,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เฉพาะในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้จะมีอัตราการเติบโตมากกว่า 80% ในปี 2015 Anti-aging Company นู สกิน (Nu Skin) บริษัทผู้ผลิตและ ผู้ขายเครื่องสำอาง ที่ทำธุรกิจในระบบขายตรงแบบ MLM ของอเมริกา เป็นหนึ่งในธุรกิจเครื่องสำอางที่บุกธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง Anti-aging อย่างจริงจังต่อเนื่องมาหลายปี ปีหน้า นูสกินจะมีอายุครบ 30ปี นับแต่เริ่ม กอ่ตั้งธุรกิจของตนในอเมริกา และ 15 ปีสำหรับการดำเนินธุรกิจในไทย

ธุรกิจ Anti-aging ในไทยมีมลูคา่ ประมาณสีพ่นักวา่ลา้นบาท และกำลังมีอัตราเติบโต อย่างรวดเร็ว เพราะคนปัจจุบันทั้งชายหญิงที่มีรายได้ดี มีกำลังซื้อสูง ต่างให้ความสนใจกับการ Anti-aging เพื่อให้ใบหนา้ยงัคงดอูอ่นเยาว ์ อยูเ่สมอมากขึ้น ทำให้ผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอางกลุ่ม Anti-aging เติบโตในอัตราที่สูงมาก

043THE COMPANY

Page 2: Nu Skin - Rebirth

“นู สกิน มีการงบประมาณสำหรับ การทำวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สูง ถึง 10% ของรายได้ และเน้นการทำในเรื่อง Anti-aging สี่ห้าปีที่แล้ว เราเริ่มคิดว่าเราต้องการจะทำสิ่ งที่ เ ราชำนาญดีอยู่ แล้ วให้ ดีขึ้ นคือ เรื่ อง Ant i -ag ing เราจึ ง เริ่มสร้างพันธมิตร สร้างศูนย์วิจัย” ภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นู สกิน เอน็เตอรไ์พรส์ (ประเทศไทย) จำกดั กล่าว “เราต้องการ Positioning บริษัท ของเรา แบรนด์ของเรา ให้เป็น Anti-aging Company เพื่อให้ลูกค้า

การ Positioning ตัวเองให้เป็น Anti-aging Company ผลักดันให้ นู สกิน ทำงานวิจัยและพัฒนาอย่างหนัก ด้วยทีมนักวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่มากกว่า 170 คน และยังทำงานวิจัยในเรื่อง Anti-aging กับพันธมิตรจำนวนมาก ทัง้กบัสถาบนัการศกึษา เชน่ มหาวทิยาลยั สแตนฟอร์ด, UCLA, มหาวิทยาลัยปักกิ่ ง ฯลฯ และสถาบันวิจัยต่างๆ รวมจำนวนทั้งสถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัยที่เป็นพันธมิตรกับนู สกิน ในการทำวิจัยเรื่องเกี่ยวกับ Anti-aging มีมากกว่า 150 สถาบัน

ageLOC Technology สถาบันวิจัย LIFEGEN ซึ่งเป็นสถาบัน วิจัยที่ เป็นผู้นำในระดับโลกในการทำงานวิจัยเพื่อแก้ปัญหาความแก่ชราในระดับยีน ต่ อ เนื่ อ งมานับสิบปี เป็นพันธมิตรที่สำคัญมากของนู สกิน ทำงานร่วมกันมาหลายปี และทำให้ นู สกิน ประสบความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนา จนได้ เทคโนโลยี ใหม่ ของผลิตภัณฑ์ Anti-aging ที่เรียกว่า ageLOC Technology ซึ่งก้าวข้ามเทคโนโลยี Anti-aging ทั่วไป เพราะเทคโนโลยีนี ้ ทำให ้ น ู สกินสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ Anti-aging ที่สามารถเขา้ไปแกป้ญัหาความแกช่รา

ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา Live Young และ Feel Young ด้วย สินค้าจึงต้องทำให้สิ่ งนั้น เกิดขึ้น เราก็จึ ง โฟกัสนวัตกรรมที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของเรามาช่วยให้ผู้บริโภคเกิดสิ่งเหล่านั้นขึ้นมาได้” นู สกิน น่าจะเป็นบริษัทแรกในโลกที่ประกาศยุทธศาสตร์ชัดเจน ในเรื่องการเป็น Anti-aging Company สำหรบัในป ี2011 ทีผ่า่นมาน ูสกนิ ทัว่โลกมีรายได้มากกว่า 50,000 ล้านบาท ขณะที่ในไทยมีรายได้ประมาณ 2,200 ล้านบาท ในไทยช่วงหลายปีที่ผ่านมา นู สกิน มีอัตราการเติบโตในแต่ละปี ตั้งแต่ 50-100%

ภคพรรณ ลีวุฒินันท์

ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย)

จำกัด เธอกำลังจะเป็นผู้นำ นู สกิน ประเทศไทย ไปสู่ความเป็นผู้นำ

ในธุรกิจผลิตภัณฑ์ Anti-aging

44 THE COMPANY

Page 3: Nu Skin - Rebirth

ไดท้ีร่ะดบัยนี อันเป็นต้นตอของสาเหตุ ที่ ทำให้ ร่ างกายของมนุษย์แก่ชรา ความสำเร็จที่ เกิดขึ้นทำให้ นู สกิน ตัดสินใจซื้อสถาบันวิจัย LIFEGEN เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ภคพรรณ กล่าวว่า “เราประสบความสำเร็จเมื่อสามปีที่แล้ว เราเรียกว่า ageLOC Technology เราสามารถรู้ว่า ยีน (Gene) ตัวไหนทำงานอย่างไร และยีนตัวไหนทำให้เซลล์ในร่างกายของเราเสื่อมสภาพ เราเข้าใจตรงนั้น คิดค้นเทคโนโลยีที่สามารถปรับยีนให้กลับมาสร้างเซลล์ที่อ่อนเยาว์อีกครั้งหนึ่ง เทคโนโลยีนี้คือการค้นพบว่า ยีนอะไรทำให้ เซลล์ในร่างกายมนุษย์ เสื่อมสภาพ ทำให้แก่ชรา ผิวหย่อนคล้อย เราใช้พันธุวิศวกรรมเข้าไปศึกษายีน ซึ่งในโลกนี้มีน้อยสถาบันที่ศึกษาเรื่องนี้ อย่างจริงจัง เพราะต้องใช้เวลาศึกษายาวนาน ทุนเยอะ เป็นการศึกษากระบวนการของนวัตกรรม และเราพบว่ ายี นตั ว ไหนทำให้มนุษย์ แก่ ช รา เป็นการค้นพบที่ยั งไม่มี ใครค้นพบ พบกลุ่มยีนที่ทำให้คนเราแก่ เราพบว่าระดับของยีนในวัยแก่กับวัยรุ่นไม่เหมือนกัน เราพบว่าแถบสียีนวัยรุ่นและวัยชราไม่เหมือนกัน เราก็ใช้สาร ที่ เราใส่ในผลิตภัณฑ์นี้ ไปทำให้ยีน สร้างเซลล์กลับมาเป็นวัยรุ่นใหม่ เป็น สารประเภทสารต้านอนุมูลอิสระ นีเ่ปน็การคน้พบทีย่ิง่ใหญม่าก ทีผ่า่นมาการแก้ปัญหาเป็นการแก้ปัญหาปลายทาง แต ่ น ู สกิน ของเราเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นตอ พบว่าปัญหาของการแก่ชราคือยีนตัวไหน กลุ่มไหน เราพบยี น แ ล้ ว ร้ อ ย ก ว่ า ตั ว มั น ค อ น โ ท ร ล ทกุๆ อยา่ง ทีท่ำใหเ้ราดแูก ่เราจงึพฒันาสารสร้างผลิตภัณฑ์ที่เข้าไปสามารถทำให้ยีนกลับเข้าไปเป็นสมัยวัยรุ่น เราทำให้ร้อยกว่าตัวยีนปรับระบบการทำงานสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่ให้เหมือนสมัยอ่อนเยาว์

ในอนาคตอันใกล้นี้ ยังมีการพัฒนา ageLOC Technology สู่การต่อต้านความเสื่อมชราในรูปแบบอาหารเสริมอีกด้วย เพื่อให้ นู สกิน ยืนหยัดอย่างมั่นคงในการเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ในการต่อต้านความชรา จากเครื่องสำอาง สู่อาหารเสริม “ประมาณต้นปี 2013 เราจะวางตลาดอาหารเสริมที่ใช้เทคโนโลยี ageLOC ด้วย เพื่อให้ผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าของเรามีความแข็งแรงจากข้างใน” ภคพรรณ กล่าว อาหารเสริมเข้าไปดูแลภายในทีมวิจัยของ นู สกิน เลือก Ingredient ที่ดีที่สุดในปริมาณที่ เหมาะสมพัฒนาเป็นอาหารเสรมิ เปน็ ageLOC Technology ซึ่งจะ Rebirth เซลล์ ในร่างกายข้างใน ผลิตภัณฑ์จะทำงานในระดับยีนเช่นกัน เพื่อไปทำให้เซลล์สร้างตัวเองใหม่เพื่อเซลล์จะได้กลับไปทำงานได้เหมือนเดิม ภคพรรณ ชีแ้จงวา่ “อาหารเสรมิที ่น ูสกนิจะวางตลาดมีสองตัว เป็นตัวเข้าไปปรับยีนในร่างกายที่ทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม เน้นด้าน Anti Occident เป็นหลัก ทำให้เซลล์อวัยวะภายใน ของรา่งกายกลบั Rebirth ใหม่” ความสำเรจ็ในเรือ่ง ageLOC Technology ในตลาดยังไม่มีใครทำได้อย่าง นู สกิน ทำให้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมสาขาทีมนกัวทิยาศาสตรท์ีด่ทีีส่ดุจาก International Business Awards หรือ Stevies Awards ตั้งแต่ปี 2010

นี่เป็นเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าที่สุด เราเริ่มจากสร้างผลิตภัณฑ์สำหรับข้างนอกก่อน เราเรียกว่า Transformation ageLOC มีครบกระบวนการตั้งแต่ล้างหน้าจนครบกระบวนการทุกอย่าง ออกมาตั้งแต่สองปีที่แล้ว ใช้ทุกส่วนของหน้าครบวงจร มีทั้งผลิตภัณฑ์ล้างหน้า, Day Crème, Night Crème และซีรั่ม” ศูนย์วิจัยต่อต้านความชราครอบคลุมสองซีกโลก ความสำเร็จจากการสร้าง ageLOC Technology ส่งผลต่อการตัดสินใจของ บรษิทั น ูสกนิ เอน็เตอรไ์พรส์ องิค ์อเมรกิา

ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ นู สกิน ทั่วโลก ในการลงทุนกว่า 2,600 ล้านบาท เพื่อดำเนนิการกอ่สรา้ง Nu Skin Innovation Center ซึ่งจะเป็นศูนย์วิจัยแบบครบวงจรที่มีความทันสมัย โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2013 ปัจจุปัน นู สกิน ได้เปิดตัวสถาบันวิจัยเพื่อการต่อต้านความเสื่อมชราโดยเฉพาะเจาะจงอย่างเป็นทางการที่โพโว สหรัฐอเมริกา ควบคู่กับศูนย์วิจัยที่จีน และเชียงไฮ้ ซึ่งทำให้ นู สกิน มีสถาบัน วิจัยและพัฒนาครอบคลุมสองซีกโลก ที่สำคัญนอกจากเทคโนโลยี ageLOC จะอยู่ในผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลผิวแล้ว

“การที่นู สกิน ได้ลงทุนสร้างศูนย์วิจัย ต่อต้านความชราอยู่ทั้งสองซีกโลก

ในสหรัฐและในจีนนี้ ทำให้นู สกิน มีความรู้ ลึกซึ้งเกี่ยวกับการต่อต้านความชรา

เพราะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับคนทั้สองซีกโลกที่มียีนต่างกัน

และสร้างความแข็งแกร่งให้กับการเป็น Anti-aging Company ของ นู สกิน”

45THE COMPANY

Page 4: Nu Skin - Rebirth

สื่อสารสู่ Mass Media ดร.โจ แช็ง (Joe Chang) หัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์ และรองประธาน กรรมการนู สกิน เคยพูดไว้ว่าความสำเร็จจาก ageLOC Technology จะทำให้ “Game Over for Competition” นั้น อาจจะหมายถึงความมั่นใจว่า นู สกิน ชนะแลว้ในการแขง่ขนัในธรุกจิ ผลิตภัณฑ ์ Anti-aging ในวันนี้ สิ่งที่ นู สกิน จะต้องทำต่อไปคือ การให้ความรู้เรื่องนี้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่จะไม่ใช่เพียงการสื่อสารอยู่ในเฉพาะกระบวนการขายตรงแบบ MLM เทา่นัน้ สำหรับในไทย นู สกิน กำลังจะทำ แคมเปญใหญ่ที่จะ Launch ไม่เกินเดือนกันยายน เพื่อสื่อสารความรู้ เกีย่วกบัขอ้ดขีอง ageLOC Technology ผ่านสื่อที่ เป็นแมส เพื่อให้ข้อมูลแก่ลูกค้าเป้าหมายในวงกว้าง สู่ผู้ ใช้ผลิตภัณฑ์ Anti-aging ในตลาดเปิด เป็นแคมเปญที่ยิงยาวต่อเนื่อง เพื่อดึงคนที่มีกำลังซื้อในตลาดเปิดเข้าหาผลิตภัณฑ์ของ นู สกิน มากขึ้น

“Nu Skin Enterprises เป็นบริษัทแรกที่ประสบความสำเร็จในการ

ศึกษาการต่อต้านความชราลงลึกในระดับยีน ซึ่งมีการศึกษากลุ่มยีนที่เกี่ยวข้องถึง ร้อยกว่าตัว และประสบความสำเร็จ

ออกมาเป็น ageLOC Technology”

1 แม้เศรษฐกิจจะถดถอย ผู้บริโภคยังใช้จ่ายเงินเพื่อผลิตภัณฑ์ต้านความ เสื่อมชรา แสดงว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่จะรักษาความอ่อนเยาว์ เหนือกว่าการดูแลความสวยงามด้านอื่นๆ

2 ในอีกไม่ถึง 10 ปีข้างหน้า จำนวนประชากรของผู้มีอายุ 65 ปี และมากกว่าจะมีตัวเลขที่สูงกว่าจำนวนประชากรอายุต่ำกว่า 5 ปี เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

3 คาดว่าจำนวนประชากรอายุมากกว่า 65 ปี จะเพิ่มเป็นสองเท่าในปี 2050

4 เกือบ 80% ของผู้บริโภคกลุ่มเบบี้บูมต่างค้นหาวิธีเพื่อให้รู้สึกและคงความอ่อนเยาว์ไว้

5 มากกว่า 90% ของผู้บริโภคต่างสนใจที่จะเรียนรู้วิธีเพื่อความสำเร็จสู่การดำเนินชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ

6 ตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและการดูแลผิวทั่วโลกมีมูลค่า 333 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มต้านความเสื่อมชรามีการเติบโตสูงสุด

7 ตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพมีมูลค่า 596 พันล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มต้านความเสื่อมชรามีการเติบโตเร็วที่สุด

8 คาดการณ์ว่าตลาดต้านความเสื่อมชราจะมีมูลค่าถึง 274.5 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐในปี 2013

9 ในปี 2015 อุตสาหกรรมต้านความเสื่อมชราในแต่ละภูมิภาคจะเติบโต 76% ในสหรัฐอเมริกา 73% ในยุโรป 72% ในญี่ปุ่น และ 82% ในเอเชียแปซิฟิก

ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดต่อต้านความชรา

ที่มา : นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย)

จ า ก ผ ล ก า ร ศึ ก ษ า ท า ง ด้ า นประชากรศาสตรพ์บว่า จำนวนผู้สูงอายุในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี และมีสัดส่วนใหญ่ขึ้นกว่า 10% ของประชากรทั้งหมด ประชากรในยุคเบบี้บูม ที่เกิดในช่วง 40-50 ปีที่ผ่านมาจะเป็นผู้สูงอายุในอีก 10 ปีข้างหน้า คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ที่มีพื้นฐานการศึกษา และการทำงานที่ดี จึงมีกำลังซื้อสูง ทำให้สินค้าและบริการเพื่อสุขภาพ และชะลอความชราภาพ เป็นสินค้าที่มีความต้องการสูงขึ้น ต่อเนื่อง นี่คือ โอกาสทางการตลาดที่ ดี ของ นู สกิน สำหรับการก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ต่อต้านความชรา และอาจเป็นผู้นำที่จะปฏิวัติธุรกิจ Anti-aging ในอนาคตอันใกล้

46 THE COMPANY